โม่เหว่ยพูดเป็นลางร้ายที่กลายเป็นจริง
จางลาเมี้ยนถูกประหารไปแล้วสองวัน โม่จงหรานก็มีพระราชโองการ สั่งคนนำไปยังเขาซีเซียง
โม่หุยเฟิงถูกกักบริเวณอยู่ในจวนเขาซีเซียงไปตลอดชีวิต หากไม่มีพระราชโองการห้ามก้าวออกไปจากเขาซีเซียง ห้ามเข้าเมืองหลวงไปตลอดชีวิต
อ๋องหยิงที่เคยรุ่งโรจน์อย่างที่ชุด ตอนนี้กลับตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
โม่หุยเฟิงถูกขับไล่ไปยังเขาซีเซียงไม่ถึงหนึ่งปี ก็สูญเสียคุณสมบัติในการชิงรัชทายาท ยังไม่ทันได้เข้าร่วมก็พ่ายแพ้อย่างไม่มีทางสู้
ทันใดนั้น คนในเมืองหลวงต่างก็รู้สึกถึงความอันตราย
พวกเหล่าขุนนางเผชิญหน้ากับโม่จงหรานอย่างหวาดระแวง กลัวภัยจะมาถึงตัว
ช่วงเวลานี้ โม่จงหรานเคลื่อนไหวไม่น้อย
ลงมือกับโม่ฮั่นอี่ว์ก่อน ถึงยังไม่ได้ปลดตำแหน่งอ๋องฮั่นของเขา แต่ถูกจองจำคุกหลวงก็ไม่รู้ว่าจะถูกปล่อยออกมาเมื่อไหร่
ยังกักขังคุณชายตระกูลโจวโจวฉางเฟิง พระชายาฮั่นโจวหยิงหยิงตกใจจนหลบเข้าไปอยู่ในจวนอ๋องหมิง
จากนั้น พระชายาหมิงลูกสะใภ้ที่โปรดโปรานที่สุดก็ถูกจองจำคุกหลวง ทะเลาะกับอ๋องหมิงด้วยเหตุนี้อย่างรุนแรง โม่จงหรานก็ไม่เปลี่ยนใจ จนอ๋องหมิงไม่สนใจเข้าร่วมการประชุมราชการเช้า ไม่สนใจเรื่องราชสำนัก
แม้แต่ค่ายเสินจีก็ไม่สนใจ
ต่อมาก็ประหารจางลาเมี้ยน กักบริเวณท่านอ๋องสามโม่หุยเฟิง.....
เรื่องแต่ละเรื่อง พูดขึ้นมาแล้วใครจะไม่รู้สึกหวาดกลัว?
เปรียบกับภาพลักษณ์ของฮ่องเต้ผู้เปี่ยมด้วยเมตตาและปรีชาญาณในอดีต โม่จงหรานเหมือนคนสองคนที่แตกต่างกัน
แต่พวกเหล่าขุนนางก็รู้ ครั้งนี้โม่หุยเฟิงแตะต้องความอดทนขั้นสุดของโม่จงหราน
เขาไม่เพียงเกลียดชังการเข่นฆ่ากันระหว่างพี่น้อง ยิ่งไม่ชอบให้มีใครมาเล่นตุกติกภายใต้สายตาเขา เพราะโม่หุยเฟิงมีจางลาเมี้ยนเป็นไส้ศึกอยู่ที่นี่ จึงทำให้โม่จงหรานโกรธเคืองอย่างที่สุด
ในตำหนักคุนหนิง ฮองเฮาจ้าวร้องไห้จนเป็นลมไปแล้ว
ตอนที่โม่หุยเหยียนเข้ามา จางหมัวมัวกำลังวุ่นวายสั่งคนในตำหนักไปเชิญหมอหลวงมา
“ไม่ต้องแล้ว”
โม่หุยเหยียนพูดห้ามขึ้นมาว่า “ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า เสด็จแม่คงเพราะเป็นห่วงเจ้าสาม สะเทือนใจจึงหมดสติไป”
“แต่ว่าท่านอ๋อง ช่วงนี้สุขภาพเหนียงเหนียงไม่ค่อยดี”
จางหมัวมัวมองดูฮองเฮาจ้าวที่หมดสติไป แล้วพูดขึ้นอย่างสะอึกสะอื้นว่า “หลังจากถูกพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมตักเตือนแล้วส่งตัวกลับ เหนียงเหนียงนอนไม่หลับทุกคืน”
“หลายวันมานี้ ร่างกายยิ่งแย่ลง”
“ตอนนี้เหนียงเหนียงหมดสติไป ยังไงก็ต้องให้หมอหลวงตาตรวจดูไหม?”
“ข้าบอกว่าไม่ต้องก็ไม่ต้อง เจ้าเป็นนาย หรือว่าข้าเป็นนาย?”
โม่หุยเหยียนกวาดสายตามองดูนางแวบหนึ่ง
จางหมัวมัวรู้สึกถึงแววตานี้ ทำให้นางตกใจเสียขวัญ
ปกติ อ๋องฉู่จะไม่มีแววตาที่น่ากลัวแบบนี้.....แต่สายตาเมื่อกี้ที่โหดเหี้ยมนั้น จางหมัวมัวอดไม่ได้ที่จะคิดถึงโม่หุยเฟิง
“ท่าน ท่านอ๋อง....”
“เจ้าลงไปก่อน”
โม่หุยเหยียนพูดขึ้นด้วยสีหน้าอ่อนลงว่า “ที่นี่มีข้าอยู่ ข้าอยู่กับเสด็จแม่ก็พอ”
“เพคะ ท่านอ๋อง”
จางหมัวมัวกลืนน้ำลายลงคอ มองดูโม่หุยเหยียนอย่างระแวดระวัง รู้สึกเหมือนว่าแววตาเมื่อกี้ ทำให้นางรู้สึกหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูก
นางเป็นห่วงฮองเฮาจ้าว แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งโม่หุยเหยียน
จางหมัวมัวเดินออกไปอย่างไม่วางใจ
เดิมนางคิดว่า โม่หุยเหยียนเป็นลูกชายแท้ๆของฮองเฮาจ้าว หลายปีมานี้ก็ไม่ได้กระทำเรื่องร้ายแรงอะไร จางหมัวมัวไม่ควรที่จะเป็นกังวลถึงจะถูก
แต่ตอนนี้ กลับเป็นกังวลกลัวโม่หุยเหยียนจะทำอะไรฮองเฮาจ้าว.....
จางหมัวมัวปิดประตูอย่างไม่สบายใจ
โม่หุยเหยียนค่อยหันกลับมา มองดูฮองเฮาจ้าวที่หมดสติด้วยสายตาเย็นชา
จากนั้น สายตาของเขาก็ค่อยๆกลายเปลี่ยนเป็นเฉียบคม สีหน้ายิ่งอยู่ก็ยิ่งโหดเหี้ยม
เขายื่นมือออกมา ใช้แรงกดตรงกลางเหนือริมฝีปากบนฮองเฮาจ้าว ให้นางฟื้นตื่นขึ้นมา
ฮองเฮาจ้าวลืมตาขึ้น เห็นคนที่นั่งข้างเตียงคือโม่หุยเหยียน นางลุกขึ้นมานั่งอย่างร้อนใจ คว้าจับหัวของเขาพร้อมแสดงท่าทีไม่หยุด พยายามอ้าปากพูด กลับยังไงก็เปล่งเสียงพูดอะไรไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...