อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 450

“เรื่องอะไร?”

ให้เขาคิดดูก่อน....

เพื่อลูกศิษย์ของตน เสวียนซันเซียนเซิงไอเบาๆหนึ่งที ดวงตากะพริบ พร้อมพูดขึ้นว่า “ใช่ เมื่อกี้ข้าอยากบอกเจ้าว่า หยวนเป่าน่ารักมากเลย”

“เทียบกับเจ้าที่เป็นท่านแม่ เขาน่ารักมาก”

“ทั้งฉลาดทั้งหลักแหลม ยังว่าง่ายน่ารักยิ่งนัก”

หยุนหว่านหนิงกลอกตามองบน พร้อมพูดขึ้นว่า “เรื่องนี้หรือ?”

“ใช่ เรื่องนี้แหละ”

เสวียนซันเซียนเซิงพูดขึ้นอย่างหน้าตาเฉยว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือ?”

หยุนหว่านหนิงอยากที่จะพูดกับเขาว่า ใช่ เหี้ย อะไร

แต่เมื่อคิดดูแล้ว นอกจากเสวียนซันเซียนเซิงจะมีซ่งจื่ออวี๋เป็นศิษย์เพียงคนเดียวแล้ว ก็ไม่มีน้องสาวที่ไหน พูดไปเขาก็ไม่เข้าใจ

ที่มาจวนซ่งในคืนนี้ นอกจากขอบคุณซ่งจื่ออวี๋กับเสวียนซันเซียนเซิงแล้ว เรื่องเกี่ยวกับฮองเฮาจ้าว หยุนหว่านหนิงไม่พูดขึ้นมาสักคำ

นางกลับมาจวนอ๋องหมิงอย่างไม่ค่อยพอใจ แล้วก็สั่งให้หรูเยียนไปสืบดูเรื่องฮองเฮาจ้าว

รอโม่เยว่กับหยวนเป่านอนหลับแล้ว นางค่อยแอบออกไปเงียบๆ

“พระชายา”

หรูเยียนรออยู่ด้านนอกประตูแต่แรกแล้ว นางพูดขึ้นว่า “ข้าไปสืบมาแล้ว”

“เมื่อคืนฮองเฮาเหนียงเหนียงเปิดปากพูดได้ แต่ก็พูดเพียงว่าคุณชายน้อยถุกท่านอ๋องสามลักพาตัวไป นอกจากนี้ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้”

นางกระซิบพูดด้วยเสียงเบา

หยุนหว่านหนิงมองดูประตูด้านหลังที่ปิดสนิทอย่างระมัดระวัง แล้วให้นางพูดต่อ

“พูดเสร็จฮองเฮาเหนียงเหนียงก็เป็นใบ้อีก แบบนี้ส่งผลกระทบต่อจิตใจนางอย่างมาก ได้ยินมาว่าฮองเฮาเหนียงเหนียงดูเหมือนใกล้จะเสียสติไปแล้ว”

หยุนหว่านหนิงยักยิ้มที่มุมปากอย่างเย็นชา

ในเมื่อฮองเฮาจ้าวใกล้จะเสียสติแล้ว.....

นางควรที่จะทำอะไรสักอย่าง ให้นางเสียสติไปเลยดีไหม?

เหมือนกับฉินซื่อเสวีย

ไม่ใช่คนบ้านเดียวกัน ไม่พูดภาษาเดียวกัน

หนานกงเยว่หนีกลับไปยังตงจวิ้นอย่างฉลาด ฮองเฮาจ้าวก็ควรเหมือนกับลูกสะใภ้สามของนาง เป็นบ้าไปทั้งแม่ยายลูกสะใภ้

ทั้งครอบครัวปรองดองกัน

เห็นใบหน้าของนางยิ้มอย่างไม่ประสงค์ดี หรูเยียนจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าในใจเขาคิดอะไรอยู่?

ทุกครั้งที่พระชายาเผยรอยยิ้มแบบนี้ออกมา....นางก็รู้แล้วว่ามีคนต้องซวยแน่แล้ว

“พระชายา ท่านคิดอยากทำอะไรหรือเปล่า?”

“ข้าจำได้ว่า องครักษ์ของตำหนักคุนหนิงไม่ค่อยแน่นหนาเท่าไหร่?”

หยุนหว่านหนิงเลิกคิ้ว

เพียงประโยคเดียว หรูเยียนก็พูดขึ้นอย่างเข้าใจว่า “พระชายาคิดอยากที่จะไปตำหนักคุนหนิง?”

