หลังจากกลับมาถึงคฤหาสน์ หลิงตู้ฉิงมองลงไปยังเลือดที่เขาได้ต้มค้างทิ้งไว้และเมื่อเขาเห็นว่ามันได้ที่แล้ว เขาจึงนั่งลงที่ด้านหน้าของหม้อต้มโดยไม่ขยับไปไหน
ภายในพริบตา 8 คืนผ่านไปอย่างน่าฉงน
ส่วนหลิงตู้ฉิงก็ยังไม่ขยับไปไหนในช่วงเวลา 8 คืนที่ผ่านมา
ในขณะที่ทุกคนกำลังเตรียมที่จะออกไปยังศาลาศักดิ์สิทธิ์ หลิงตู้ฉิงได้ตะโกนเรียกหลิงยู่ชาน “ยู่ชาน วันนี้เจ้าต้องอยู่ที่คฤหาสน์ไม่ต้องไปที่ศาลาศักดิ์สิทธิ์”
“รับทราบ ท่านพ่อ” หลิงยู่ชานพยักหน้าและนั่งลงข้างหลิงตู้ฉิง
อันที่จริงหลิงยู่ชานก็พอที่จะเดาได้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น เขาสังเกตเห็นว่าหลายวันมานี้หลิงตู้ฉิงกำลังต้มเลือดอยู่ ซึ่งมันคล้ายกับตอนครั้งแรกที่พ่อของเขาเปิดพรสวรรค์สายเลือดของเขาขึ้น ซึ่งมันก็เป็นการต้มเลือดคล้ายกับแบบนี้
และในเมื่อวันนี้หลิงตู้ฉิงเรียกให้เขารั้งอยู่ที่คฤหาสน์ นั่นก็น่าจะหมายความว่าวันนี้จะต้องเป็นวันที่เขาต้องทรมานอีกหน
เมื่อเห็นว่าหลิงยู่ชานไม่ได้ไปศาลาศักดิ์สิทธิ์ หมิงจู้จึงมองไปยังแม่ของนางด้วยสายตาลังเลอยู่หลายครั้ง
และเมื่อถังชี่หยุนเห็นเช่นนั้น นางจึงพยักหน้าและพูดกับลูกสาวของนางว่า “วันนี้เจ้าจะอยู่ที่นี่ก็ได้”
ถึงแม้ว่าหมิงจู้ไม่รู้ว่าจะอะไรจะเกิดขึ้นกับหลิงยู่ชาน แต่ด้วยฐานะที่นางเป็นคู่หมั้นของเขา มันจึงเป็นเรื่องปกติที่นางจะขอรั้งอยู่กับเขาที่นี่
หลิงว่านถิงและบรรดาลูกคนอื่น ๆ ของหลิงตู้ฉิง เมื่อพวกเขาเห็นเช่นนี้พวกเขาก็รู้ได้เช่นกันว่าวันนี้จะต้องเป็นอีกวันทรมานของหลิงยู่ชานเหมือนเมื่อคราวที่แล้วที่เขาได้รับการปลุกพรสวรรค์ของสายเลือด ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกเป็นห่วง แต่พวกเขาก็ยังต้องไปเข้าชั้นเรียนที่ศาลาศักดิ์สิทธิ์
และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ถึงต่อให้พวกเขาจะอยู่ที่นี่พวกเขาก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี แถมพวกเขาจะต้องยิ่งรู้สึกเศร้ามากกว่าเดิมจากการที่พวกเขาเห็นพี่ชายของพวกเขาต้องทนทรมาน
เมื่อเห็นสีหน้าอันเคร่งเครียดของหลิงยู่ชาน หมิงจู้จึงถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง “เจ้าเป็นอะไร? ทำไมต้องเครียดขนาดนี้มันอันตรายมากงั้นเหรอ?”
