C h a p t e r 2
เสียงฝีเท้ากำลังวิ่งวุ่นไปทั่วอย่างเร่งรีบ ชายชุดดำเต็มไปด้วยรอยสักยืนกอดอกอยู่หน้าห้องด้วยสีหน้าแววตาเต็มไปด้วยสัญญาณอันตราย ผู้คนที่เดินผ่านไปมาจุดนี้ต่างมองด้วยความระมัดระวัง หวาดกลัว ภายในห้องมีกลิ่นบุหรี่กับเหล้าคละคลุ้งปะปนกัน
ชายหนุ่มตัวสูงนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ด้วยใบหน้าไร้อารมณ์แต่ก็ไม่ได้ทำให้เสน่ห์ของเขาลดน้อยลงแม้แต่น้อย
"มาแล้วครับนาย" ชายชุดดำเดินก้มหน้าเข้ามาอย่างนอบน้อม
"พาเข้ามา" เสียงมาจากผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหลังตอบแทน
ชายชุดดำโค้งคำนับสักพักก็เดินออกจากห้องแล้วลากผู้ชายคนหนึ่งที่เนื้อตัวมอมแมม มีแต่บาดแผล ใบหน้ามีรอยฟกช้ำ คิ้วแตก ปากเจ่อ เข้ามาก่อนจะถูกผลักให้ลงไปนอนกับพื้น
"ไอ้บ้าเอ๊ย!! ไอ้พอลสัน!! แกมันโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว ถึงกล้าทำกับฉันแบบนี้ แค่กๆ " เควินเดินมายืนข้างหน้าเจ้านาย สายตาเย็นชามองผู้ชายที่กำลังหายใจหอบแรงอยู่บนพื้น
"ประธานมนตรี ผมให้เวลาคุณมาหนึ่งเดือนแล้วในการนำเงินมาคืน" มนตรีเงยหน้ามองเควินก็ยิ่งหงุดหงิดเพิ่มขึ้นไปอีก
"แค่เดือนเดียวพวกแกคิดว่าฉันจะหามาได้หรือไง!! "
"งั้นก็ต้องเป็นไปตามกฎครับ"
"พวกแก คิดจะตัดมือฉันงั้นสิ ฮ่าๆ คนอย่างมนตรีไม่เคยกลัวเว้ย!!! เอาสิ เอาเลย!!! " มนตรีหัวเราะร่าพร้อมกับยื่นมือไปตรงหน้าเป็นการท้าทายอย่างที่สุด
พอลสันนั่งดูเหตุการณ์ด้วยแววตาเยือกเย็นมีความรู้สึกรำคาญมากขึ้นเรื่อยๆ จนอดทนไม่ไหวแล้ว คนอวดดีแบบนี้คงต้องเจอกันสักหน่อย
"ประธานมนตรี…" เสียงเรียกทรงอำนาจของพอลสันทำให้มนตรีหยุดหัวเราะแล้วเหลือบสายตามองผู้ชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยความหวาดกลัว มือมีอาการสั่นเทา ร่างกายนิ่งแข็งไปชั่วขณะ
มนตรีรู้ดีว่าชื่อเสียงของพอลสันเป็นยังไง สังคมภายนอก เขาคือนักลงทุนที่มีเงินทองไม่ขาดมือ มีหุ้น มีบริษัทหลายร้อยกว่าแห่งที่อยู่ในเครือ Red Blood แต่ภายในธุรกิจใต้ดินที่เขาเป็นเจ้าของ คือปล่อยเงินกู้ เจ้าพ่อกาสิโน และเป็นมาเฟียข้ามชาติ ความโหดเหี้ยมของเขาคือคำพูดเล่าขานต่อกันมา มนตรียังไม่เคยพบเจอความน่ากลัวที่แท้จริง เขาจึงไม่เชื่อว่าผู้ชายคนหนึ่งจะกล้าทำอะไรเหนือกฎหมาย ก็ถ้าเกิดเขาเป็นอะไรขึ้นมา เชื่อว่าคนในครอบครัวต้องทวงความยุติธรรมให้เขาแน่