“เจ้าเข้าใจข้า”

หยุนหว่านหนิงส่งสายตามองดูนาง เผยแววตาอย่างมีเลสนัย พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าเฝ้าอยู่ที่นี่ เผื่อโม่เยว่กับหยวนเป่าตื่นขึ้นมากะทันหัน”

“แต่ว่าพระชายา ท่านไม่มีวิชาตัวเบา จะบุกเข้าไปในตำหนักคุนหนิงได้อย่างไร?”

หรูเยียนมองดูนางอย่างเป็นกังวล

หยุนหว่านหนิงเงยคางขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าดูถูกข้า?”

นางไม่มีวิชาตัวเบา แต่นอกจากนี้แล้วเชี่ยวชาญทุกอย่าง

จะบุกเข้าไปในตำหนักคุนหนิง ไม่ใช่เรื่องยากเลยสักนิด

อย่างเช่น ใช้ยาทำให้องครักษ์ตำหนักคุนหนิงสลบ.....

ยังมีอุปกรณ์อื่นๆอีกมากมาย สิ่งที่นางคิดอยากจะทำ จะยากเกินกว่านางหรือ?

เห็นนางเชื่อมั่นขนาดนั้น หรูเยียนก็ไม่รู้จะห้ามยังไง เพียงพูดขึ้นอย่างไม่วางใจว่า “พระชายา ท่านเข้าวังไปคนเดียว ข้าไม่วางใจ”

“หรือไม่ ให้หรูอวี้เข้าวังไปเป็นเพื่อนท่านดีไหม?”

หรูอวี้เป็นคนปากมาก นางจะกล้าพาหรูอวี้ไปด้วย?

แต่เมื่อคิดดูอีกที หรูอวี้ถนัดเรื่องทำให้คนตกใจ.....

พาเขาไปด้วย ก็ถือว่ามีประโยชน์

ดังนั้น หยุนหว่านหนิงใช้เงินหนึ่งร้อยตำลึง ประสบความสำเร็จในการซื้อตัวหรูอวี้

คนตายเพราะความร่ำรวย นกตายเพราะความตระกระ

ขอเพียงมีเงิน ไม่มีอะไรที่จะทำไม่ได้

หรูอวี้ถูกหยุนหว่านหนิงใช้เงินฟาดจนวิงเวียนหัวไปนานแล้ว เพียงได้ยินว่าพระชายามีรับสั่ง เขาก็ลุกตัวตรงขึ้นมาทันที

เขาล้วงเอากระเป๋าเงินออกมา พร้อมพูดขึ้นอย่างนอบน้อมว่า “ชีวิตของหรูอวี้เป็นของพระชายา พระชายาต้องการ ก็เอาไปได้เลย”

หยุนหว่านหนิงโยนเงินใส่เข้าไปในถุงเงินของเขา แล้วค่อยพูดขึ้นว่า “เจ้าอย่าคิดว่าพูดแบบนี้ แล้วข้าจะไม่รู้ว่าเจ้าเห็นแก่เงินของข้า”

“พระชายาฉลาดที่สุด”

หรูอวี้หัวเราะ

เขาเองก็แปลกใจ พระชายาของเขามีเงินมากมายเท่าไหร่กันแน่

จากเงินที่นางยอมทุ่มให้ เท่ากับเป็นผู้หญิงที่สุรุ่ยสุร่ายอย่างแท้จริง

แต่ไม่เคยเห็นนางยื่นมือขอเงินจากนายท่าน เงินของพระชายาได้มาจากไหนกันแน่

ให้เงินแล้ว เงาร่างหรูอวี้กับหยุนหว่านหนิงก็หายลับไปกับความมืด

มีหรูอวี้อยู่ด้วย อยากที่จะแอบย่องเข้าไปในตำหนักคุนหนิงนั้น เป็นเรื่องที่ง่ายมากเลย

หยุนหว่านหนิงไม่มีโอกาสได้ลงมือเลย หรูอวี้คว้าจับแขนของนาง โดดขึ้นลงไม่กี่ครั้งก็เข้ามาถึงในวัง แผนผังของวัง หรูอวี้รู้ดียิ่งกว่าหยุนหว่านหนิง

พริบตาเดียว ทั้งสองคนก็มาถึงบนหลังคาตำหนักคุนหนิง

มองออกไปไกล วังอันกว้างใหญ่นี้ นอกจากโคมไฟในวังแต่ละดวง ก็เหลือแต่ความเงียบสงบ

มีเพียงทหารรักษาพระองค์เวรดึกที่ผ่านไปมา ส่งเสียงฝีเท้าดังอย่างพร้อมเพรียง

“พระชายา ท่านอยากทำอะไร?”

