กันไฉที่เป็นหัวหน้าเห็นแล้วก็รีบขวางลูกน้องที่อยู่ด้านหลังทันที
แต่เพราะพวกเขากำลังหนีลงเขา เมื่อคืนนี้ก็มีน้ำค้างค่อนข้างมาก ทางเดินบนเขาทั้งเปียกและลื่น
กันไฉขวางอยู่ด้านหน้าสุด คนที่อยู่ด้านหลังต่างก็หยุดฝีเท้าไม่อยู่
ทุกคนพยายามจะหยุดให้ได้ แต่เพราะขาที่ไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคง จึงพากันไถลลงไป กันไฉผู้น่าสงสารถูกทับอยู่ด้านล่างสุด คนนับสิบทับถมกันจนเป็นอรหันต์
“โอ๊ย!”
กันไฉถูกทับจนแทบจะกระอักเลือด เขาตะโกนร้องด้วยความยากลำบาก “รีบลุกขึ้น ออกไปให้หมด!”
เหล่าบรรดามือสังหารรีบพากันลุกขึ้นด้วยความลุกลี้ลุกลน แต่พวกเขากลับดูเหมือนกำลังขี่วงล้อไฟก็ไม่ปาน พากันเดินแหวกกันไฉอย่างทุลักทุเล แล้วก็พากันล้มเข้าไปในพุ่มไม้
กันไฉลุกขึ้นด้วยความยากลำบาก
เขาเป็นมือสังหาร ซึ่งไม่ใช่แค่มือสังหารธรรมดาเท่านั้น แต่เป็นถึงพี่ใหญ่ของคณะมือสังหาร...
กันไฉมองแวบเดียวก็รู้ได้ทันทีว่าชายที่ยืนอยู่เบื้องหน้านั้นไม่ธรรมดา
ภายนอกเขาดูธรรมดา แต่รอบข้างกลับปะทุไปด้วยกลิ่นอายอาฆาต
คนผู้นี้ถือว่ามีฝีมือไม่เบาทีเดียว!
“เจ้า เจ้าคือผู้ใด คิดจะทำอะไร”
กันไฉยืดเอวพลางจ้องมองเขาตาเขม็งด้วยแววตาที่คิดว่าน่ากลัวที่สุดแล้ว
“ข้าแซ่ซ่ง”
ซ่งจื่ออวี๋จ้องมองเหล่าบรรดามือสังหารที่ล้มระเนระนาดอยู่ในพุ่มไม้ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย จากนั้นก็เหลือบมองกันไฉ “มิทราบว่าท่านมีนามว่าอย่างไร”
นี่มัน...
กันไฉเริ่มรู้สึกลังเลขึ้นมา
เมื่อครู่นี้เขาสัมผัสผิดพลาดหรืออย่างไรกัน
ชายผู้นี้ดูนิสัยสุภาพเรียบร้อย รูปร่างเรียวเล็กแต่กลับไม่ได้ดูสูงใหญ่แต่อย่างใด
เวลาพูดจาก็ดูมีมารยาท ไม่เหมือนยอดฝีมือเลยแม้แต่น้อย คงจะเป็นหนอนหนังสือมากกว่ากระมัง?!
กันไฉก็เริ่มมีความมั่นใจขึ้นมา
เขายืดอกพลางเดินเข้าหาซ่งจื่ออวี๋ด้วยสีหน้าท่าทีที่เย่อหยิ่ง “น้องซ่ง ข้าแซ่กัน นามว่าไฉ เรียกข้าว่ากันไฉก็พอ!”
กันไฉ?!
ชื่อนี้ถือว่าพิลึกไม่น้อย
แม้แต่ผู้ที่มีประสบการณ์กว้างขวางเช่นซ่งจื่ออวี๋ก็รู้สึกคาดไม่ถึง
“พี่กันไฉ ยินดีที่ได้พบกันครั้งแรก”
ไม่เสียทีที่เป็นซ่งจื่ออวี๋ เขาไม่เผยสีหน้าตกตะลึงหรือแปลกใจออกมาเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่พยักหน้าเบาๆ เท่านั้น จากนั้นก็กล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงสุภาพแต่ก็เป็นกันเองในเวลาเดียวกัน
“สวัสดี สวัสดี”
กันไฉรีบเข้าเดินเข้าไปจับมือ
ซ่งจื่ออวี๋รีบถอยหลังมาหนึ่งก้าวพลางจ้องมองกันไฉที่เลอะดินโคลนทั้งตัวด้วยสายตาที่รังเกียจ
กันไฉรีบก้มดูตัวเอง จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมาด้วยความเก้อเขินพลางพูดขึ้นว่า “ดูข้าสิ! เนื้อตัวสกปรกไปหมด ทำเจ้าขำแล้ว”
“วันนี้ข้ากับน้องซ่งเจอกันเป็นครั้งแรก รู้สึกถูกชะตาเป็นอย่างมาก เอาอย่างนี้ดีหรือไม่...”
ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ซ่งจื่ออวี๋ก็กระโดดถีบกันไฉจนกระเด็นไปไกล
เขาห้อยต่องแต่งอยู่บนกิ่งไม้ราวกับผ้าขี้ริ้วร้ายๆ ก็ไม่ปาน
“น้องซ่ง เจ้าทำอะไรน่ะ?!”
กันไฉจ้องมองเขาด้วยสีหน้าที่ตกใจ?!
เมื่อครู่นี้เขาพึ่งจะบอกว่าถูกชะตาเป็นอย่างมาก อยากจะพูดคุยกับ ‘น้องซ่ง’ ดีๆ เสียหน่อย อีกอย่าง น้องซ่งผู้นี้ดูสุภาพเรียบร้อย นึกไม่ถึงว่าถีบเดียวของเขาจะทำให้กันไฉกระเด็นลอยมาไกลขนาดนี้?!
กันไฉห้อยต่องแต่งไปมา สีหน้าตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก “น้องซ่ง นี่มันหมายความว่าอย่างไร”
ซ่งจื่ออวี๋ไม่ได้ตอบอะไร แต่กลับหันไปมองเหล่าบรรดามือสังหารที่เหลือแทน
เหล่าบรรดามือสังหารต่างก็ตกใจเป็นอย่างมาก!
คนที่ถูกซ่งจื่ออวี๋ถีบจนกระเด็นนั้น เป็นถึงพี่ใหญ่ของพวกเขาเชียวนะ!
เจ้าตัวเล็กที่ดูอ่อนแอไม่มีพิษไม่มีภัยผู้นี้ แรงถีบมหาศาลเป็นอย่างมาก!
เมื่อสายตาของซ่งจื่ออวี๋จ้องมองมายังพวกเขา เหล่าบรรดามือสังหารต่างพากันลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หยิบอาวุธพุ่งเข้าไปต่อสู้กับเขาทันที “เจ้าเด็กเมื่อวานซืนนี่มาจากไหนกัน มีตาหามีแววไม่!”
ถึงแม้ว่าเขาจะมีฝีมือ แต่ดูผอมแห้งแรงน้อยเป็นอย่างมาก
หากทุกคนบุกเข้าไปพร้อมกัน จะต้องล้มเขาได้อย่างแน่นอน!
กันไฉยังคงห้อยอยู่บนต้นไม้ แต่กลับพยายามตะโกนห้ามด้วยความร้อนใจว่า “พวกเจ้าอย่าทำน้องซ่งบาดเจ็บเชียว! เบาๆ มือหน่อย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...