หลังจากส่งหนิงฮ่าวไปแล้ว เสี่ยวเยว่เฟิงก็พาน้องสาวไปเก็บตัวบ่มเพาะต่อ
ตราบใดที่หลิงตู้ฉิงอยู่ นางก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนบุกเข้ามา
และยิ่งไปกว่านั้น ขณะนี้ในเรือนมีผู้คนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากแถมแต่ละคนก็ล้วนแต่เป็นผู้ที่มาจากขุมกำลังที่แข็งแกร่งทั้งนั้น หากมีใครที่หาญกล้าบุกเข้ามาในเรือนในช่วงเวลานี้มันก็เหมือนกับรนหาที่ตายเท่านั้น
แต่ถ้าหากเป็นเรื่องจิปาถะ หยุนจื่อรุ่ยและเปียนเฉียวเฉียวสามารถจัดการเองได้
ในชั่วพริบตาเวลาก็ผ่านไปอีกหลายปี เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ทั้งสองก็เติบโตเป็นหญิงสาวที่งามสง่า
ด้วยผลพวงจากการที่พวกนางได้รับการชี้แนะจากเสี่ยวเยว่เฟิง พวกนางทั้งสองจึงมีรากฐานการบ่มเพาะที่มั่นคงและไม่รีบร้อนที่จะทะลวงผ่านไปยังขอบเขตต่อไป
ดังนั้นหลังจากหลายปีผ่านไป ระดับการบ่มเพาะของพวกนางก็ยังคงอยู่ที่ขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 5
นอกจากการบ่มเพาะแล้วพวกนางยังคอยดูแลความเรียบร้อยและทำความสะอาดบริเวณต่าง ๆ ของเรือน
ปัญหาเดียวคือหลังจากที่เด็กหญิงทั้งสองเติบโตเป็นสาวเต็มตัว พวกนางก็เริ่มมองไปที่หลิงตู้ฉิงและหลิงเทียนหยุนมากขึ้นเรื่อย ๆ
ซึ่งแน่นอนว่าจำนวนครั้งในการมองไปที่หลิงตู้ฉิงนั้นย่อมมากกว่า เนื่องจากหลิงเทียนหยุนใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการเก็บตัวอยู่แต่ในห้องเพื่อฝึกวิชาเจตจำนงแปลงสรรพสิ่ง
ดังนั้นเด็กสาวทั้งสองจึงมักจะไปนั่งที่ด้านข้างของหลิงตู้ฉิง เพื่อดูเขาหลอมโอสถหรือสร้างสมบัติวิเศษต่าง ๆ
ซึ่งแค่ได้ทำเช่นนี้พวกนางก็รู้สึกมีความสุขในหัวใจ
แต่ถึงแม้ว่าพวกนางจะมีความสุข พวกนางก็ยังมีความรู้สึกขัดแย้งในใจว่าทำไมเจ้านายของพวกนางถึงไม่ค่อยจะทำตัวสนใจพวกนางเลย
ในขณะที่เปียนเฉียวเฉียวหลงอยู่ในห้วงความคิด ก็มีเสียงหนึ่งปลุกให้นางตื่นขึ้นจากห้วงความคิดของนาง
“เฉียวเอ๋อ เจ้านายของเจ้าอยู่ที่ไหน?” สีเป่ยเซียะถามขึ้น
“องค์หญิง นายท่านอยู่ในสวนด้านหลัง!” เปียนเฉียวเฉียวรีบตอบกลับ
“ไปรายงานกับเจ้านายของเจ้าให้ข้าที ว่าข้ามีเรื่องจะปรึกษากับเขา” สีเป่ยเซียะพูดขึ้นพลางส่งยิ้มให้นาง
เมื่อได้ยินเช่นนี้ดวงตาของเปียนเฉียวเฉียวสว่างขึ้น จากนั้นนางยืนขึ้นอย่างเร่งรีบและพูดว่า “องค์หญิงโปรดรอสักครู่ ข้าจะไปรายงานให้นายท่านทราบเดี๋ยวนี้”
นางมีข้ออ้างที่จะได้เข้าไปเห็นหลิงตู้ฉิงอีกครั้งแล้ว
หลังจากเข้าไปในสวนด้านหลัง เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงกำลังยุ่งอยู่กับการหลอมโอสถ นางจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“นายท่าน องค์หญิงมีเรื่องจะคุยกับท่าน ท่านต้องการเชิญนางเข้ามาหรือไม่?”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและพูดว่า “ให้นางเข้ามา”
เปียนเฉียวเฉียววิ่งออกไปและพาสีเป่ยเซียะเข้ามาในสวน
สีเป่ยเซียะไม่แปลกใจที่เห็นหลิงตู้ฉิงกำลังหลอมโอสถ นางถามว่า “เจ้ากำลังหลอมโอสถชนิดใด?”
หลิงตู้ฉิงพูดอย่างไม่เป็นทางการว่า “ข้ากำลังหลอม โอสถเพลิงหยวน”
สีเป่ยเซียะถามไปอย่างนั้น แต่นางไม่ได้คาดหวังว่าหลิงตู้ฉิงจะตอบจริง ๆ
นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเกี่ยวกับชื่อของโอสถที่หลิงตู้กล่าวมาและเมื่อนางเองก็ไม่รู้ว่าโอสถเพลิงหยวนมีไว้เพื่ออะไร นางจึงไม่ได้สนใจมันอีก นางจึงพูดขึ้นต่อว่า “ข้าตัดสินใจแล้วว่าข้าเห็นด้วยกับข้อตกลงที่ท่านเคยเอ่ยมาก่อนหน้านี้”
ดวงตาของหลิงตู้ฉิงสว่างขึ้นทันที เขาเงยหน้าขึ้นมองสีเป่ยเซียะและถามว่า “ตอนนี้เจ้าได้นำ แร่ทองคำศักดิ์สิทธิ์ ติดตัวมาด้วยรึเปล่า?”
สีเป่ยเซียะพยักหน้าและหยิบวัตถุชิ้นหนึ่งที่มีขนาดเท่าเล็บมือออกมา ซึ่งมีแสงหลากสีอันงดงามเปล่งประกายออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)