หลังจากผ่านไปกว่า 50 ปีที่จ้าวเหมิงลู่บ่มเพาะปราณกระบี่ในร่างของนางและนางก็ส่งมันไปหล่อเลี้ยงกระบี่ชิวฮง จนทำให้กระบี่ชิวฮงในตอนนี้ขาดแค่เพียงพลังแห่งกฎสวรรค์อีกเพียงแค่เล็กน้อย มันก็จะกลายเป็นอาวุธวิเศษระดับสวรรค์
ส่วนการโจมตีของจ้าวเหมิงลู่เมื่อครู่นั้นก็คือปราณกระบี่ทั้งหมดที่นางใช้เวลา 50 ปีสั่งสมเข้าไปในกระบี่ชิวฮงของนางเพื่อโจมตีด้วยกระบี่นั้น
ซึ่งถ้านางยังไม่สามารถทำลายทักษะอาณาเขตสวรรค์ของฝั่งตรงข้ามได้ มันก็คงเป็นเรื่องที่น่าตลกเกินไป เพราะว่าวิชาที่นางใช้คือหนึ่งในวิชาของชุดวิชาดาราโลหิตประสานกระบี่ ซึ่งมันก็คือเป็นวิชากระบี่อันดับหนึ่งของโลก
และสิ่งที่สำคัญที่สุดอีกอย่างหนึ่งก็คือ เมื่อนางฟันกระบี่ออกไป จ้าวเหมิงลู่ก็รู้สึกได้ทันทีว่าระดับต่อไปของขอบเขตประสานทะเลปราณที่นางไม่เคยรู้สึกได้มาก่อนนั้นจู่ ๆ นางก็สัมผัสมันได้อย่างชัดเจน และวินาทีถัดมาระดับการบ่มเพาะของนางก็บรรลุขึ้นไปที่ขอบเขตประสานทะเลระดับ 13 ทันที
เมื่อเป็นเช่นนี้ ในที่สุดนางก็เข้าใจแล้วว่าทำไมหลิงตู้ฉิงจึงต้องการให้นางสั่งสมพลังเอาไว้อย่างต่อเนื่อง ที่แท้เขาก็ต้องการให้นางฝ่าไปถึงขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 13 ได้นั่นเอง
และตอนนี้นางก็ทำสำเร็จแล้ว
อย่างไรก็ตามผลข้างเคียงของการใช้เผยคมสะบั้นก็ปรากฏขึ้นเช่นกัน เนื่องจากหลังจากใช้มันเพียงครั้งเดียว นางก็สภาพที่จะสามารถสู้ต่อได้อีก
ส่วนทางด้านของหลิงฟ่างหัวที่แต่เดิมเมื่อครู่ต้องการที่จะดุพี่สองของนาง แต่เมื่อนางตระหนักได้ว่าสภาพของจ้าวเหมิงลู่ในตอนนี้อ่อนแอราวกับคนหมดแรง นางก็รีบพยุงจ้าวเหมิงลู่ทันที
เมื่อหลิงว่านถิงเห็นภาพนี้ นางก็ช่วยรีบพยุงจ้าวเหมิงลู่ไว้ด้วยเช่นกันและถามว่า “ท่านแม่ ท่านเป็นอะไรไหม?”
“ข้าไม่เป็นอะไร!” จ้าวเหมิงลู่ยิ้มอย่างอ่อนแรง “เฟ่ยเอ๋อ ข้าปล่อยที่เหลือให้เจ้าจัดการนะ”
เหลียงเฟ่ยเอ๋อพยักหน้าพูดอย่างมั่นใจว่า “แม้ว่าข้าจะโจมตีพวกมันไม่ได้ แต่พวกมันก็ทำอะไรข้าไม่ได้!”
หลังจากพูดจบ นางก็หยิบเอาเหรียญตราผนึกสวรรค์ขึ้นมาในมือของนาง และเปิดใช้งานมันทันทีพร้อมกับพูดกับหลิงฉุยฟง “ลุงสาม จับพวกมัน!”
