สารถีรถม้า คือหรูยี่
เขาเปิดม่านรถม้าด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า สภาพแวดล้อมข้างในปรากฏต่อหน้าฉินซื่อเสวียอย่างเต็มตา
ได้เห็นหยุนหว่านหนิงนั่งคร่อมบนตักของโม่เยว่ สองมือกำลังหยิกใบหน้าของเขาอย่างรุนแรง “โม่เยว่!ดอกท้อเน่า1ของเจ้าทำไมยังเด็ดไม่ขาดอีกเล่า!”
หลังจากที่ตระหนักว่าม่านรถม้าถูกเปิดออกแล้ว นางถึงหันกายมา “พระชายาหยิง บังเอิญ2จริง!”
คำว่า “บังเอิญ” ของนาง หมายถึงเฉลียวฉลาดจริงเชียว
แต่ นางยังไม่ได้ลงจากตักของโม่เยว่
อีกทั้งมือสองข้างของโม่เยว่สวมกอดเอวของนาง ตอนนี้เขากำลังโอบเอวของนางอยู่ มองนางอย่างได้ใจ
ท่าทางปล่อยให้นางกระทำกับตัวเองอย่างเหิมเกริม...
ฉินซื่อเสวียรู้สึกเพียงว่าดวงตาคู่นี้ของนางกำลังจะบอด!
ทำไมนางถึงไม่คาดคิดว่า หยุนหว่านหนิงจะอยู่ข้างในรถม้าด้วย!
“พระชายาหมิง?! เจ้า ทำไมมีเจ้าถึงอยู่ด้วย”
ฉินซื่อเสวียตกตะลึง น้ำตาบนใบหน้าเกือบแห้ง แต่อย่างไรน้ำตาคลออยู่ในเบ้าก็ไม่ไหลออกมา นางเหมือนเป็นกวางน้อยตัวหนึ่งที่ได้รับความตื่นตระหนก มองหยุนหว่านหนิงอย่างหวาดผวา
นังจื่อซูคนไร้ประโยชน์!
ทำงานอย่างไรกันแน่?!
ไม่ใช่บอกว่าวันนี้มีเพียงโม่เยว่คนวังคนเดียว แล้วหยุนหว่านหนิงไม่ได้ติดตามมาหรือไร
ถ้าอย่างนั้นคนที่อยู่ตรงหน้า เป็นผีสางหรือไร!
นางใช้หางตามองจื่อซูที่อยู่ด้านหลังอย่างเกลียดชัง อดไม่ไหวถามทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
จื่อซูก็คาดไม่ถึง ว่าหยุนหว่านหนิงจะอยู่ใรรถม้าด้วย ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อทันที!
จบเห่แล้ว!
นางคร่ำครวญอยู่ในใจ
หยุนหว่านหนิงหัวเราะคิกคักขึ้นมา “ใช่แล้วพระชายาหยิง ข้าต้องเข้าวังมาจับชีพจรให้เสด็จพ่อทุกวัน เจ้าบอกว่าทำไมข้าถึงอยู่ที่นี่รึ”
“ดูแล้ววันหน้าพระชายาหยิงจะมาสารภาพรักกับท่านอ๋องบ้านข้า ยังต้องเลือกฤกษ์งามยามดีด้วยล่ะ”
ขณะพูด นางก็หันหน้าไปจ้องโม่เยว่ ถามอย่างดุร้ายว่า “ใช่ไหมเพคะ ท่านอ๋อง?!”
เห็นท่าทางนางกัดฟันกรอด ๆ ราวกับจะกินคน โม่เยว่ครุ่นคิดว่า สตรีผู้นี้ถลำลึกกับการแสดงเกิดไปแล้วมั้ง
แต่ก็ยังพยักหน้าอย่างร่วมมือ “ที่พระชายาพูดทั้งหมดล้วนถูกต้อง”
“งั้นดอกท้อเน่าของท่านนี้ ตัวเองจะเป็นคนเด็ดเอง หรือจะให้ข้าเด็ดให้ท่านกัน!”
หยุนหว่านหนิงจ้องเขาต่อไป
“ล้วนเป็นความผิดของข้า ข้าจะเป็นคนเด็ดเอง”
โม่เยว่มีทัศนคติที่ดีในการยอมรับผิด
ฉากนี้ตกอยู่ในสายตาของฉินซื่อเสวีย ในใจก็ยิ่งรู้สึกสลับซับซ้อน
นางไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไร เป็นโม่เยว่ที่พิสมัยหยุนหว่านหนิง ทำให้นางมีความกล้าที่กระทำอย่างเหิมเกริม ควรจะกล่าวว่าเป็นหยุนหว่านหนิง ที่ปราบสามีได้อยู่หมัด...
โดยรวมแล้ว ต่อหน้าโม่หุยเฟิง นางไม่เคยได้มีสถานะอย่างนี้มาก่อน!
ขณะเดียวกันก็อิจฉาอยู่ในใจ เกิดความหึงหวงและคลุ้มคลั่งจากก้นบึ้งของหัวใจต่อหยุนหว่านหนิง
หลังจากได้รับคำตอบจากโม่เยว่ หยุนหว่านหนิงถึงลงจากตักของเขา
นางส่งเสียงหึเบา ๆ เหลือบหางตามองฉินซื่อเสวีย
เห็นนางกำผ้าเช็ดหน้าผ้าในมือแน่น ผ้าเช็ดหน้าผ้าถูกบิดจนเสียรูปทรง...ถึงได้ยกมุมปากขึ้นด้วยความพอใจ “พระชายาหยิง”
“ตอนนี้เจ้าคงยังมีอะไร ที่อยากพูดกับท่านอ๋องบ้านข้ากระมั้ง”
“ไม่สู้พูดออกมาเลย พวกเราจะลองฟังดู”
หยุนหว่านหนิงนั่งลงที่ด้านข้าง มองดูนางด้วยความสนใจ “ถ้าจะให้ดีที่สุดนะ เรียกพวกเสด็จพ่อเสด็จแม่เสด็จแม่ทั้งหมดมาด้วย ทุกคนมาฟังด้วยกันจะได้ครึกครื้นไง!”
ได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าเล็กๆ ของฉินซื่อเสวียก็ซีดลงในทันใด!
ตั้งแต่งานเลี้ยงวันเกิดของเต๋อเฟยครั้งก่อน นางก็ได้ประมือกับหยุนหว่านหนิงมาแล้วหนหนึ่ง
เทียบนังคนชั้นต่ำกับก่อนหน้านั้น เปลี่ยนแปลงไปไม่น้อย
หนนั้นนางถูกบีบให้ยอมรับความพ่ายแพ้
แม้บอกว่าการกระทำเบื้องหลังของนาง ล้วนเป็นโม่หุยเฟิงอนุญาต แต่ว่าโม่จงหรานกับฮองเฮาจ้าวพวกเขาไม่รู้เรื่อง!
หากให้พวกเขารู้ว่า หลังจากนางแต่งกับโม่หุยเฟิง คลอดบุตรสาวให้เขาสองคน แต่ยังหวนคิดถึงโม่เยว่อยู่เสมอ และยังแย่งกับหยุนหว่านหนิงอย่างชัดเจน...
พระชายาหยิงอย่างนาง ก็กลัวจนขึ้นสมองเหมือนกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...