ภายในรถม้าทุกคนต่างมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยอาการตกตะลึง จากนั้นพวกเขาก็มองไปที่หลิงยี่เทียน
พวกเขาต่างคิดว่าที่หลิงตู้ฉิงทำลงไปทั้งหมดนี่ก็เพราะเขาต้องการเป็นจักรพรรดิ แต่ที่ไหนได้เขากลับจะให้หลิงยี่เทียนขึ้นเป็นจักรพรรดิแทน
ในท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคน จะมีก็แต่เหลียงเฟ่ยเอ๋อที่ดูไม่ค่อยจะรู้สึกอะไรเท่าไหร่ เพราะนางรู้เรื่องนี้มานานแล้ว และขณะนี้นางก็กำลังนั่งก้มหน้าเสียใจกับการตายของเหลียงซาน
“ท่านพ่อ ข้าจะได้เป็นจักรพรรดิงั้นเหรอ?” หลิงยี่เทียนรู้สึกประหลาดใจ “ข้าไม่อยากเป็นจักรพรรดิ ครูถังเคยบอกพวกเราเมื่อนานมาแล้วว่าการเป็นจักรพรรดินั้นเหนื่อยและน่าเบื่อมาก”
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “เจ้าเกิดมาเพื่อเป็นจักรพรรดิ มันน่าเสียดายนะถ้าเจ้าไม่ต้องการมัน ยิ่งไปกว่านั้นการบ่มเพาะของเจ้าเกี่ยวข้องกับการเป็นจักรพรรดิ ถ้าเจ้าไม่ได้เป็นจักรพรรดิแม้ว่าพ่อจะทำให้เจ้าบ่มเพาะได้ เจ้าก็เป็นแค่เศษขยะแต่ถ้าเจ้าได้เป็นจักรพรรดิ เจ้าก็จะเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้ ฉะนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้วว่าเจ้าต้องการเลือกที่จะเป็นแบบไหน”
“จริงเหรอ?” หลิงยี่เทียนพูด “แต่การเป็นจักรพรรดินั้นมันต้องเหนื่อยมากแน่ ๆๆ”
ถังชี่หยุนยิ้มและพูดว่า “จักรพรรดิที่ดีจะไม่มีวันเหนื่อยเพราะจะมีคนจำนวนมากที่คอยช่วยเหลือ ส่วนจักรพรรดิที่ไม่ดีก็จะไม่เหนื่อยเช่นกัน แต่เขาคงจะมีชีวิตที่ไม่ยืนยาวนัก”
“จริงเหรอ ครูถัง?” หลิงยี่เทียนกระพริบตา
หลิงตู้ฉิงยังไม่เข้าใจหลักการการดำเนินชีวิตตามปกติของโลกใบนี้มากนัก แต่เขามั่นใจว่าสายเลือดของมหาจักรพรรดิโบราณของหลิงยี่เทียนจำเป็นต้องได้รับการถูกปลุกและบ่มเพาะผ่านการเป็นจักรพรรดิเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าตามน้ำไปกับที่ถังชี่หยุนพูดเพื่ออนาคตที่ดีที่สุดของลูกของเขา
หลิงว่านถิงหัวเราะ “น้องหกเจ้าจะกลัวอะไร ถ้าเจ้าได้เป็นจักรพรรดิพี่สองคนนี้จะคอยช่วยเจ้าแน่นอน เจ้าจะลืมพี่สองไม่ได้นะ”
“พี่ก็จะช่วยเจ้า!” หลิงยู่ชานพูด
หลิงยี่เทียนที่เห็นพ่อและอาจารย์ของเขาพยักหน้า รวมไปถึงพี่ชายและบรรดาแม่ ๆ ยังแสดงการสนับสนุน เขาลังเลเล็กน้อยและพูดว่า “งั้นข้าก็จะลองดู”
“ลองสิ เจ้าต้องลอง!” หลิงว่านถิงหัวเราะเบา ๆ ขณะที่นางพูด “ถ้าเจ้าได้เป็นจักรพรรดิ ข้าก็จะเป็นองค์หญิง”