เขาตัดสินใจเก็บอาการ และเชิดหน้าขึ้น
"ทำไม!! คุณจะทำอะไรผม จะฆ่าผมงั้นเหรอ เอาเลย เอาสิ"
พอลสันเริ่มหงุดหงิด แววตาของเขากำลังฉายไอสังหาร รอยยิ้มเยือกเย็นทำให้มนตรีต้องกลืนน้ำลายและเริ่มกระเถิบหลังหนี พอลสันหลับตาลงเพื่อปรับอารมณ์ให้อ่อนลงก่อนจะลืมตาขึ้นมา แววตาปรับเปลี่ยนเป็นเฉยชา ไร้ความรู้สึก
"เงินสามสิบล้านที่คุณยืมไป ผมไม่สนว่าคุณจะเอาไปใช้ทำอะไร แต่ในเมื่อตกลงทำสัญญากันไว้ว่าจะคืน ก็ต้องคืน"
"แล้วเดือนเดียว ใครมันจะหามาคืนทันวะ!! "
ตุบ! ตับ!
ชายชุดดำเข้ามาถีบมนตรีที่พูดจาไม่ให้ความเคารพเจ้านายอย่างแรง จนพอลสันอดถอนหายใจยาวๆ และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนไม่ได้
"ผมให้เวลาคุณตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว จนตอนนี้ผ่านมาหนึ่งปีกับอีกหกเดือน คุณยังคิดว่าน้อยอีกเหรอ" น้ำเสียงของเขาเนิบช้า ทำให้มนตรีก้มหน้าครุ่นคิด
เขายืมเงินครั้งแรกเมื่อต้นปีที่แล้วสิบล้าน ตอนแรกว่าจะเอาไปฟื้นฟูบริษัท แต่จู่ๆ เขาก็มีความคิดอยากได้เงินมากกว่านี้และรวดเร็วกว่านี้ เลยเอาเงินส่วนหนึ่งมาลงบ่อน ด้วยความคึกคะนอง เล่นรอบแรกได้คืนมาสองล้าน แต่พอหลังจากนั้นกลายเป็นหมดตัวแถมยังเป็นหนี้เพิ่มขึ้นอีก รอบสองตอนต้นปีที่ผ่านมาก็ขอยืมอีกยี่สิบล้าน สุดท้ายก็เอาไปลงบ่อนการพนันเหมือนเดิม
"ตะ...แต่เดือนเดียว ผมหามะ...มาคืนไม่ทันหรอก" น้ำเสียงของมนตรีเริ่มอ่อนลง
"แล้วเดือนที่แล้ว คุณสัญญากับลูกน้องผมทำไม" มนตรีเงยหน้ามองเควินที่ยืนอยู่ข้างๆ พอลสัน
จำได้ว่าเมื่อต้นเดือน เควินมาหาเขาที่บ้านเพื่อพูดคุยเรื่องระยะเวลาการคืนเงิน ตอนนั้นมนตรีเพิ่งได้เงินคืนมาจากคนที่เคยยืมไป แต่ก็เอาไปลงบ่อนอีกครั้งจนหมดตัวเช่นเดิม จากนั้นก็ดื่มเหล้าเมามายอยู่ในห้อง แทบไม่ได้ฟังเควินด้วยซ้ำ แค่รู้สึกรำคาญ เลยพูดตัดบทไปว่า 'ฝากไปบอกเจ้านายของพวกแก สิ้นเดือนนี้ฉันจะเอาไปคืนให้ทั้งต้นทั้งดอก!!’ ที่มนตรีพูดออกไป มันคืออารมณ์โกรธบวกกับฤทธิ์เหล้าทั้งนั้น มานึกจำได้ตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว
