C h a p t e r 9
หลังจากพอลสันกับลีโอเล่นกอล์ฟกลางแดดเสร็จ ทั้งคู่ก็เข้ามาอยู่ในห้องวีไอพีเพื่อคุยถึงเรื่องธุรกิจกันต่อ โดยที่เรียวกับเควินยืนอยู่ริมประตูอย่างรู้งาน
"สรุปเรื่องนั้นจะเอายังไง" ลีโอเอ่ยขึ้น
"พี่ก็รู้ว่าผมจะทำยังไง"
"ทำไมมันต้องคอยขัดขาเล่นงานนายเรื่อยเลยวะ"
"เรื่องในอดีต บางทีก็ไม่น่าจดจำเท่าไหร่"
"มันสารภาพแล้วใช่ไหม"
"ครับ"
"เลวกว่าที่คิดไว้อีก" ลีโอถอนหายใจก่อนจะส่ายหน้าไปมา "เอ่อ แล้วจะไปเยี่ยมนาเดียร์วันไหน"
"ผมว่าจะไปวันนี้"
"ฝากบอกเธอด้วยว่าฉันจะไปเยี่ยมพรุ่งนี้"
"ครับ" พอลสันตอบ ลีโอพยักหน้ารับ ก่อนจะเหลือบสายตาขึ้นมามองเลขาคนสวยที่ยืนอยู่ แปลกจัง เขารู้สึกว่าผู้หญิงลักษณะแบบนี้จะชอบแต่งตัวมีสีสันฉูดฉาดเสียอีก "ทำไมเป็นเลขาถึงต้องใส่ชุดดำด้วย"
"เธอชอบ"
ลีโอลุกขึ้นจากที่นั่งเดินมายืนข้างหน้าเรียวพร้อมส่งสายตากรุ้มกริ่มให้
เขากำลังเพ่งมองว่าผู้หญิงคนนี้สวยแบบไหนถึงทำให้น้องชายของเขามีปฏิกิริยาอะไรแปลกๆ ดูรวมๆ แล้วเธอเป็นคนผิวขาว ตาสวย ริมฝีปากเล็ก หน้าอกก็มีแต่เพราะใส่ชุดสีดำมันเลยพลางให้ดูไม่เห็น ส่วนเอวก็คอดเล็ก ขาก็ยาวเรียว เป็นผู้หญิงตัวเล็กและสวยคนหนึ่ง
ถ้าไม่ติดที่พอลสันแสดงความเป็นเจ้าของแบบนี้ เขาคงจะพาเธอกลับไปแล้ว
ลีโอจับคางเรียวเงยขึ้นมาและหมุนซ้ายขวาเพื่อมองโครงหน้าให้ชัดเจนมากขึ้น
"เธอดูน่ารักดี ฉันชอบนะ"
“…” พอลสันเริ่มใจเต้นแรงเหมือนกำลังมีความกังวลอะไรอยู่ ฝ่ามือกำหมัด ริมฝีปากเม้มแน่น
ลีโอพูดตามความรู้สึกโดยไม่ทันได้คิดอะไร แต่พอได้สติก็กลอกตาเล็กน้อย
"แต่...แต่ก็ไม่ใช่สเปกฉันอยู่ดี ฮ่าๆ " ลีโอหัวเราะกลบเกลื่อนก่อนจะปล่อยมือออกจากคางหญิงสาวด้วยความเสียดายและกลับมานั่งที่เดิมพร้อมหยิบกาแฟขึ้นมาจิบ
เขารู้ดีว่าพอลสันเป็นคนควบคุมตัวเองเก่ง เห็นภายนอกดูเฉยๆ แต่ภายในกำลังร้อนเหมือนภูเขาไฟที่กำลังจะระเบิด
ทางที่ดี อย่าไปยุ่งจะดีกว่า
ระยะการพูดคุยเรื่องงานผ่านพ้นไปเกือบสองชั่วโมง ไม่นานลีโอก็ขอตัวกลับก่อน ส่วนพอลสันเมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็ขึ้นรถตรงไปที่โรงพยาบาล Red Blood
ขณะที่นั่งอยู่บนรถ พอลสันหันหน้าไปมองหญิงสาวที่นั่งข้างกายเป็นบางครั้งบางคราวคล้ายกับอยากจะพูดอะไร แต่นึกไม่ออก จึงได้แต่ทำท่าทีให้ดูมีพิรุธ เพื่อเรียกร้องความสนใจจากเธอ ก็แค่…อยากจะบอกว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดอะไรให้เธอเสียหายแบบนั้น แต่…
ก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะมาทำหน้าหงิกงอใส่เขาไง อุตส่าห์พูดด้วยก็หลีกเลี่ยงเดินหนี ไม่พูดจา ก็เดินขึ้นมาบนรถทันที เธอควรจะของใจเขาถึงจะถูก เขากำลังช่วยไม่ให้เธอโดนเสือร้ายกินนะ
ให้ตายเถอะ!! ทำไมรู้สึกไม่ดีแบบนี้กันนะ!!
