นางยังพาคนมาอีก?
โม่เฟยเฟยปรายตามองนางด้วยความสงสัย แต่เพราะโม่เยว่อยู่ด้วย นางก็ไม่อาจเข้าไปด่ากราดหยุนหว่านหนิงได้อีก ได้แต่ขมวดคิ้วมองด้านนอก
ไม่นาน หรูยี่ก็พาโหยวเอ้อที่ถูกมัดตัวเป็นนักโทษ
ถ้าเป็นหยุนหว่านหนิงคนเดียว จะพาโหยวเอ้อมาที่นี่ตัวเป็นๆ....
โดยเฉพาะยังพาเข้าวังมาอย่างถูกมัดตัวเป็นนักโทษ ดูจะทำได้ยากสักหน่อย
แต่โชคดีที่มีโม่เยว่ เลยพาเข้ามาตำหนักเว่ยหยางได้อย่างเงียบกริบ
หลังจากเห็นหน้าตาโหยวเอ้อชัดเจน โม่เฟยเฟยสีหน้าซีดเผือดทันที
นางจำได้ หวนย้อนคิดถึงคืนนั้นที่น่ากลัวเมื่อสี่ปีก่อน ใบหน้าดุร้ายนั่นของโหยวเอ้อ สี่ปีมานี้คอยหมุนวนในหัวสมองนาง โม่เฟยเฟยสั่นสะท้านไปทั้งร่างทันที!
จากนั้นนางลุกขึ้นยืนอย่างรู้สึกไม่ปลอดภัย และเข้าไปหลบหลังโม่เยว่
ดูท่าทางนั่นคือ ตกใจหนักมากจริงๆ
มิน่าล่ะถึงเคียดแค้นหยุนหว่านหนิงขนาดนี้!
หลายวันนี้ที่นางทำเกินกว่าเหตุกับเธอ หยุนหว่านหนิงไม่ถือสาละ ตรงกันข้ามกลับมองนางอย่างสงสาร
“หยุนหว่านหนิง เจ้าคิดจะทำอะไร?! เจ้านำคนผู้นี้เข้าวังมาทำอะไร?! หรือว่า สี่ปีก่อนให้ร้ายข้าไม่สำเร็จ วันนี้อยากให้ร้ายข้าอีกรึ?!”
โม่เฟยเฟยตัวสั่นเทาอยู่หลังโม่เยว่
นางตะโกนออกไปข้างนอกเสียงแหลม “ใครก็ได้! ใครก็ได้รีบมาเร็ว!”
“พวกเจ้าตายกันหมดแล้วรึ? ยังไม่รีบมาลากเจ้าคนถ่อยนี่ออกไปตีให้ตายอีก?!”
โหยวเอ้อเองก็ตกใจมาก
เขาโดนหยุนหว่านหนิงจับขังห้องเก็บฟืนอยู่หลายวัน และไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันเลย
วันนี้พึ่งจะได้เจอแสงตะวัน ก็โดนหรูยี่ซัดฝ่ามือใส่จนสลบไป
ฟื้นมาอีกที ก็มาอยู่ที่ตำหนักเว่ยหยางแล้ว องค์หญิงเก้ากรี๊ดร้องบอกให้เอาเขาไปตีให้ตาย...
โหยวเอ้อตกใจแทบฉี่ราด รีบขอร้องอ้อนวอน
“เฟยเฟย อย่ากลัวไปเลย ข้าอยู่นี่”
โม่เยว่รีบปลอบประโลมโม่เฟยเฟย “เรื่องเมื่อสี่ปีก่อน มีเงื่อนงำ”
“ในเมื่อเจ้าจำเขาได้ ก็ฟังเขาพูดความจริงเรื่องเมื่อสี่ปีก่อนซะ”
มีเขาอยู่ โม่เฟยเฟยเลยพอสงบใจลงได้
เพียงแต่ นางยังตัวสั่นเทา
หยุนหว่านหนิงรีบขึ้นหน้า กำลังจะยื่นมือไปตบไหล่นาง ได้เลยจะรู้ว่าโม่เฟยเฟยทำราวกับไฟฟ้าช็อตก็ไม่ปาน เธอหดมือกลับทันที นางมองเธอเขม็งอย่างหวาดระแวง “เจ้าคิดจะทำอะไร?!”
น่ากลัวว่า เรื่องเมื่อสี่ปีก่อนจะทำให้เกิดบาดแผลฉกรรจ์ในใจนางแล้ว
หยุนหว่านหนิงทั้งรู้สึกผิด ทั้งสงสาร
“องค์หญิงเก้า แผนการโง่ๆเมื่อสี่ปีก่อน ข้าผิดเองจริงๆ! ข้าขอโทษ” เธอพูดอย่างจริงจังด้วยสีหน้ารู้สึกผิดว่า “ท่านตบตีข้าก็ดี ด่าข้าก็ได้! แต่ข้าไม่อยากให้ท่านเข้าใจข้าผิด ดังนั้นท่านฟังข้าพูดให้จบก่อนค่อยว่ากัน”
ระหว่างพูด เธอหมุนตัวหันไปจ้องโหยวเอ้อเขม็ง “เล่าสิ่งที่เจ้าพูดกับข้าแก่องค์หญิงเก้าอย่างละเอียด!”
“หากปกปิดแม้แต่นิดเดียว ข้าจะจับเจ้าสับเป็นเนื้อสับ!”
สายตามาดร้ายทำให้โหยวเอ้ออดคิดถึงท่าทางน่ากลัวของนางยามถือมีดสั้นในเรือนชิงหยิ่งวันนั้น
โหยวเอ้อนอนขดตัวอยู่บนพื้น เล่าเรื่องราวทั้งหมดออกมาด้วยเนื้อตัวสั่นเทา
“องค์หญิงเก้า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพระชายาหมิง!”
เขาเงยหน้าขึ้นมา พูดด้วยสีหน้าหวาดกลัวว่า “ตอนนั้นพระชายาหมิงกำชับหนักหนา ให้พวกเราพี่น้องแค่ทำให้องค์หญิงเก้าตกใจกลัวเท่านั้น ห้ามทำร้ายท่านแม้แต่นิด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...