"คุณรู้หรือเปล่า ว่าผมเกลียดอะไรมากที่สุด" พอลสันโน้มตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย หรี่ตามองมนตรีก่อนจะแสยะยิ้มอย่างซาตาน "ผมเกลียดคนที่ไม่รักษาคำพูดแบบคุณที่สุด..." มนตรีมีแต่ความหวาดกลัว กลัวชื่อเสียงที่ถูกร่ำลือมานักต่อนัก กลัวว่าตัวเองจะไม่มีโอกาสกลับไม่หาลูกสาวที่บ้าน กลัวว่าต้องตายแม้ศพก็หาไม่เจอ
พอลสันลุกขึ้นเอามือไขว้หลังและเดินมายืนตรงหน้าของมนตรี เขาไม่ได้พูดอะไร ใช้ความเงียบสยบทุกอย่าง
มนตรีมีความรู้สึกตัวหดเล็กลง คล้ายมีหนามแหลมคมทิ่มแทงอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากมองรองเท้าหนังสีน้ำตาลที่อยู่ตรงหน้าด้วยท่าทางเหม่อลอย
พอลสันก้มมองผู้ชายที่นั่งอยู่กับพื้นด้วยความสมเพช พวกผีพนันจุดจบก็เป็นอย่างที่เห็น ทั้งที่ครอบครัวก็มีธุรกิจที่สามารถต่อยอดได้ เขาให้ยืมเงินดอกน้อยเพราะคิดว่ามนตรีจะเอาเงินไปลงทุนเพื่อให้ธุรกิจฟื้นคืนตัวอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็เอาเงินมาลงในบ่อนจนหมด คนประเภทนี้ ต่อให้โอกาสอีกกี่ครั้งก็สูญเปล่า
เขาส่ายหน้าด้วยความเอือมระอาก่อนจะเดินออกจากห้อง
"คะ…คุณพอลสัน...ผะ...ผมขอโอกาสอีกครั้ง ผมขอโอกาส!!!! " ประตูถูกปิดลง พร้อมกับเสียงที่เลือนหายไป
ชายชุดดำยืนอยู่หน้าห้องโค้งคำนับให้เขาด้วยความเคารพ จนกระทั่งชายหนุ่มเดินออกมาจากร้าน ทุกคนถึงได้ยืดตัวตรงขึ้น
ครืด ครืด ครืด ครืด
พอลสันล้วงไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมาเพื่อกดดูข้อความ และนั่นทำให้คิ้วขมวดของเขาคลายลง กลายเป็นยกยิ้มอย่างพึงพอใจ
ปลากินเบ็ดแล้ว :)
แต่ที่เขาคิดไม่ถึงก็คือ ยัยตัวแสบจะส่งผู้หญิงสวยแซ่บ หน้าอกคัพดี ขายาวเรียวขาวมาแทน แถมพ่วงมาด้วยเลขาหน้าเด็กที่ชื่อน้ำซึ่งตอนนี้กำลังพูดถึงแผนงานยาวเหยียด ที่ฟังยังไงก็แทบไม่เข้าหูเลยสักนิด
เขาถอนหายใจละสายตาจากหญิงสาวคัพดี มองไปยังวิวถนนข้างนอก
ทำไมต้องมาอดทนกับอะไรแบบนี้ด้วยนะ
เควินลอบมองเจ้านายที่นั่งขมวดคิ้วเหมือนกำลังอดกลั้นอารมณ์ที่แทบจะปะทุออกมา เพื่อไม่ให้สาวๆ โดนลูกหลง จึงยกมือขึ้นเป็นเชิงให้หยุดพูด ซึ่งเลขาสาวที่อ้าปากอยู่ก็ปฏิบัติตามทันที
แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังต้องการคำตอบอะไรบางอย่าง...
"คะ...คุณพอลสันคะ ไม่ทราบว่า..."
"ผมเพิ่งรู้นะครับ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: [Paulson] พอลสัน : รักให้จำ