เรียวพยายามไม่มอง ไม่สนใจ ไม่ยุ่ง ไม่คุย เพราะเธอโกรธเขามากถึงมากที่สุด มีผู้หญิงที่ไหนจะชอบให้ใครมาพูดจาด่าทอต่อหน้าคนอื่นบ้าง
แหงสิ สนใจก็บ้าแล้ว ปากแบบนี้ไม่เสยให้บุญเท่าไหร่ล่ะ
โรงพยาบาล Red Blood
ที่นี่คือโรงพยาบาลเอกชนอันดับ 3 ที่ดีที่สุดของประเทศ อยู่ในเครือ Red Blood ซึ่งพอลสันก็คือท่านประธานใหญ่ของบริษัท และอาจเพราะเขาไม่เคยมาที่นี่พอมีข่าวหลุดออกไปว่าท่านประธานใหญ่จะมา ถึงได้มีขบวนคนแห่กันมายืนต้อนรับกันมากมายจนบอดี้การ์ดของเขาต้องเป็นคนมากันไว้
"ยินดีต้อนรับคุณพอลสันครับ" ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยังต้องโค้งคำนับให้พอลสันและเช็กแฮนด์ตามสไตล์ฝรั่ง เรียวยืนมองอยู่ข้างหลังด้วยความชื่นชม พอลสันอายุ 32 แต่สามารถซื้อใจคนที่ทำงานให้เขาแถมอายุมากกว่าตั้งหลายปีได้ก็ถือว่ามหัศจรรย์มาก
"ผมแค่มาเยี่ยมเพื่อน ไม่ต้องทำอะไรให้วุ่นวายหรอก"
"ได้ยังไงกันครับ นี่เป็นครั้งแรกที่คุณพอลสันมาเยือน"
"ขอบคุณทุกคนครับ กลับไปทำหน้าที่ของตัวเองเถอะ"
ทุกคนโค้งคำนับให้ด้วยความเคารพก่อนจะแยกย้ายกันไป ส่วนผู้อำนวยการดูเหมือนมีเรื่องจะพูดเยอะจนต้องตามติดมาที่ลิฟต์ด้วย
"ผมให้คุณนาเดียร์อยู่ห้องวีไอพีชั้นบนสุดครับ เราดูแลอย่างดี คุณพอลสันไม่ต้องเป็นห่วง"
"ครับ งั้นผมขอตัว" พอลสันเอ่ยตัดบท
เมื่อลิฟต์มาถึง พอลสัน เควินและเรียวก็เดินเข้าลิฟต์ไป บอดี้การ์ดอ้าแขนกันผู้อำนวยการไว้ไม่ให้ตามไปด้วยเพื่อความเป็นส่วนตัวของเจ้านาย
เรียวขยับเข้าไปใกล้เควินก่อนจะกระซิบเบาๆ
"คุณเควินคะ"
"ครับ" แต่เสียงตอบกลับมาของเควินทำให้พอลสันหันไปมองชายหญิงข้างหลังด้วยหางตา เควินรู้สึกได้ถึงรังสีที่แผ่ออกมาจากตัวเจ้านาย จึงรีบพูด "พอดี คุณเรียวเรียกผมนะครับ" เควินเห็นสีหน้าเจ้านายมองมาจึงตอบกลับไปอย่างบริสุทธิ์ใจ
พอลสันหันไปมองเรียว ซึ่งตอนนี้เธอก็กำลังมองเขาอยู่เช่นกัน ไม่นานเขาก็กลับหันหลังยืนตามปกติ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"มีอะไรก็ถามผม" ทั้งที่เขายืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ แถมยังเป็นเจ้านายเธอด้วย แทนที่จะเข้ามากระซิบถามเขาก็ได้ ทำไมต้องไปถามเควิน ไม่เข้าใจ
"ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ" คำตอบของเรียวทำให้พอลสันต้องหันมาเผชิญหน้ากับเธออย่างเต็มตัว
ให้ตายสิ!!
