ขณะนี้เบื้องหน้าของพวกเขาคือกองทัพของอาณาจักรมังกรทะยานนับล้าน ซึ่งกำลังปิดกั้นเส้นทางไปสู่ทางเข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ
อันที่จริงทหารเหล่านี้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครมีกุญแจเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ แต่ตราบใดที่พวกเขาปิดกั้นเส้นทางและตรวจสอบทุกคน พวกเขาก็อาจจะโชคดีเจอผู้ที่ครอบครองกุญแจอยู่บ้างก็เป็นได้
ทหารนับล้านเหล่านี้ต่างจัดวางทัพของตัวเองตามตำแหน่งค่ายกล ซึ่งส่งผลให้เจตจำนงแห่งการสังหารได้ถูกปลดปล่อยขึ้นอย่างหนาแน่น หยุดทุกคนที่กำลังมุ่งหน้าไปสู่ทางเข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับในทันที
จากความแข็งแกร่งของเจตจำนงการสังหารนี้ ใครกันที่จะกล้าบุกทะลวงฝ่าเข้าไป?
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเมื่อเห็นเช่นนี้ พวกเขารู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นว่าโอกาสอยู่ตรงหน้าพวกเขา แต่กลับถูกปิดกั้น แล้วพวกเขาควรทำอย่างไร?
ไม่ต้องพูดถึงว่าต่อให้พวกเขาจะบุกฝ่าค่ายกลของทหารนับล้านที่อยู่เบื้องล่างได้ แต่พวกเขาก็ยังต้องรับมือกับเหล่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์เป็นจำนวนมากที่อยู่ในอากาศอีก
เมื่อเป็นเช่นนี้พวกเขาจะฝ่าเข้าไปได้อย่างไร?
บางคนมองไปที่สถานการณ์ตรงหน้าและเมื่อรู้ตัวว่าพวกเขาไม่สามารถผ่านไปได้แน่นอน ใครบางคนจึงพูดขึ้นว่า “พวกเราไม่ต้องกลัว ถึงเราจะผ่านไปทางนี้ไม่ได้ ถ้าพวกเราอ้อมไปหน่อยเราน่าจะใช้อีกเส้นทางที่เป็นจุดตัดกันของอาณาจักรมังกรทะยาน และอาณาจักรอี้จิ๋นได้เช่นกัน หรือต่อให้เราผ่านไปทางจุดนั้นไม่ได้ เราก็ลัดเลาะไปทางอาณาจักรอ้าวเทียนฝั่งด้านข้างของอาณาจักรอี้จิ๋นแทนก็ได้ เรายังมีเวลาอีกพอสมควรก่อนที่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับจะเปิดขึ้น ข้าไม่เชื่อว่าเราจะไม่สามารถไปถึงที่หมายของพวกเราได้!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลายคนจึงหันกลับและจากไป แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือทางฝั่งของอาณาจักรอี้จิ๋นละอีกด้านหนึ่งของอาณาจักรอ้าวเทียนก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เส้นทางทั้งหมดถูกปิดกั้นไว้โดยกองกำลังทางทหารของแต่ละฝ่ายเรียบร้อยแล้ว
แต่แน่นอนว่ามันก็ยังมีช่องว่างระหว่างกองทัพของทั้งสามอาณาจักรเพราะไม่มีใครจากทั้งสามอาณาจักรกล้าที่จะเข้าใกล้กันมากเกินไป เพราะไม่อย่างนั้นก่อนที่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับจะเปิดขึ้น สงครามระหว่างทั้งสามอาณาจักรอาจจะปะทุขึ้นเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม ช่องว่างระหว่างทั้งสามอาณาจักรนั้นก็เต็มไปด้วยเจตจำนงแห่งการสังหาร แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ก็ยังไม่กล้าที่จะก้าวผ่าน ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญระดับต่ำ ๆ จะเข้าไปได้อย่างไร?
กลุ่มของหลิงตู้ฉิงก็หยุดนิ่งเช่นกัน ผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญ 3 คนเป็นผู้นำตาม ด้วยผู้เชี่ยวชาญจากระดับหลุดพ้นสามัญและระดับสวรรค์สามัญอีกกว่า 1 โหล จ้องไปที่หลิงตู้ฉิงและคนอื่น ๆ อย่างเย็นชาและพูดว่า “มอบกุญแจ เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับมา!”
ปิงยู่หลาง สีเป่ยเซียะและคนอื่น ๆ มองไปที่หลิงตู้ฉิง
สีเป่ยเซียะพูดว่า “มีหนองน้ำที่มีรัศมี 200-300 กิโลเมตรอยู่ข้างหน้าเรา ซึ่งมันคือพรมแดนของอาณาจักรอี้จิ๋นและอาณาจักรมังกรทะยาน ข้าคิดว่าเราควรผ่านไปทางฝั่งของอาณาจักรอี้จิ๋นของข้าดีไหม?”
