บนเวทีการต่อสู้หน้าบ่อน้ำต้นกำเนิดชีวิต ในขณะนี้มีคนอยู่ราว 300 กว่าคน
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของตงฟางจุน ทุกคนก็ตื่นตัวอย่างเต็มที่
“ชิ้งงงงงงง…..”
ทุกคนต่างได้ยินเสียงเดียวกัน ซึ่งมันเป็นเสียงชักกระบี่ที่ก้องกังวาลเหนือเสียงการชักกระบี่ปกตินับร้อยเท่า และจากนั้นปราณกระบี่สีขาวราวกับหิมะก็ส่องสว่างแยงเข้าไปที่ดวงตาของทุกคน
ปราณกระบี่นี้ถูกปล่อยออกมาเป็นรูปวงแหวนขยายออกจากร่างซึ่งมีตงฟางจุนเหมือนกับเป็นจุดศูนย์กลาง ซึ่งปราณกระบี่นี้กวาดผ่านทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวของเขาในระยะ 100 เมตรในชั่วพริบตา
หลังจากนั้นทุกคนก็ดูเหมือนจะถูกแช่แข็งจากการกระบวนท่าของตงฟางจุน พวกเขาทุกคนต่างมองไปที่เวทีด้วยความประหลาดใจ
ไม่มีใครขยับหลบหรือปัดป้องได้ทันเพราะลำแสงกระบี่เร็วเกินไป
แต่ผลล่ะ?
ขณะนี้มันเหมือนกับว่าไม่มีใครมีอาการบาดเจ็บหรืออาการผิดปกติอะไรเลยแม้แต่น้อย
ตงฟางจุนที่เห็นเช่นนี้ก็รู้สึกงุนงง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับวิชากระบี่อันไร้เทียมทานในตำนานที่เขาเคยได้ยินมากัน? เหตุใดจึงไม่มีผลอะไรเลย?
อย่างไรก็ตาม หลังจากเวลาผ่านไปไม่เกินสามลมหายใจ ผู้คนที่ยืนอยู่ในระยะปราณกระบี่ที่มาจากสำนักต่าง ๆ ก็เริ่มหยิบโอสถช่วยชีวิตของตัวเองขึ้นมาโยนเข้าปากด้วยใบหน้าซีดเซียว จากนั้นพวกเขาทุกคนก็เริ่มมีเลือดไหลซึมออกมาจากบริเวณเอวของพวกเขาทีละน้อย จากนั้นทุกคนที่อยู่นอกระยะปราณกระบี่ก็เริ่มเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
‘ผลัวะ!’ เสียงวัตถุบางอย่างตกลงกระทบพื้น และวัตถุนั้นก็คือศีรษะของคนแคระที่ล้มลงกับพื้นเสียชีวิตทันที
หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียง “ผลัวะ ผลัวะ” อีกหลายเสียงเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีสมบัติวิญญาณของอีกหลายคนที่แตกสลายและร่วงลงสู่พื้น
ในที่สุดสิ่งนี้ก็ยืนยันการคาดเดาของทุกคน
ภายใต้อำนาจของเผยคมสะบั้น มนุษย์ที่มีความสูงปกติทุกคนที่อยู่ในระยะ 100 เมตรของตงฟางจุนจะถูกฟันขาดออกเป็นสองท่อนที่เอวของพวกเขา โชคดีที่คนเหล่านี้ที่สามารถเข้าสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ พวกเขาทั้งหมดต่างมาจากตระกูลที่มีภูมิหลังที่เพียบพร้อมพวกเขาแต่ละคนจึงมีโอสถช่วยชีวิตที่แสนวิเศษพกไว้อยู่กับตัว ซึ่งภายใต้ผลของโอสถครอบจักรวาลที่รักษาได้ บาดแผลที่เอวจึงไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรจนถึงตาย
ยกเว้นไม่กี่คนที่ถูกตัดหัวและหัวใจ เนื่องจากส่วนสูงของพวกเขาตามพันธุกรรมของเผ่าพันธ์พวกเขาเอง
แน่นอนว่าทุกคนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโชคดีที่ตงฟางจุนไม่ได้เล็งกระบี่ของเขาไปที่หัว ไม่เช่นนั้นตอนนี้มันคงจะมีศพนอนเกลื่อนไปทั่วอยู่ทุกหนทุกแห่ง
เมื่อมองไปที่ฉากนี้ทุกคนก็ตกตะลึง นี่คือวิชากระบี่ที่เขย่าโลกเมื่อหลายหมื่นปีก่อนงั้นหรือ?
ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น ๆ แม้แต่ตงฟางจุนเองก็ตกตะลึง เขาไม่คาดคิดว่านี่จะเป็นผลมาจากการออกกระบี่เพียงครั้งเดียวของเขา… มันช่างเป็นวิชากระบี่ที่ไร้เทียมทานอย่างแท้จริง! เขายืนถือกระบี่ของเขาเอาไว้แน่นและคิดกับตัวเองอย่างเงียบ ๆ แม้ว่ามันจะแข็งแกร่งและไร้ที่ติ แต่การใช้มันออกเพียงครั้งเดียวมันก็ทำให้ปราณกระบี่ในร่างกายของเขาถูกใช้ออกจนหมดอย่างสมบูรณ์ ซึ่งถึงแม้ว่าเขามีร่างกระบี่ แต่เขาก็ยังคงต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งในการฟื้นปราณกระบี่ในร่างเพื่อให้ใช้มันได้อีกรอบ
“รู้หรือยังว่าตอนนี้ข้ามีพลังมากแค่ไหน?” ตงฟางจุนพูดขึ้น “เอาล่ะตอนนี้คงไม่มีใครขัดข้องแล้วใช่ไหม หากพวกข้าจะเป็นคนใช้บ่อน้ำต้นกำเนิดชีวิตก่อน?”
คนส่วนใหญ่เงียบ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่แสดงสีหน้าไม่เต็มใจ โอกาสล้ำค่าเช่นนี้พวกเขาจะต้องปล่อยให้คนอื่นตัดหน้ามันไปง่าย ๆ แบบนี้จริง ๆ หรือ?
“เท่าที่ข้ารู้ จุดอ่อนของเผยคมสะบั้นนั้นก็คือมันใช้ปราณกระบี่ในร่างของผู้ใช้อย่างมหาศาล ซึ่งคนส่วนใหญ่จะใช้มันได้เพียงแค่ครั้งเดียวและจากนั้นก็ต้องรอเวลาอีกสักพักถึงจะใช้มันได้ใหม่ ข้าสงสัยว่าตอนนี้เจ้าแข็งแกร่งพอที่จะใช้มันได้อย่างต่อเนื่องแล้วจริง ๆ งั้นเหรอ?” มีใครบางคนถามขึ้น
ตงฟางจุนหัวเราะ “เจ้าลืมไปแล้วรึไงว่าข้าสำเร็จร่างกระบี่ขั้นปลาย แต่ถ้าพวกเจ้าอยากจะลองดูอีกรอบก็ได้ ซึ่งคราวนี้ข้าจะไม่เล็งไปที่เอวของพวกเจ้าแล้วนะ เพราะข้าถือว่าพวกเจ้าทุกคนรนหาที่ตายเอง!” ตงฟางจุนพยายามใช้น้ำเสียงที่แข็งกร้าวกลบเกลื่อนอาการอ่อนแอเอาไว้ เขาต้องการใช้ความเป็นปริศนาของ ‘เผยคมสะบั้น’ ในการข่มผู้คนเหล่านี้เอาไว้
หรือต่อให้เขาจะไม่สามารถขู่คนพวกนี้ได้สำเร็จ แต่เขาก็ยังมีหลิงตู้ฉิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา!
ว่าแต่เผยคมสะบั้นที่หลิงตู้ฉิงใช้มันน่าจะแข็งแกร่งกว่าของเขาใช่ไหม? แล้วทำไมหลิงตู้ฉิงถึงไม่แก้ปัญหาพวกนี้ด้วยตัวเองล่ะ?
ตงฟางจุนรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับคำถามนี้
บางคนขยาดจนไม่กล้าขยับ
เนื่องจากพวกเขากลัวว่ารอบนี้ ตงฟางจุนจะไม่เล็งที่เอวแต่ลงไปที่ตำแหน่งที่อยู่สูงกว่า!
และที่สำคัญกระบี่นั้นมันรวดเร็วเกินไป หากมีอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ พวกเขาจะไม่มีทางทำลายอักขระในห้วงจิตสำนักได้ทันแน่นอน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)