"คุณโกรธ..."
"เชิญค่ะ" เรียวไม่อยากจะได้ยินเขาพูด จึงตัดบทและเดินออกไปจากลิฟต์ทันที
พอลสันได้แต่นิ่งอึ้งไปพักหนึ่งถึงได้เดินตามออกมา เธอกล้าดียังไงถึงเดินหนีเขาทั้งที่ยังพูดไม่จบ
“นี่…”
“…” พอลสันเดินออกมาก็ยืนขวางทางเธอไว้ คิ้วขมวดแน่น อ้าปากจะพูด แต่พอเห็นใบหน้าแข็งกร้าว ริมฝีปากเชิดหยิ่ง กำลังมองมาอย่างท้าทาย ก็ได้แต่กลืนคำจะพูดลงท้องจนหมด
เธอกำลังโกรธจริงๆ ด้วย
“ผม…” ขอโทษ…
แล้วทำไมต้องขอโทษด้วย มีอะไรให้ต้องขอโทษ ตลกใหญ่แล้ว
ขณะนั้น พอลสันเหลือบสายตาขึ้นเห็นเควินยืนอยู่กำแพงทางเลี้ยว ถึงได้รู้สึกตัวว่าตอนนี้มีคนยืนอยู่เต็มไปหมด เขาไม่สามารถพูดอะไรได้นอกจาก เดินผ่านหน้าเธอไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
เรียวเดินตามพอลสันมาถึงหน้าห้อง VIP ห้องหนึ่งที่มีชายชุดดำยืนอยู่หน้าประตู ก่อนจะเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปข้างใน ก็พบกับหญิงสาวผมแดง นอนใส่ชุดโรงพยาบาลอยู่บนเตียงด้วยสภาพอิดโรย
"มาแล้วเหรอ" หญิงสาวลืมตาขึ้นมามองเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูก่อนจะเด้งตัวนั่ง
"ดีขึ้นบ้างหรือยัง" พอลสันเดินไปนั่งเก้าอี้ตัวยาว
"ดีแล้วล่ะ ซื้อโจ๊กมาด้วยหรือเปล่า"
"ซื้อมาแล้วครับ โจ๊กปลา" เควินตอบแทนเจ้านายและรีบเทโจ๊กใส่ถ้วยทันที
"รบกวนเควินอีกแล้วสิ ขอบคุณมากนะ"
"ไม่เป็นไรครับ"
"แล้วเรื่องนั้น..."
