พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) นิยาย บท 296

บทที่ 296 ความโกรธเกรี้ยวของสำนักอักขระวิญญาณ
บทที่ 296 ความโกรธเกรี้ยวของสำนักอักขระวิญญาณ

หลังจากที่หลิงตู้ฉิงหลอมโอสถบำรุงวิญญาณเสร็จแล้ว เขาก็เริ่มงานกับสมบัติวิเศษระดับเซียนของสำนักอักขระวิญญาณ

อาจเป็นเพราะผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดของสำนักอักขระวิญญาณเป็นผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์ ดังนั้นสมบัติวิเศษระดับเซียนที่พวกเขานำมาในครั้งนี้ก็คือ พู่กันเขียนอักขระสีทองที่ยาวประมาณ 1 ฟุตกว่า

หลิงตู้ฉิงหยิบพู่กันเขียนอักขระขึ้นมาดูพร้อมกับพยักหน้าชื่นชมมัน

เดิมทีเขาต้องการใช้สมบัติวิเศษระดับเซียนเป็นแหล่งพลังใหม่ให้กับค่ายกลกระบี่เหินเมฆา เพื่อให้มีพลังมากขึ้น

แต่หลังจากพบว่ามันเป็น พู่กันเขียนอักขระ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะละแผนเดิมทิ้งไปก่อนชั่วคราว และหันมาใช้พู่กันเขียนอักขระเพื่อจารึกอักขระเวทย์เวทย์และวาดภาพต่าง ๆ ลงบนยันต์เคลือบหยก

พู่กัน ที่เป็นสมบัติวิเศษระดับเซียนชิ้นนี้ซึ่งมันมีชื่อว่า ‘พู่กันวิญญาณหลงใหล’ นั้นทำให้ขั้นตอนการจารึกยันต์เคลือบหยกของหลิงตู้ฉิงนั้นง่ายขึ้นเป็นอย่างมาก

พูดง่าย ๆ ถ้าก่อนหน้านี้เขาต้องการเวลา 3 วันในการวาดอสูรกลืนสวรรค์ แต่ด้วยการใช้พู่กันวิญญาณหลงใหลนี้เขาจะใช้เวลาเพียงครึ่งวันในการวาดภาพให้เสร็จได้

ส่งผลให้ขณะนี้ยันต์เคลือบหยกที่มีอยู่ในหมู่ตึกหยูอี่ 10 ชิ้นได้ถูกจารึกสิ่งต่าง ๆ ลงไปจนเสร็จอย่างรวดเร็ว

จากยันต์เคลือบหยก 10 ชิ้นที่เสร็จสมบูรณ์ เสี่ยวเยว่เฟิงได้ไป 2 ใบ ส่วนที่เหลือหลิงตู้ฉิงเก็บไว้ทั้งหมด

ซือโถวเหวินหยวนที่เห็นเช่นนี้ก็มองดูด้วยสายตาเศร้าสร้อย เพราะสุดท้ายก็ไม่มีสักใบเดียวที่มาอยู่ในมือของเขา

เพราะความผิดพลาดจากครั้งก่อน เขาเองก็ไม่กล้าที่เอ่ยปากขอรับมันและทำได้เพียงแค่ยืนดูอยุ่เฉย ๆ

หลังจากที่หลิงตู้ฉิงมัวแต่ยุ่งอยู่กับการจารึกยันต์เคลือบหยกเสร็จจนหมด มันก็กินเวลากว่า 1 เดือนนับตั้งแต่ที่เขาหลอมโอสถบำรุงวิญญาณเสร็จ

ในช่วงเวลาระหว่างนั้น ผู้นำตระกูลเย่ เย่เจียนเฟยก็ได้มาที่หมู่ตึกหยูอี่ และขอเข้าพบกับหลิงตู้ฉิงเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาบางอย่างกับหลิงตู้ฉิง