หรูอวี้ถามขึ้นด้วยเสียงต่ำ

หยุนหว่านหนิงมองลงไป ภายในตำหนักคุนหนิงไม่มีเสียงอะไรเลย

จางหมัวมัวนั่งอยู่หน้าประตูตำหนักฮองเฮาจ้าว กำลังนั่งงีบหลับอยู่ข้างกำแพง ทุกคนต่างไม่ทันสังเกตเห็น มีคนกำลังจ้องจะทำร้ายฮองเฮาเหนียงเหนียงของพวกเขา.....

“เจ้าหลอกเป็นผีได้ไหม?”

หยุนหว่านหนิงถามขึ้น

“หลอกเป็นผี?”

หรูอวี้ขมวดคิ้ว พร้อมพูดขึ้นว่า “นี่น่าจะให้หรูโม่มา”

“ข้าน้อยหล่อขนาดนี้ ต่อให้แต่งเป็นผี ก็ต้องเป็นผีที่หล่อ ไม่ทำให้คนตกใจตายใช่ไหม”

หยุนหว่านหนิง “……”

โม่เยว่ทุเรศ ตัวเขาเองก็ทุเรศมาก

“หรูโม่ เขาหล่อกว่าเจ้ามากนะ?”

หยุนหว่านหนิงกลอกตามองบน

หรูอวี้ราวกับถูกธนูหมื่นอันทิ่มแทง มองดูนางด้วยใบหน้าหงิกงอ พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายา ท่านพูดแบบนี้ แทบเป็นการเอาชีวิตข้า”

“เรื่องไร้สาระพูดน้อยหน่อย”

หยุนหว่านหนิงพูดขึ้นด้วยเสียงต่ำว่า “เจ้าแกล้งเป็นผีไปหลอกเสด็จแม่”

สีหน้าหรูอวี้แข็งทื่อ

บนโลกนี้ ยังมีเรื่องอะไรที่พระชายาของเขาไม่กล้าทำ?

แกล้งหลอกคนอื่นก็ช่างเถอะ นางกลับจะแกล้งหลอกฮองเฮา?

แต่เมื่อคิดดูแล้ว เรื่องนี้ก็มีเพียงพระชายาของเขาที่กล้าทำ

ตอนที่หยุนหว่านหนิงพูดว่าจะมาตำหนักคุนหนิงตอนดึกดื่นค่ำคืน หรูอวี้ก็น่าจะคิดได้แล้วว่า นางจะต้องคิดทำอะไรฮองเฮาจ้าวแน่....

“นอกจากหลอกแกล้งฮองเฮาเหนียง พระชายายังจะให้ข้าน้อยทำอะไรไหม?”

หรูอวี้ถามขึ้นด้วยเสียงเบา

“เจ้าไปหลอกก่อน อย่างอื่นข้ายังคิดไม่ออก”

หยุนหว่านหนิงเชิดคาง

หรูอวี้ “……”

นอกจากคำว่าพระชายายอดเยี่ยมมาก เขาจะพูดว่าอะไรได้อีก?

ระหว่างที่พูด หยุนหว่านหนิงเอาหน้ากากผีออกมาจากในช่องว่างยื่นให้กับหรูอวี้ หน้ากากผีอันนี้หน้าเขียวเขี้ยวแยก

มองดูแล้ว สามารถทำให้คนตกใจตายได้

เขากลืนน้ำลายลงคอ สวมหน้ากากไว้อย่างไม่ค่อยพอใจ

ทั้งสองคนโดดลงพื้นอย่างแผ่วเบา

ก่อนที่จางหมัวมัวยังไม่ตื่น หยุนหว่านหนิงแทงเข็มลงไป นางดิ้นเหมือนหมูใกล้ตาย พร้อมสลบไปอย่างไม่ส่งเสียงออกมาสักนิด

หรูอวี้ผลักประตูเปิดออก พร้อมตั้งใจให้เกิดเสียง

ฮองเฮาจ้าวตื่นขึ้นมาทันที

เมื่อลืมตาขึ้นก็เผชิญกับหน้าผีแยกเขี้ยว

ฮองเฮาจ้าวตกใจจนเบิกตาค้าง พร้อมสลบหมดสติไป

“แค่นี้ก็ตกใจแล้วหรอ”

หรูอวี้ถอดหน้ากากออก พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายา ฮองเฮาเหนียงเหนียงตกใจหมดสติไปไวมากเลย ต่อจากนี้จะทำยังไงต่อ?”

หยุนหว่านหนิงมองดูฮองเฮาจ้าวที่หมดสติ ยกมือเท้าคางพร้อมกะพริบตา มุมปากยักยิ้มอย่างลึกซึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าคิดอะไรขึ้นมาได้แล้ว.....”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์