บทที่ 149 ดาบกิเลนร่ำไห้[รีไรท์]
บทที่ 149 ดาบกิเลนร่ำไห้[รีไรท์]
“ข้าได้ยินมาว่าเจ้าของคฤหาสน์นี้สามารถสร้างโอสถกำเนิดรากฐานได้ จงโผล่หัวออกมามอบทั้งโอสถและสูตรโอสถกำเนิดรากฐานให้ข้าซะ!” ชายวัยกลางคนตะโกนขึ้นด้วยเสียงดังลั่น
มี่ตั้วตั้วและหลิงตู้ฉิงที่กำลังจะร่ำลากัน เมื่อได้ยินเสียงตะโกนโหวกเหวก หลิงตู้ฉิงจึงเผยรอยยิ้มชั่วร้ายขึ้น เขาสั่งให้มี่ตั้วตั้วเดินไปบอกกับบรรดาทหารที่กำลังฝึกอยู่ลานด้านหลังคฤหาสน์ไม่ให้เคลื่อนไหว และให้มี่ตั้วตั้วบินลอยขึ้นไปบนฟ้าแบบเปิดเผยตัวให้พวกผู้คนที่อยู่รอบ ๆ คฤหาสน์เห็นว่าเขาจากไปแล้ว
เมื่อสั่งกับมี่ตั้วตั้วเสร็จ หลิงตู้ฉิงจึงเดินค่อย ๆ ออกไปยังลานหน้าคฤหาสน์เพื่อดูสถานการณ์เพียงคนเดียว
หลิงตู้ฉิงเมื่อเดินออกมาถึงหน้าลานแล้ว เขามองไปยังชายที่บุกเข้ามาและประตูคฤหาสน์ที่บิดเบี้ยวจากการถูกถีบ และพูดขึ้นว่า “ข้าหวังว่าในตัวเจ้าจะมีวัตถุดิบระดับสูงอยู่กับตัวเยอะพอที่จะซ่อมประตูให้ข้านะ ไม่เช่นนั้นข้ารับรองได้ว่าชะตากรรมของเจ้าจะต้องเหมือนตายทั้งเป็น”
“หยุดพูดจาเลอะเทอะและจงมอบโอสถกำเนิดรากฐานกับสูตรมาให้ข้า ไม่งั้นข้าจะทำให้เจ้าต้องเสียใจที่ได้เกิดมา!” ชายวัยกลางคนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ในเวลานี้ผู้คนที่ทางเข้าคฤหาสน์สราญรมย์ก็เริ่มยืนดูอยู่ด้านนอกกันด้วยความสนใจ
อันที่จริงบรรดาคนที่ยืนอยู่หน้าคฤหาสน์นั้นส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มาจากบรรดาสำนักของทวีปอื่น ๆ หลังจากที่คนจากทวีปอื่น ๆ หาข้อมูลของคฤหาสน์สราญรมย์เป็นที่เรียบร้อย พวกเขาก็พบว่าคฤหาสน์สราญรมย์เป็นหนึ่งในสถานที่ต้องห้ามของอาณาจักรจันทราที่ไม่ใช่ว่าใครจะมาสร้างความวุ่นวายแล้วกลับมาออกได้โดยสวัสดิภาพนั้นไม่มีเลยสักคน
แม้ว่าข้อมูลทั้งหมดจะเป็นแค่คำบอกเล่าที่พวกเขาไม่เห็นด้วยตาตัวเอง แต่ก็ไม่มีใครเต็มใจจะล่วงล้ำเข้าไปเสี่ยง โดยเฉพาะในเวลานี้ที่ผู้นำตระกูลมี่ก็อยู่ข้างในด้วยอีกต่างหาก ถ้าตระกูลมี่มีพลังมากอย่างที่ข่าวลือบอกไว้ นั่นหมายความว่าถ้าหากมีอะไรเกิดผิดพลาดขึ้นมาความซวยของพวกเขาจะกลายเป็นคูณสองทันที
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาเห็นรายการที่ทางเข้าคฤหาสน์ ในฐานะคนที่มาจากสำนักระดับสูงจากทวีปอื่น พวกเขารู้ดีว่ารายชื่อทั้งหมดในรายการนั้น ผู้ที่จะรู้จักชื่อของมันพวกมันแถมยังสามารถอธิบายรายละเอียดได้อย่างแม่นยำจะต้องไม่ใช่ตัวตนธรรมดาอย่างแน่นอน