หลิงยู่ชานส่ายหัวและตอบกลับ “ท่านพ่อกำลังจะช่วยข้าเปิดผนึกพรสวรรค์สายเลือดของข้าไปอีกขั้น มันไม่มีอันตรายอะไรหรอก แต่ขั้นตอนของมันทำมันทำให้ข้ารู้สึกไม่สบายตัวสักเล็กน้อยน่ะ อันที่จริงท่านไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ที่นี่หรอกนะ มันไม่มีอะไรน่าดูหรอก และยิ่งรอบนี้พรสวรรค์ในสายเลือดของข้าน่าจะถูกปลดผนึกขึ้นไปอีกเยอะเลยล่ะ ภาพที่ออกมามันอาจจะยิ่งทำให้ท่านไม่สบายใจได้”
หมิงจู้เมื่อได้ยินเช่นนี้ นางตำหนิเขาทันที “ฮึ่ม! เดี๋ยวเถอะ! เจ้าเห็นข้าเป็นคนอื่นไปแล้วรึยังไง ข้าเป็นคู่หมั้นของเจ้านะ ต่อให้เจ้าจะต้องทรมานแค่ไหนข้าก็จะอยู่ข้างเจ้า และอีกอย่างข้าไม่เชื่อหรอกว่าภาพที่ข้าจะเห็นมันจะน่าอนาถจนข้าทนดูไม่ได้!”
ในอีกด้านหนึ่ง หลิงตู้ฉิงในเวลานี้มองไปที่เลือดสีแดงฉานที่กำลังเดือดปุด ๆ อยู่ในหม้อ หลายครั้งที่เขาต้องพยายามปรับแต่งเลือดที่อยู่ภายในหม้อด้วยพลังวิญญาณของเขา เนื่องจากเลือดภายในหม้อนั้นมีส่วนผสมของทั้งเลือดกวางวิเศษ เลือดของอสูรทมิฬ และเลือดของสัตว์อสูรชนิดอื่น ๆ อีกมากมายที่ล้วนแต่แข็งแกร่ง เขาต้องปรับแต่งมันอย่างละเอียดที่สุดเพื่อที่จะให้เลือดนี้ปลอดภัยกับหลิงยู่ชานมากที่สุด
ในขณะที่เขากำลังวุ่นอยู่นั้น หนึ่งในหุ่นเชิดที่อยู่หน้าประตูได้ส่งข้อความาหาเขา “นายท่าน คนจากสำนักบุปผาจันทรา หลี่จือหลิง รออยู่ที่หน้าประตูเพื่อรอขอเข้าพบกับท่าน”
หลิงตู้ฉิงมองไปยังหม้อต้มและตะโกนกลับไปยังหุ่นเชิดว่า “บอกนางว่าข้ามีเวลาคุยกับนางแค่ครึ่งชั่วยามเท่านั้น”
หลี่จือหลิงที่รออยู่หน้าประตู เมื่อนางได้รับคำตอบจากหุ่นเชิดว่าหลิงตู้ฉิงมีเวลาให้นางเพียงครึ่งชั่วยาม นางก็ตอบตกลงและยื่นวัสดุระดับสูงให้กับหุ่นเชิดเพื่อเป็นค่าธรรมเนียมเข้าคฤหาสน์
นางที่ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าหลิงตู้ฉิงนั้นน่ากลัวขนาดไหน เมื่อมาถึงวันนี้ที่นางได้ทราบข่าวเกี่ยวกับเขา นางก็รู้สึกเสียดายเป็นอย่างมากที่ในตอนแรกนางไม่ยอมตกลงรับข้อตกลงของเขา
นางซึ่งตอนนี้คิดได้ว่าต่อให้นางกลับไปที่สำนักของนาง และใช้เวลาอีกหลายปีนางก็คงไม่สามารถบรรลุขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 13 ได้แน่นอน นางจึงไม่มีทางเลือกและจึงต้องมาหาหลิงตู้ฉิงอีกครั้งเพื่อขอให้เขาช่วยนาง
เมื่อนางเห็นหลิงตู้ฉิงที่กำลังนั่งอยู่หน้าหม้อต้มอะไรสักอย่าง นางก็โค้งคำนับและกล่าวทักทายเขาอย่างสุภาพ “ขออภัยที่มารบกวนในช่วงที่ท่านกำลังยุ่งท่านหลิง”
“ถ้าเจ้ามีอะไรจะพูดก็รีบ ๆ พูดมา ข้ามีเวลาไม่มาก!” หลิงตู้ฉิงพูดโดยไม่เงยหน้ามองนาง เขาเอาแต่จ้องมองเลือดที่กำลังเดือดอยู่ในหม้อ
หลี่จือหลิงที่พอจะรู้นิสัยของหลิงตู้ฉิงบ้างแล้ว นางจึงเริ่มพูดอย่างตรงไปตรงมา “ท่านหลิง ข้ามาที่นี่ก็เพราะข้าต้องการให้ท่านช่วยข้าบรรลุระดับการบ่มเพาะไปสู่ขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 13 ตอนนี้ข้าได้เตรียมวัสดุระดับราชวงศ์มาให้ท่านเรียบร้อยแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)