"ดูแลตัวเองไปก่อน เดี๋ยวฉันจะจัดการเอง"
"เบามือหน่อยนะ เพราะปกติฉันใช้คำพูดมากกว่ากำลัง"
"นั่นมันเธอไง"
"เอ๊ะ แล้วนี่ใครกัน" หญิงสาวเห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหลังพอลสันก็นึกแปลกใจ เพราะปกติพอลสันไม่เคยให้พนักงานผู้หญิงคนไหนเดินตามมาก่อน
"สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเรียวเป็นเลขาของคุณพอลสันค่ะ" เรียวเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะยื่นมือส่งให้นาเดียร์เป็นมารยาท
"อ๋อ ฉันชื่อนาเดียร์ค่ะ เป็นเพื่อนของพอลสัน"
"ฉันเหมือนเคยเจอคุณมาก่อน" เรียวมองหน้านาเดียร์พลางครุ่นคิด "คุณนาเดียร์ นางแบบเครื่องสำอางใช่ไหมคะ ฉันเคยซื้อเครื่องสำอางที่คุณเป็นแบนแอมบาสเดอร์ ใช้ดีมากเลยค่ะ" และเธอเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของบริษัทอีกด้วย ทั้งสวยทั้งเก่ง
นาเดียร์ส่งมือเช็กแฮนด์กลับมาเช่นกัน เรียวยิ้มอย่างจริงใจทำให้นาเดียร์อดขำในความน่ารักสดใสของเธอไม่ได้
"ขอบคุณมากนะคะ"
"แต่ตัวจริงคุณสวยมากเลย"
"ขอบคุณนะ คุณเรียวก็สวยมากเลยค่ะ" เรียวยิ้มอย่างเคอะเขินก่อนจะปล่อยมือและกลับไปยืนที่เดิม
"นายไปได้เลขาสวยๆ จากที่ไหน มีเควินแล้วจะเอาเลขาไปอีกทำไม...” นาเดียร์แวดใส่พอลสัน ก่อนจะส่งยิ้มหวานหันไปมองเรียว “คุณเรียวสนใจมาทำงานกับเดียร์ไหมคะ"
"ไม่ได้!! "
“…” เรียวอ้าปากกำลังจะพูดแต่ยังไม่ทันจะส่งเสียง คนที่นั่งอยู่ที่โซฟาก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
พอลสันรู้ตัวเองว่ากำลังแสดงกิริยาไม่เหมาะสมจึงได้กระแอมเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อน
"พอดี เธอมีเงื่อนไขกับฉันอยู่"
"อ๋อ" นาเดียร์ได้แต่พยักหน้าหงึกหงัก แต่ก็ยังสังเกตได้ถึงความไม่พอใจของชายหนุ่ม เธอจึงยกแขนขึ้นกอดอก เอียงคอมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความสงสัย "ทำไมต้องทำหน้างอใส่ฉันด้วย ฉันแค่ล้อเล่นเอง"
พอลสันไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่าทำสีหน้าแบบไหนอยู่ รู้ตัวอีกทีก็คือตอนที่นาเดียร์ทัก
เขากลอกตาบน ทำเป็นไม่ได้ยินที่ใครพูดอะไร จากนั้นก็ใช้หางตามองเรียว อาจเพราะวันนี้ เขาเจอเรื่องให้กังวลใจตั้งแต่เช้าเลยทำให้เกิดความระแวงอยู่นิดหน่อย
นาเดียร์เบ้ปากก่อนจะพูดเปลี่ยนเรื่อง
"เรื่องนั้น ตกลงสายสืบดูรู้แล้วใช่ไหม"
"อืม"
"พวกมันเล่นแรงเกินไปแล้วนะ"
"ก็ถือว่าได้รู้ ว่าคนของเรามันก็ใช่ย่อย"
"เสียดายคนที่มีความสามารถแบบเขา"
"ช่างเถอะ"
"ฉันเพิ่งกลับมาจากอเมริกา แทนที่จะชวนกินข้าว ดันชวนมากินเหล้า"
"เหอะน่า กินๆ ไปเถอะ ฉันเลี้ยง" เรียวเทวิสกี้ใส่แก้วและดันหาผู้ชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
เขาคือเธียเตอร์เป็นเพื่อนสนิทของเรียวตั้งแต่เรียนปี 1 ปัจจุบันพอจบออกมาก็ไปช่วยพ่อดูแลโรงพยาบาลที่อเมริกา แต่ช่วงนี้คงได้หยุดพักถึงบินกลับมาที่ไทยได้
คนที่โทรศัพท์หาเธอก็คือเขาคนนี้แหละ
"เสี้ยนเหล้าแบบนี้ถ้า ไม่เหงาก็เครียด" เธียเตอร์เอ่ยขึ้น เรียวมองเพื่อนหนุ่มของตัวเอง ที่พูดเหมือนรู้ดี แต่ความจริงก็ไม่มีใครรู้จักเธอได้ดีเท่าเพื่อนคนนี้อีกแล้ว
"เออ มีเรื่องคิดนิดหน่อย"
"เป็นอะไร" เธียเตอร์กอดอกมองเพื่อนของตัวเองที่กระดกวิสกี้เข้าปากไปแก้วที่สอง
คำถามของเพื่อนทำให้เรียวถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เธออยากจะใช้กำปั้นน้อยๆ ชกไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของอีตาบ้านั่นจริงๆ
"แก ฉันไม่สวยเหรอวะ" เรียวมีความรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองขึ้นมานิดหน่อย เขาทำให้เธอหมดความรู้สึกชื่นชมตัวเองไปเลย นมเธอก็ออกจะตูมตาม ก้นก็งอนเด้งจะตาย แบนเรียบตรงไหน
บ้าเอ๊ย!!
