เนื่องจากยืนอยู่นานเกินไป ไร้เงาที่เพิ่งถูกปล่อยตัวจึงล้มลงกับพื้นทันที
เขามองหลิงตู้ฉิงด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดตลอดทั้งคืนก็ยังไม่สามารถเข้าใจได้ว่าหลิงตู้ฉิงหยุดการเคลื่อนไหวเขาได้อย่างไร?
ในตอนนี้เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่าเหตุใดมี่ตั้วตั้วจึงย้ำเตือนพวกเขาซ้ำ ๆ ให้พวกเขาปฏิบัติต่อหลิงตู้ฉิงด้วยความเคารพ
โม่หยูถังพาพวกบ่าวรับใช้และผู้คุ้มกันทำความสะอาดห้องของตนเอง
หลังจากจัดห้องของตัวเองเสร็จเรียบร้อย บรรดาบ่าวรับใช้และผู้คุ้มกันทุกคนรีบมาที่ลานกลางเรือนเพื่อดูว่ากิจวัตรของคนตระกูลหลิงทำอะไรกันบ้าง
แต่เมื่อพวกเขาได้เห็นภาพที่เกิดขึ้นในลานกลางเรือน สิ่งเดียวที่พวกเขาพอจะเข้าใจคือการฝึกออกหมัดของหลิงยู่ชานและหลิงตู้ฉิงที่กำลังเล่นหมากรุกกับลูกชายสองคน ส่วนเด็กอีกสองคน คนหนึ่งกำลังที่นอนก้ม ๆ เงย ๆ (หาเงา) กับอีกคนที่เดินเล่นไปเล่นมากับบานประตูอะไรสักอย่าง พวกเขามองด้วยความฉงนแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกมา
พวกเขาไม่เข้าใจว่าการที่ผู้ใหญ่เล่นหมากรุกกับเด็กสองคนซ้ำ ๆ มันน่าสนุกตรงไหน
แต่ในเมื่อพวกเขาไม่เข้าใจจึงไม่ได้วิจารณ์อะไรออกมา
ในขณะที่เล่นหมากรุก หลิงตู้ฉิงถามบ่าวรับใช้ที่อยู่ข้างเขาว่า “เมื่อวานนี้พวกเจ้ามากันค่อนข้างดึก ข้าจึงยังไม่ได้ถามชื่อของพวกเจ้า เอาล่ะ เจ้าชื่ออะไร?”
“ข้าชื่อ เจี้ยนหนีฉาง” หญิงสาวอายุราว 14 หรือ 15 เอ่ยขึ้น
ถังชี่หยุนกระซิบข้าง ๆ หลิงตู้ฉิงทันที “เจี้ยนหนีฉาง นางคือผู้เชียวชาญด้านการใช้พิษ แม้ว่าจะดูเหมือนอายุนางจะไม่ได้มาก แต่อันที่จริงนางอายุ 40 ปีแล้ว และครั้งหนึ่งนางยังเคยฆ่าล้างคนในเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่งด้วยการวางยาพิษคน 323 คนจนตายทั้งหมด”
หลิงตู้ฉิงและทุกคนได้ยินคำพูดของถังชี่หยุน
เมื่อเจี้ยนหนีฉางเห็นหลิงตู้ฉิงส่งสายตามองนางด้วยความสนใจ นางยิ้มและพูดว่า “ผู้คนในเมืองเล็ก ๆ นั่นทุกคนล้วนแต่สมควรตาย!”
“ข้าชื่อไร้เงา!” นักฆ่าไร้เงาได้แนะนำตัวตามมา
เมื่อได้ยินไร้เงาแนะนำตัว ถังชี่หยุนจึงร่ายประวัติของไร้เงากับหลิงตู้ฉิงต่อ
หลังจากนั้นคนอื่น ๆ ก็เริ่มแนะนำตัวเอง เช่น นักดาบสาวที่สะพายดาบเล่มใหญ่ชื่อ เก๋าหง ชายร่างใหญ่ชื่อ ฉีจินสง และชายวัยกลางคนที่ดูซื่อสัตย์ชื่อ จู้กว่างเต๋อ
พวกเขาทั้งหมดมีจุดเด่นและจุดด้อยต่างกันไป บางคนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วไปแต่บางคนก็ไม่มีชื่อเสียงที่ชัดเจน
แน่นอนหลิงตู้ฉิงไม่สนใจรายละเอียดของพวกเขา เขาพยักหน้าเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาเข้าใจประวัติเบื้องต้นของทุกคนแล้ว
หลังจากเล่นไปครู่หนึ่ง หลิงตู้ฉิงก็ถามไปยังเหล่าผู้คุ้มกันและบ่าวรับใช้ที่ยืนดูอยู่ “ใครเล่นหมากรุกเป็นบ้าง?”
จู้กว่างเต๋อยิ้มและพูดว่า “ท่านหลิง หมากรุกเป็นเกมง่าย ๆ ทุกคนต้องเล่นเป็นอยู่แล้ว”
“อย่างนั้นเจ้าก็เล่นหมากรุกกับพวกเขาแทนข้าไปก่อน ข้าจะไปดูคนที่อยู่ในสวนหลังบ้าน” เขายืนขึ้นแล้วเดินไป
จู้กว่างเต๋อและคนอื่น ๆ มองหน้ากัน ไม่มีใครอยากเล่นหมากรุกกับเด็กทั้งสองคนเท่าไหร่ เพราะถึงพวกเขาจะเอาชนะได้ มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจอะไรสักเท่าไหร่นัก
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครต้องการเล่นหมากรุก เก๋าหงจึงพูดว่า “ข้าเอง!”
เพราะนางอายุน้อยที่สุดในบรรดาผู้คุ้มกัน นางจึงไม่กลัวที่จะเสียหน้าหากเป็นฝ่ายแพ้
แต่เมื่อเก๋าหงเริ่มเดินหมากกับหลิงยี่เทียนไปเพียง 30 ตาเดิน นางก็แพ้
หลิงยี่เทียนพูดอย่างมีความสุข “พี่สาวเก๋าหง ผู้แพ้ต้องวิ่งรอบลาน!”
หลิงยี่เทียนมีความสุขเล็กน้อยเพราะเขาแพ้หลิงตู้ฉิงมาตลอด ในที่สุดเมื่อเขาได้รับชัยชนะเขาจะไม่มีความสุขได้อย่างไร?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)