ชื่อเสียงของหมู่ตึกหยูอี่นั้นนับได้ว่าเป็นตำนานของเมืองเจินไห่ไปแล้ว
ตั้งแต่การมีอยู่ของยันต์สั่งสวรรค์ไปจนถึงการเข้ายึดครองหมู่ตึกหยูอี่ของหลิงตู้ฉิง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อช่วงเวลาที่หลิงตู้ฉิงวาดภาพลงในยันต์สั่งสวรรค์เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งมันดึงดูดผู้เชี่ยวชาญมากหน้าหลายตาจนมีหลายคนแอบเข้าไปในหมู่ตึกหยูอี่และถูกสังหารโดยค่ายกลกระบี่เหินเมฆา และเหลือไว้แต่ซากศพของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์หลายคนที่ถูกลากมากองไว้กลางถนนหน้าหมู่ตึก จากเหตุการณ์นั้นมันยิ่งเป็นการทำให้ทุกคนรู้จักชื่อเสียงอันน่าหวาดกลัวของหมู่ตึกหยูอี่มากเข้าไปอีก
อย่างไรก็ตาม ผู้คนในเมืองเจินไห่นั้นไม่เคยคิดว่าหมู่ตึกหยูอี่จะมีชื่อเสียงที่น่าทึ่งจนถึงขนาดดึงดูดองค์หญิงของอาณาจักรให้มาสนใจ และยั่วยุสำนักอักขระวิญญาณจนต้องส่งผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญมาที่นี่เพื่อลงมือสะสางแค้น
หลายคนที่เคยมีเจตนาแอบแฝงกับหมู่ตึกหยูอี่มาก่อน พวกเขารู้สึกหนาวสั่นในใจขึ้นทันที
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เป็นเช่นนี้ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะลุ้นให้คนของสำนักอักขระวิญญาณประสบความสำเร็จและกวาดล้างหมู่ตึกหยูอี่ออกไป จากนั้นสิ่งต่าง ๆ ที่ทำให้พวกเขาทุกข์ใจอยู่จะได้จบลงซะที
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตระกูลจางและตระกูลจื่อ พวกเขายิ่งกระตือรือร้นที่จะให้สำนักอักขระวิญญาณทำภารกิจของพวกเขาให้สำเร็จ
แม้ว่าหลังจากเหตุการณ์ความขัดแย้งที่ผ่านมา หมู่ตึกหยูอี่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับทั้งสองตระกูลเลยก็ตาม แต่หมู่ตึกหยูอี่ก็กลายเป็นขุนเขาที่ข่มทับจิตใจพวกเขามาโดยตลอด
และตอนนี้ผู้ครอบครองหมู่ตึกหยูอี่ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว จากนี้ผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไรกันแน่?
เมื่อสีเป่ยเซียะเห็นหลิงตู้ฉิงเดินออกมา นางมองเขาอย่างอยากรู้อยากเห็น แต่ไม่ได้เอ่ยทักอะไร
ต่อให้เขาเป็นอัจฉริยะแล้วมันจะยังไงกันล่ะ? เขาจะทำอะไรได้เมื่อต้องเผชิญกับอำนาจที่เหนือกว่าเช่นนี้?
เนื่องจากเขาไม่ยอมเข้าร่วมกับนาง นางจึงไม่ปกป้องเขาเช่นกัน นอกจากนี้คนของสำนักอักขระวิญญาณที่มากันวันนี้ก็ไม่ได้อ่อนแอเช่นกัน แม้ว่าตอนนี้หลิงตู้ฉิงจะขอให้นางช่วย นางก็ยังต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
ทางด้านของไป๋หยูหมิง เมื่อเขาเห็นว่าบรรดาคนของหมู่ตึกหยูอี่กำลังเดินออกมา เขาก็จ้องมองไปที่พวกเขาด้วยแววตาเย้ยหยัน
ผู้อาวุโสเหยาที่เห็นว่าพวกของหลิงตู้ฉิงออกมาจากหมู่ตึกหยูอี่แล้ว เขาจึงตะโกนขึ้น “มอบสมบัติวิเศษระดับเซียนของสำนักข้ามา และพวกเจ้าทุกคนจงตามพวกข้ากลับไปที่สำนักของเราเพื่อรอการลงทัณฑ์!”