เธียเตอร์ได้ยินเพื่อนสาวเอ่ยขึ้นมาก็อดขำไม่ได้ เพื่อนคนนี้ของเขาเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจมาตั้งแต่สมัยเรียนทำให้ผู้ชายเข้ามาแบบหัวบันไดไม่เคยแห้ง
แต่ตอนนี้กลับมานั่งกลุ้มกับความไม่สวยของตัวเอง
ได้เหรอวะ
"อะไรทำให้อีแสบไม่มีความมั่นใจครับ"
"ช่างมัน พูดแล้วก็หงุดหงิด"
"ใครมันพูดอะไร แกก็เสยมันเลยดิ สมัยก่อน เจอคนมาด่าแกก็เข้าหาแล้วไม่ใช่หรือไง" ตอนเรียน เรียวก็เจอพวกขี้อิจฉาคอยพูดแขวะพูดด่า แรกๆ ก็ชิน นานๆ ไปเธอเริ่มรำคาญและสุดท้ายก็เกิดการทะเลาะตบตีกัน แต่ยังไง เธอคือคนที่มีรอยแผลน้อยที่สุด
คนถึงให้ฉายาเธอว่า 'อีแสบ'
แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าทำหรือพูดอะไรอีกเลย
แต่ตอนนี้ เธอกลับทำอะไรไม่ได้ ทำได้อย่างเดียวคือมาปรับทุกข์กับเหล้าหรือกับผู้ชายสักคน
"ทำอะไรไม่ได้ถึงต้องมากินเหล้าแบบนี้ไง"
"เล่ามา" น้ำเสียงดุดันของเพื่อนชายทำให้เรียวเริ่มเล่าเรื่องตั้งแต่วันที่พ่อนัดเจอคุณพอลสันจนกระทั่งวันที่เธอขังเขาไว้นอกระเบียง และถึงปัจจุบันที่เขาพูดจาว่าถึงรูปร่างของเธอ เธียเตอร์นั่งฟังเพื่อนสาวเล่าด้วยอารมณ์คุกรุ่น บ่งบอกได้เลยว่าหงุดหงิดเป็นที่สุดเพราะทำตามใจตัวเองไม่ได้ ถึงได้พูดออกมาแบบน้ำไหลไฟดับได้ขนาดนี้ "สรุป แกหงุดหงิดที่เขาบอกว่าแกไม่สวยไม่เซ็กซี่ แต่ก็ยังคอยส่งสายตาเหมือนจะจับแกกินอยู่ตลอดเวลา"
"เออ!! "
"ที่เขาพูดแบบนั้นเพราะหวงแกหรือเปล่า"
"แค่กๆ หวงบ้าบออะไร แกจะบอกว่าเขาชอบฉันงั้นสิ"
"ก็...ไม่งั้นเขาจะพูดแบบนั้นต่อหน้าผู้ชายอีกคนที่ดูเหมือนจะสนใจแกทำไม" เรียวคิดตามที่เธียเตอร์พูด
ลีโอเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนบริษัท Red Blood เขาขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้ที่หนึ่ง มีผู้หญิงไม่เคยขาดและก็มีอีกหลายคนอยากเป็นคนของเขา แต่เธอไม่ได้คิดว่าคุณลีโอจะมาสนใจเธอสักหน่อย
"มะ...มันก็มีอีกตั้งหลายวิธีป่ะ แบบบอกว่าฉันมีแฟนแล้วแบบนี้ก็ได้ ไม่ใช่มาพูดว่าอะไรแบบนั้น"
"ไม่รู้เหมือนกันว่ะ แค่พูดในมุมมองผู้ชาย"
"รอจบสามเดือนเมื่อไหร่ ฉันจะเอาคืนให้สาสม!! " เธียเตอร์มองเพื่อนที่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ตรงหน้าอย่างเอ็นดู ก่อนจะหันไปมองรอบด้านของผับ “แล้วแกไปพักที่ไหน”
“Red Blood”
“เพื่อนแกเป็นเจ้าของโรงแรม แต่แกดันไปพักที่อื่น รู้สึกดีจริงๆ”
“ประชดเก่ง…ฉันจองล่วงหน้าไว้หลายเดือนแล้ว…อยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้างไม่ได้หรือไง”
“เชอะ!!”