และในท้ายที่สุดเขาได้รับโอสถบำรุงวิญญาณจากหลิงตู้ฉิงเพื่อยุติความสัมพันธ์ระหว่างหยุนจื่อรุ่ยและเปียนเฉียวเฉียวกับตระกูลเย่

อันที่จริงแล้ว เย่เจียนเฟยไม่ต้องการที่จะรับโอสถบำรุงวิญญาณนี้สักเท่าไหร่ เนื่องจากเขาต้องการสร้างผูกความสัมพันธ์กับหลิงตู้ฉิงในระยะยาว แต่น่าเสียดายที่หลิงตู้ฉิงไม่ค่อยจะสนใจข้อเสนอของเขาสักเท่าไหร่

ในช่วงเวลาที่พวกเขาได้พบหน้ากัน หลิงตู้ฉิงกลับยื่นโอสถบำรุงวิญญาณให้เขาในทันที เพื่อยุติความสัมพันธ์ของพวกเขา ซึ่งทำให้เขารู้ทันทีว่าถ้าเขายังคงดึงดันที่จะไม่ยอมรับมันอีก มันจะกลายเป็นการทำให้หลิงตู้ฉิงขุ่นเคือง

“สามีข้านึกไม่ถึงจริง ๆ ว่า เย่เจียนเฟย ผู้นี้จะเป็นคนที่มีความคิดที่ฉลาดไม่น้อย” มี่ไลยิ้มและพูดว่า “กลับกลายเป็นว่าเขาต้องการที่จะร่วมทำการค้ากับสามีในเรื่องเกี่ยวกับโอสถ ข้าคิดว่าเขาเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ที่ดีทีเดียว”

เสี่ยวเยว่เฟิงหัวเราะจากด้านข้าง “ท่านหญิง ข้าคิดว่าอันที่จริงแล้วมันไม่แปลกเลยที่เมื่อเย่เจียนเฟยได้รู้ว่านายท่านสามารถหลอมโอสถระดับสวรรค์ได้ เขาจึงมีความคิดเช่นนี้และรีบเข้ามาเจรจาขอร่วมทำการค้ากับนายท่านทันที ท่านอาจจะยังไม่รู้ว่าสำหรับในสายตาคนทั่วไป นักหลอมโอสถที่สามารถหลอมโอสถระดับสวรรค์ได้นั้นเป็นตัวตนที่น่ากลัวยิ่งและมีค่าซะยิ่งกว่าผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์เสียอีก เนื่องจากถ้าจะให้พูดกันตามตรงแล้ว ทักษะความสามารถของผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์นั้นค่อนข้างที่จะไร้ประโยชน์สำหรับคนทั่วไปโดยซะส่วนใหญ่”

จริง ๆ แล้วมันก็เป็นอย่างที่เสี่ยวเยว่เฟิงได้พูดไว้ เมื่อเย่เจียนเฟยได้รู้ถึงความสามารถในการหลอมโอสถของหลิงตู้ฉิง เขาจึงได้ปกปิดเรื่องที่หลิงตู้ฉิงสามารถหลอมโอสถบำรุงวิญญาณเอาไว้และให้มีเพียงเขาและลูกชายของเขาเท่านั้นที่รู้ข้อมูลนี้ เพื่อที่พวกเขาจะได้เป็นตระกูลที่ผูกขาดกับหลิงตู้ฉิงเพียงตระกูลเดียวในการเป็นช่องทางการขายโอสถให้ในกรณีที่พวกเขาเจรจากับหลิงตู้ฉิงสำเร็จ แต่น่าเสียดายที่หลิงตู้ฉิงนั้นไม่เต็มใจที่จะทำแบบนั้น

“เนื่องจากเจ้าไม่ยอมร่วมมือกับข้า! งั้นข้าก็จะขายข้อมูลนี้ของเจ้า!” เย่เจียนเฟยพึมพำกับตัวเอง

เขาวางแผนที่จะใช้ข้อมูลลับนี้เพื่อแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์สูงสุด

สำหรับหลิงตู้ฉิง เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับตัวตนของเขาในฐานะนักหลอมโอสถเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)