หลิงตู้ฉิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ข้ามีหน้าที่แค่ให้สิทธิ์ในการเข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับแก่พวกเจ้า แต่ข้าจะไม่รับผิดชอบในการปกป้องการเข้าไปของพวกเจ้า ข้าไม่สนใจว่าพวกเจ้าจะผ่านไปโดยใช้เส้นทางไหน แต่ถ้าข้ารอที่ทางเข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับช่วงเวลาหนึ่งแล้วพวกเจ้ายังไม่มา ก็อย่าโทษข้าที่ไม่รอพวกเจ้า ยิ่งไปกว่านั้นเวลาที่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับเปิดนั้นมีจำกัด ซึ่งมันมีเวลาทั้งหมดเพียง 3,000 วันเท่านั้น การไปถึงเร็วขึ้น 1 วัน มันก็หมายความว่าพวกเจาจะมีเวลาอยู่ในนั้นเพิ่มมากขึ้นอีก 1 วัน นอกจากนี้พวกเจ้าต่างก็มาจากขุมกำลังใหญ่กันทั้งนั้น นี่พวกเจ้าคิดว่าพวกเจ้าต้องเป็นฝ่ายหลีกทางให้กับอาณาจักรเล็ก ๆ นี้จริงเหรอ?”
เมื่อได้ยินหลิงตู้ฉิงพูดเช่นนี้ เย่ชิงเฉิงจึงสั่งขึ้นทันที “โม่เอ๋อ ป้าหลันเปิดเส้นทาง ข้าก็ต้องการจะเห็นเหมือนกันว่าใครมันกล้าบังอาจขวางเส้นทางของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ของเรา”
“ใช่ ข้าอยากจะเห็นเหมือนกันว่าใครจะกล้าขวางเส้นทางของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ของเรา!” หานซ่งหยวนและหยูจิ้งเฉิงตะโกนขึ้น “ลุงกู่ พวกเราขอรบกวนด้วย!”
เย่หยูหลันและกู่ตงฉิงมองหน้ากัน จากนั้นก็พูดกับคนตรงหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “หลีกทางไป สำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ของเราจะผ่านทาง!”
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเกียรติยศของสำนัก แม้ว่าพวกเขาจะไม่ต้องการลงมือ แต่พวกเขาก็ยังคงต้องทำ นอกจากนี้มันก็เป็นอย่างที่หลิงตู้ฉิงพูดว่า ถ้าพวกเขาสามารถไปถึงได้เร็วขึ้นพวกเขาก็ยิ่งมีเวลามากขึ้นเมื่อเข้าไปด้านในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ
เมื่อเห็นการแสดงออกของผู้คนจากสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ สีเป่ยเซียะก็ตะโกนขึ้นเช่นกัน “พวกข้าคือคนของสำนักเบญจธาตุ พวกเจ้าแน่ใจแล้วใช่ไหมว่าต้องการที่จะขวางทาง?”
ผู้ติดตามของปิงยู่หลางพูด “พวกข้าคือตำหนักเทพเหมันต์!”
“พวกเราคือคนของภูเขาฟีนิกซ์!” ผู้ติดตามที่อยู่ด้านข้างหนิงฮ่าวก็ตะโกนขึ้นเช่นกัน แม้ว่าพวกเขาจะกลายเป็นคนทรยศของภูเขาฟีนิกซ์ แต่อันที่จริงแล้วพวกเขาไม่เคยคิดกับตัวเองเช่นนั้น
เมื่อเห็นว่าผู้คนจากขุมกำลังมหาอำนาจต่าง ๆ ประกาศตัวตนขึ้น เหล่าผู้ที่ขัดขวางพวกเขาก็ตกตะลึง
ตั้งแต่เมื่อใดที่คนเหล่านี้มาร่วมมือกันเพื่อเข้าสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ?
แถมผู้คนที่มาจากขุมกำลังมหาอำนาจต่าง ๆ เหล่านี้ต่างก็มีระดับการบ่มเพาะที่สูงส่งจนน่ากลัว หากจะให้พวกเขาต้องรับมือด้วยแล้วเห็นทีว่าศึกรอบนี้มันจะต้องสาหัสเป็นอย่างยิ่งแน่นอน!
ในเวลาเดียวกับที่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญของอาณาจักรมังกรทะยานไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อ ชายที่สวมชุดคลุมมังกรก็รีบบินขึ้นมาพร้อมกับผู้เชี่ยวชาญอีกหลายคน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาคงได้ยินที่ผู้คนของทางฝั่งหลิงตู้ฉิงประกาศที่มาของตัวเองแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)