แน่นอนว่าเขาต้องได้สมบัติระดับเซียนกลับคืนมา และเขาต้องแก้แค้นอย่างแน่นอน แน่นอนว่าความตั้งใจเดิมในการช่วงชิงยันต์สั่งสวรรค์ยังคงเหมือนเดิม
หลิงตู้ฉิงมองไปที่เหล่าคนของสำนักอักขระวิญญาณ และคนอื่น ๆ ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าด้วยสายตาเย็นชาและพูดขึ้น “พวกเจ้าทุกคนไสหัวไปซะ ถ้าหากพวกเจ้าไม่ยอมไสหัวไปซะตั้งแต่ตอนนี้ ไม่เพียงแต่พวกเจ้าจะตายทั้งหมด แต่สำนักอักขระวิญญาณของพวกเจ้าก็จะถูกลบหายออกไปจากโลกนี้!”
อันที่จริงเขาไม่อยากพูดมาก แต่เขาจำเป็นต้องลองให้ทางเลือกคนพวกนี้ เนื่องจากเขาเองก็ไม่อยากฆ่าคนจำนวนมากขนาดนี้
นี่เป็นเพราะวิถีการบ่มเพาะของเขาในชีวิตนี้นั้นแตกต่างจากชีวิตที่แล้ว ถ้าเขาฆ่าคนมากเกินไปเขาจะได้รับอันตรายจากการบ่มเพาะอย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้นเขาลังเลเล็กน้อยที่จะใช้ยันต์สั่งสวรรค์และยิ่งไม่เต็มใจที่จะปล่อยให้หญิงสาวในยันต์สั่งสวรรค์หายไป เนื่องจากนี่คือเจตจำนงสุดท้ายของนางที่เขาเหลืออยู่
ไป๋หยูหมิงหัวเราะอย่างเย็นชา “ตอนนี้ในสายตาของข้า เจ้าไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่ามด แล้วนี่เจ้ายังกล้าขู่พวกข้าอีกงั้นเหรอ? เจ้าคิดว่าการที่เจ้าเคยสังหารคนของสำนักข้าและขโมยสมบัติระดับเซียนของเราไปได้แล้วเจ้าจะคิดว่าเจ้าเหนือกว่าสำนักของข้าแล้วงั้นเหรอ เจ้านี่มันไม่รู้ถึงขีดจำกัดของตัวเจ้าเองจริง ๆ วันนี้ข้าจะสั่งสอนให้เจ้ารู้สึกโดยการจับพวกเจ้าทั้งหมด และจะทำให้พวกเจ้ากลายเป็นหุ่นเชิดไปเฝ้าอยู่ที่ทางเข้าของสำนักข้าเพื่อเป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้คนทั่วไป!”
“ข้าจะให้โอกาสพวกเจ้าอีกครั้ง จงรีบไสหัวไปจากที่นี่ซะ!” หลิงตู้ฉิงตอบกลับด้วยสายตาเย็นชา
ขณะนี้ร่างกายของหลิงตู้ฉิงกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้า ๆ เจตจำนงแห่งการฆ่าที่มองไม่เห็นได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของเขา
แต่น่าเสียดายที่ฝั่งตรงข้ามนั้นอยู่ไกลเกินไปที่จะรู้สึกอะไร
แต่บรรดาคนของหลิงตู้ฉิงที่อยู่ข้าง ๆ ต่างรู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งตัว
ซึ่งขนาดที่ซือโถวเหวินหยวน ที่แม้ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์หรือผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์สามัญอย่างเสี่ยวเยว่เฟิงก็ตาม ภายใต้เจตจำนงแห่งการฆ่าเช่นนี้พวกเขาก็รู้สึกเหมือนหนูเจอแมว พวกเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวสั่น
ไป๋หยูหมิงที่ยังไม่รู้สึกถึงอะไร เขาเห็นแต่เพียงว่าหลิงตู้ฉิงในตอนนี้ไม่มีท่าทีที่จะยอมแพ้แถมยังคงโอ้อวดต่อ เขาเยาะเย้ย “เนื่องจากเจ้ายังคงต่อต้าน ถ้าอย่างนั้นก็จงเตรียมตัวรับการลงทัณฑ์ซะ ทุกคนจับพวกมันกลับไปสำนักของเราให้หมด!”
เมื่อไป๋หยูหมิงออกคำสั่ง ทุกคนในเมืองเจินไห่ก็รู้สึกเหมือนมีแรงกดดันจากบนท้องฟ้าหล่นลงมาทับร่างของพวกเขา
ทางด้านของผู้อาวุโสเหยา และผู้อาวุโสเจิ้ง ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเหนือล้ำ พวกเขาทั้งคู่ก็ค่อย ๆ ร่อนลงมาหาหลิงตู้ฉิงและคนของเขา เพื่อจับกุมพวกเขากลับไปที่สำนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)