หลิงยี่เทียนพยักหน้าอย่างหนักแน่นและพูดว่า “เมื่อถึงเวลาข้าจะทำให้พี่สอง พี่ห้า และน้องเจ็ดเป็นองค์หญิงและข้าจะมอบตำแหน่งสูง ๆ ให้กับทุกคนทั้งหมดเลย! ว่าแต่ท่านพ่อและท่านน้าอยากจะเป็นอะไร?”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “พ่อไม่ต้องการตำแหน่งอะไรหรอก พ่อขี้เกียจที่จะต้องมองเจ้าในท้องพระโรง! และแม่ของเจ้าถ้าพวกนางไม่ต้องการ เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องมอบตำแหน่งให้พวกนางด้วย ตอนนี้เจ้าคิดถึงสิ่งที่เจ้าควรทำเมื่อขึ้นครองบัลลังก์ในวันมะรืนนี้ให้ดี และกลับไปคิดด้วยว่าจะสร้างอาณาจักรของเจ้าให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นได้อย่างไร”
หลิงยี่เทียนพยักหน้าและพูดว่า “ข้าจะลองคิดดู! แต่ข้าไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้เป็นจักรพรรดิ ท่านพ่อต้องช่วยข้านะ!”
“ไม่ต้องห่วง พ่อได้เตรียมของขวัญไว้ให้เจ้าแล้ว!” หลิงตู้ฉิงยิ้ม
“เยี่ยมเลย!” หลิงยี่เทียนพยักหน้า “ข้าจะขึ้นครองบัลลังก์ในอีก 3 วัน พวกท่านทุกคนต้องมาอยู่กับข้าด้วยนะ!”
หลิงยู่ชาน หลิงว่านถิงและคนอื่น ๆ พยักหน้า
อย่างไรก็ตาม หลิงตู้ฉิงพูดว่า “วันมะรืนนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของยี่เทียน ในช่วงเวลาที่เขาต้องขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์ เราต้องก้มหัวให้เขาไม่เช่นนั้นเขาก็ยังไม่สามารถบ่มเพาะได้ หากใครไม่ต้องการคุกเข่าลงแสดงความเคารพต่อเขาแล้ว พวกเจ้าจงอย่าเข้าร่วมพิธีขึ้นครองราชย์ที่กำลังจะเกิดขึ้น”
“พวกเราต้องคุกเข่าให้กับเขาด้วยงั้นเหรอ?” หลิงฟ่างหัวตะโกนทันที “ข้าเป็นพี่สาวของเขา ข้าจะไม่ก้มหัวให้เขาหรอก!”
หลิงว่านถิงยังหัวเราะและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าก็ไม่ไปเหมือนกัน!”
พี่ชายทั้งสามยิ้มทันทีและบอกว่าจะไม่ไป พวกเขาจะไปหลังจากที่น้องหกของพวกเขาขึ้นครองบัลลังก์
“ไม่นะ!” หลิงยี่เทียนวิงวอน “ถ้าข้าต้องขึ้นครองบัลลังก์อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีพวกท่านไปเลยสักคนแล้วมันจะไปมีความหมายอะไรกันต่อให้ข้าจะได้เป็นจักรพรรดิก็ตามเถอะ อย่างน้อย ๆ น้องเจ็ดเจ้าจะมาดูข้าขึ้นบัลลังก์ใช่ไหม?”
หลิงไช่หยุนหัวเราะและพูดว่า “ท่านพี่ ไม่ต้องกังวลพอถึงวันนั้นข้าจะไปคุกเข่าต่อหน้าท่านพี่แน่นอน แต่ว่า…ข้าไม่ทำให้เปล่า ๆ หรอกนะ ท่านต้องมีอะไรมาแลกเปลี่ยนกับข้าด้วยสิ หึหึ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)