เขากลับมาจากอเมริกาก็ได้เข้ามาพักที่โรงแรม Red Blood เพราะจองไว้ก่อนล่วงหน้าตั้งสามเดือนแล้ว เพราะรู้ว่าที่นี่มีชั้นใต้ดินด้วย ตอนแรกคิดว่าแค่เป็นโซนที่พักแบบใหม่ ที่ไหนได้ กลับเป็นผับและกาสิโนอยู่ข้างใน และดูเหมือนคนส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ดีมีเงินกันทั้งนั้น
ขณะที่กำลังมองดูสิ่งรอบข้างอย่างอยากรู้อยากเห็น เธียเตอร์ก็ได้ไปปะทะสายตากับใครคนหนึ่ง เป็นผู้ชายคนหนึ่ง นั่งอยู่มุมในสุดของผับ ข้างกายมีสาวสวยนั่งลูบไล้หน้าอกเขาอย่างเพลิดเพลิน แต่ดูเขาจะไม่ได้สัมผัสถึงอารมณ์มากเท่าไหร่ เพราะสายตาของชายคนนั้น กำลังแสดงออกถึงความไม่พอใจอะไรบางอย่าง
และที่น่าแปลกอีกอย่าง สายตาคมกริบของเขาคนนั้นกำลังมองมาที่เพื่อนสาวของเขาไม่ใช่เขา
"เรียว โต๊ะตรงนั้นเหมือนกำลังมองแกอยู่"
"ช่างมัน วันนี้ไม่มีอารมณ์ดีลใคร" เรียวถอนหายใจพร้อมทำหน้าเศร้าก่อนจะลุกและเดินไปนั่งข้างชายหนุ่ม ใบหน้าซบลงที่หน้าอกแกร่งอย่างหมดแรง "แก วันนี้อยู่เป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ"
"ทำอ้อนแบบนี้ทุกที"
"ก็มีแกว่างคนเดียวนี่นา ยัยจันทร์เจ้าอยู่แต่กระบี่ไม่มีเวลาโทรหาฉันด้วยซ้ำ" เธียเตอร์เคยชินกับพฤติกรรมของเพื่อนคนนี้ ไม่ได้คิดอะไรมากก็ยกแขนขึ้นมาโอบแขนเรียวไว้พลางลูบเบาๆ เพื่อปลอบ
"อดทนเอาหน่อย ไม่เป็นไรหรอก"
"อื้อ"
"แต่ถ้าแกทนไม่ไหว ก็แค่หยุดมันแล้วปล่อยความอึดอัดออกมา"
"ฉันว่า ฉันทนได้อีกไม่นานหรอก" จิตใจของเธอเริ่มผ่อนคลายเพราะมีเพื่อนคนนี้คอยปลอบ วันนี้เป็นอีกวันที่เธอรู้สึกไม่สบายใจและไม่พอใจมากที่สุด แค้นนี้เธอจะต้องเอาคืนให้ได้!!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: [Paulson] พอลสัน : รักให้จำ