หลิงตู้ฉิงรู้สึกสับสน ขณะที่เขาเฝ้าดูสีเป่ยเซียะจากไป
ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงเปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วขนาดนี้ได้กัน?
เมื่อครู่เขารู้สึกได้ถึงอารมณ์หลากหลายประเภทที่ปะทุขึ้นมาจากร่างกายของนาง ซึ่งในนั้นก็คืออารมณ์ความโกรธ
แต่ทำไมนางถึงต้องโกรธ?
เขาเองจำได้ว่าในตอนแรก เย่ชิงเฉิงก็โกรธเขาเช่นกัน แต่ผลสุดท้ายนางก็ตกหลุมรักเขานี่นา
หรือว่าผู้หญิงทุกคนจะเป็นแบบนี้?
ทำไมอารมณ์ของผู้หญิงมันช่างซับซ้อนได้ถึงขนาดนี้กัน!
หลิงตู้ฉิงอดไม่ได้ที่จะเกาหัวด้วยความรู้สึกสับสน
แต่เมื่อเขานำแร่ทองคำศักดิ์สิทธิ์ออกมาตรวจสอบอีกครั้ง หลิงตู้ฉิงก็รู้สึกดีใจขึ้นมาเล็กน้อยและพึมพำในใจ “ด้วยแร่ทองคำศักดิ์สิทธิ์ ข้าสามารถสร้างอาวุธสำหรับ *จุนเอ๋อ ได้ในอนาคต สำหรับหน้าที่การเป็นขุนพล หากปราศจากอาวุธที่ยอดเยี่ยม เขาจะไม่สามารถที่จะแสดงความแข็งแกร่งออกมาได้อย่างเต็มที่ เมื่อไหร่ที่ข้ามอบอาวุธที่เหมาะสมให้กับเขาได้ พลังของเขาจะต้องแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีกเป็นอย่างมาก แม้ว่าแร่ทองคำศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนี้จะมีขนาดเล็กไปหน่อย แต่มันก็เกิดจากวิถีแห่งสำนักเบญจธาตุ มันคงไม่มีปัญหาอะไรหากจะใช้มันเพื่อสร้างอาวุธธรรมดาให้เขาไปก่อน”
*จุนเอ๋อ คือ หลิงว่านจุน
เมื่อตรวจสอบมันอีกรอบจนถี่ถ้วนและเก็บมันลงไปแล้ว เตาหลอมโอสถก็หยุดหมุนพอดีเช่นกัน ซึ่งมันเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าโอสถเพลิงหยวนนั้นเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
เมื่อหลิงตู้ฉิงเปิดเตาหลอมออก ด้านในเตานั้นมีโอสถที่มีเปลวเพลิงสีแดงอมส้มขนาดเท่าเม็ดลำไยอยู่ 1 เม็ด
“เมื่อข้ากินโอสถเพลิงหยวนนี้เข้าไปเมื่อไหร่ ร่างกายของข้าควรจะกลายเป็นร่างเพลิงวิญญาณและถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงร่างเพลิงวิญญาณระดับต่ำ แต่เมื่อไหร่ที่ในอนาคตมันยังสามารถพัฒนาต่อไปได้อีก พลังของมันก็จะเพิ่มขึ้นอีกเรื่อย ๆ สิ่งเดียวที่น่าเสียดายก็คือเสื้อผ้าของข้าคงจะต้องไหม้ไปจนหมดแน่ ๆ หลังจากที่ข้ากลืนมันลงไป”
หลิงตู้ฉิงถือโอสถเพลิงหยวนและคิดต่อไป “ดูเหมือนว่าข้าคงต้องปิดผนึกรูขุมขนทั้งหมดของข้า และปล่อยให้โอสถเพลิงหยวนเปลี่ยนร่างกายของข้าให้เสร็จ มันถึงจะไม่มีปัญหา”
เขาใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดบนร่างกายของเขาปิดผนึกรูขุมขนทั้งหมดของเขา จากนั้นก็กลืนโอสถเพลิงหยวนทันที ส่งผลให้เปลวเพลิงจากโอสถเริ่มปะทุอยู่ภายในร่างกายของเขาทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เปลวเพลิงเล็ดรอดออกจากร่างกาย หลิงตู้ฉิงจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเม้มปากของเขาให้แน่นและตั้งใจจดจ่อกับการดูดซับโอสถเพลิงหยวน
ในเวลาเดียวกัน หยุนจื่อรุ่ยก็วิ่งเข้ามาและรายงานว่า “นายท่าน ผู้อาวุโสหนานกงของตำหนักแสงศักดิ์สิทธิ์มาขอพบท่าน เขาบอกว่าเขาต้องการที่จะหารือเกี่ยวกับข้อตกลงกับท่าน”
หลิงตู้ฉิงเม้มปากแน่นและโบกมือให้หยุนจื่อรุ่ย แสดงออกว่าตอนนี้เขาไม่สะดวกและบอกให้หนานกงซ่งหยวนรอสักครึ่งวันเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ด้วยการแสดงท่าทางของเขาที่เอาแต่โบกมือไปโบกมือมาแบบนั้น ใครจะรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร?
“นายท่านจะให้เขากลับไปก่อนอย่างนั้นเหรอ?” หยุนจื่อรุ่ยนึกขึ้นได้ “ถ้าอย่างนั้นข้าจะไปบอกให้เขากลับไปก่อนก็แล้วกัน”
เมื่อเห็นว่าหยุนจื่อรุ่ยกำลังจะจากไป หลิงตู้ฉิงก็รู้สึกกระวนกระวาย เนื่องจากว่าเขาเองก็กำลังต้องการที่จะแลกเปลี่ยนหยกวิญญาณแสงศักดิ์สิทธิ์จากหนานกงซ่งหยวน
ในเมื่อตอนนี้พวกเขามาหาเขาถึงที่แล้ว เขาจะปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไปได้ยังไง?
หลิงตู้ฉิงเปิดปากอย่างไม่มีทางเลือกและพูดว่า “ให้เขารอก่อน!”
แต่ทันทีที่เขาเปิดปาก เปลวเพลิงก็พุ่งออกมาจากปากของเขาจนเสียงดังสนั่น
โชคดีที่หยุนจื่อรุ่ยไม่ได้ยืนอยู่ตรงหน้าเขา มิฉะนั้นร่างของนางคงจะถูกไฟคลอกจนตายแน่นอน
หยุนจื่อรุ่ยตกใจและถามอย่างเร่งรีบ “นายท่าน! ท่านเป็นอะไรกัน!? พี่เสี่ยว! นายท่านถูกไฟคลอก!”
เมื่อนางเห็นเปลวเพลิงที่รุนแรงพุ่งออกมาจากปากของหลิงตู้ฉิง นางจึงเรียกหาเสี่ยวเยว่เฟิงด้วยอาการตื่นตระหนกทันที
เสี่ยวเยว่เฟิงเมื่อได้ยินเสียงร้องโวยวายนางจึงรีบกระโจนมาที่สวนด้านหลังทันที แต่เมื่อนางเห็นสภาพของหลิงตู้ฉิงตอนนี้ เสี่ยวเยว่เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
“ข้าไม่เป็นอะไร!” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ “ให้หนานกงซ่งหยวนรอข้าไปก่อน บอกกับเขาว่าข้าจะพบกับเขาแต่หลังจากที่เสร็จธุระ!”
หยุนจื่อรุ่ยมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสายตาแปลกประหลาด การมีเปลวเพลิงพุ่งออกมาจากปากและดวงตา มันเป็นอาการของคนที่ไม่เป็นอะไรตรงไหนกัน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)