เมื่อเหลียงเฟ่ยเอ๋อเปิดใช้งานเหรียญตราผนึกสวรรค์ ระดับการบ่มเพาะของทุกคนในรัศมี 100 เมตรก็ถูกผนึกจนเหลืออยู่แค่ขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 12 ทันที ซึ่งผลของมันนั้นยังกระทบไปถึงโจวจื่อซิน หลิงฉุยฟงและทหารของเขาก็ถูกผนึกไปด้วย
หลิงฉุยฟงและทหารของเขาที่เคยฝึกซ้อมการต่อสู้แบบนี้กับเหลียงเฟ่ยเอ๋อมาก่อนหน้านี้แล้วพวกเขาจึงรู้สึกชินชากับความรู้สึกถูกผนึกแบบนี้ไปแล้ว พวกเขาจึงไม่ได้สนใจอะไรกับการผนึกระดับการบ่มเพาะนี้เลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกันพวกเขารีบพุ่งตัวเข้าไปปะทะกับบรรดาผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญอย่างดุดันแทน
ส่วนทางด้านของหยูเฉิงฮุยและบรรดาผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญ ที่รู้สึกได้ว่าระดับการบ่มเพาะของพวกเขานั้นถูกผนึก พวกเขาก็เริ่มที่จะกังวลกันอย่างหนัก ซึ่งพวกเขาทุกคนต่างก็ลองที่จะใช้ทักษะอาณาเขตสวรรค์ของตัวเอง แต่ก็พบว่ามันใช้ไม่ได้เช่นกัน
“ฝ่าบาท สิ่งของในมือผู้หญิงคนนั้นมันจะต้องเป็นสมบัติวิเศษที่ผนึกระดับการบ่มเพาะของพวกเราได้แน่นอน!” ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญคนหนึ่งตะโกน
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของหยูเฉิงฮุยสว่างขึ้นทันที สมบัติที่สามารถผนึกระดับการบ่มเพาะ ผู้หญิงที่สามารถทำลายอาณาเขตสวรรค์ได้ ร่างกายแก่นแท้ปฐพีและดอกไม้ฟื้นชีพ… สิ่งเหล่านี้เมื่อมาอยู่รวมกันในที่เดียวแบบนี้ มันเริ่มทำให้เขารู้สึกว่าที่นี่มันแปลกประหลาดเกินไป
ทันใดนั้นในขณะที่หยูเฉิงฮุยกำลังครุ่นคิด เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นมาจากหนึ่งในกลุ่มของผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญ ซึ่งในตอนนี้เขากำลังถูกฉีกร่างโดยหลิงฉุยฟงและทหารของเขา ส่งผลให้ผู้เชี่ยวชาญผู้นั้นตายคาที่
ถึงแม้ว่าภายในทะเลชางหมาง หลิงฉุยฟงและทหารของเขาจะสำแดงอำนาจของพวกเขาเองได้ที่ระดับสวรรค์สามัญเท่านั้น
แต่ด้วยการสนับสนุนของค่ายกลรบของพวกเขานั้น ในเวลาที่พวกเขารวมร่างกันพวกเขาจะมีอำนาจเท่ากับผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญ 5 คนภายในร่างเดียว ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยในการสังหารผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญสักคนในเวลาสั้น ๆ
เมื่อเสร็จจากเป้าหมายแรก หลิงฉุยฟงและทหารของเขาก็พุ่งเข้าหาผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญคนที่สองทันที ซึ่งหลังจากนั้นเมื่อเวลาผ่านไปได้เพียงช่วงสั้น ๆ หลิงฉุยฟงและทหารของเขาที่รวมร่างกันเป็นสัตว์ประหลาดก็ได้ไล่ฆ่าผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญไปแล้วถึง 3 คน
เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญที่เหลือก็หน้าซีดด้วยความกลัวและพูดกับหยูเฉิงฮุย “ฝ่าบาท ดูเหมือนว่าเราคงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องถอยแล้ว!”
เมื่อเห็นว่าพวกเขาคงไม่สามารถเอาชนะหลิงฉุยฟงได้ พวกเขาจึงต้องการที่ถอยทันที เพราะพวกเขารู้ดีว่าถ้าไม่ถอยตอนนี้ พวกเขาจะไม่มีวันรอดไปจากที่นี่แน่นอน
หยูเฉิงฮุยมองไปยังผู้คนของตระกูลหลิงด้วยสายตาครุ่นคิด จากนั้นเขาจึงพูดกับคนของเขาอย่างไม่เต็มใจ “ถอนตัว!”
“ถอนตัวงั้นเหรอ? เจ้าคิดว่าอาณาจักรจันทราของข้าเป็นที่ที่เจ้าสามารถไปมาได้ตามที่เจ้าต้องการงั้นเหรอไง?” เสียงอันเย็นชาของหลิงยี่เทียนดังขึ้น “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงที่นี่แล้ว พวกเจ้าทุกคนก็ควรอยู่ต่อให้ข้าได้ต้อนรับพวกเจ้าให้สาสมสักหน่อยก่อนจะดีกว่า!”
เมื่อสิ้นเสียง ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญ 18 คนก็ปรากฏตัวขึ้นจากทุกทิศทุกทาง ปิดทางหนีกลุ่มของหยูเฉิงฮุยไว้ทั้งหมด
หลิงยี่เทียนพูดว่า “หยูเฉิงฮุย อันที่จริงข้ารู้ตัวตนที่แท้จริงของเจ้ามานานแล้ว แต่เหตุผลที่ข้าไม่ได้วุ่นวายกับเจ้า นั่นก็เพราะว่าข้าต้องการจะดูว่าเจ้าจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับพี่สองของข้า แต่แล้วไม่เพียงแต่เจ้าจะทำร้ายจิตใจพี่สองของข้า เจ้ายังกล้ามารังควานคนอื่น ๆ ในครอบครัวของข้าอีก! ดังนั้นเจ้าต้องอยู่ที่นี่ต่อรอให้พ่อของข้ากลับมาตัดสินชะตาของเจ้าว่าเจ้าจะอยู่หรือจะตาย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)