จริง ๆ แล้วบางคนที่มาในวันนี้นั้นมีของในรายการอยู่กับตัว แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่เต็มใจที่จะนำออกมาแลกเปลี่ยน เนื่องจากของเหล่านั้นเป็นวัตถุดิบที่ล้ำค่าอย่างมาก
ตอนนี้พวกเขาจึงรอดูอย่างใจจดใจจ่อว่าผลสุดท้าย ตำนานของคฤหาสน์ต้องห้ามนี้จะน่ากลัวจริงดั่งที่ผู้คนว่ากันไว้หรือไม่
“หืม? นั่นมัน ดาบกิเลนร่ำไห้หลัวเจิ้ง นี่หน่า” หลี่จือหลิงอุทานด้วยความประหลาดใจ
หลี่จือหลิงที่พึ่งได้ฟังเรื่องของคฤหาสน์นี้จากเหลียงเจี๋ย นางจึงรบเร้าขอให้เหลียงเจี๋ยพานางมาดูคฤหาสน์นี้ให้เห็นกับตาตนเองว่ามันเป็นอย่างไร แต่เมื่อมาถึงนางไม่นึกเลนยว่าจะได้มาเห็นเหตุการณือันน่าสนใจที่กำลังจะเกิดขึ้น
เมื่อผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ได้ยินหลี่จือหลิงเอ่ยชื่อหลัวเจิ้งขึ้น หลายคนที่ไม่รู้จักเขาเริ่มถามทันที
“หลัวเจิ้ง? เขาเป็นใครกัน?”
“ดาบกิเลนร่ำไห้หลัวเจิ้ง เขาเกิดในหมู่บ้านดาบศักดิ์สิทธิ์ เขาดำรงฐานะเป็นศิษย์หลักของที่นั่นและเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตรวมแสงดาราระดับ 11 ว่ากันว่าเขาบรรลุเจตจำนงของดาบแล้ว และความแข็งแกร่งในด้านการต่อสู้ของเขานั้นสูงมาก แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้เข้าสู่ขอบเขตนภา แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็สามารถต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาขั้นต้นได้อย่างสูสี” หลี่จือหลิงอธิบายให้บรรดาคนที่อยู่ด้านประตูฟัง
“มิน่าล่ะข้าถึงสัมผัสได้ถึงปราณดาบที่แข็งแกร่งแผ่ออกมาจากร่างกายเขาอย่างหนาแน่น” บางคนอุทานขึ้นด้วยความตกตะลึง
“ไม่ได้การแล้ว ในเมื่อเป็นแบบนี้คงมีโอกาสสูงมากที่เขาคนเดียวจะได้รับโอสถและสูตรของมันไปทั้งหมด!”
“พวกเรา! ข้าเห็นบนฟ้าเมื่อครู่ มี่ตั้วตั้วกำลังบินหนีจากที่นี่ไปแล้ว!”
“ขนาดมี่ตั้วตั้วยังเผ่นไปแล้ว เช่นนั้นพวกเราเข้าไปดูเหตุการณ์ด้านใน หากโชคดีหลัวเจิ้งสามารถสยบหลิงตู้ฉิงได้ พวกเราอาจจะได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไปบ้าง!”
หลายคนเมื่อได้ยินคำพูดปลุกใจเช่นนี้ พวกเขาจึงรีบก้าวเข้าไปในคฤหาสน์สราญรมย์
อันที่จริง หลี่จือหลิง นางเองก็อยากจะตามเข้าไปด้วย แต่หลังจากที่นางได้ฟังเรื่องเล่าต่าง ๆ มากมายของคฤหาสน์นี้จากเหลียงเจี๋ย นางจึงครุ่นคิดอยู่สักพัก และนางก็หยุดฝีเท้าลง และเลือกที่จะยืนมองสถานการณ์จากด้านนอกที่ทางเข้าคฤหาสน์แทน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)