หลังจากการมาถึงอย่างกะทันหันของหลิงตู้ฉิง ส่งผลให้สถานการณ์การรบที่เกิดขึ้นก็เริ่มแปรเปลี่ยน จากในตอนแรกที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด ในตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญของทางฝั่งอาณาจักรหลงซานก็ค่อย ๆ แตกกระเจิงและหนีไปทีละคน ๆ
ซึ่งมันทำให้ขวัญกำลังใจของบรรดาทหารของอาณาจักรหลงซานเริ่มตกต่ำและยิ่งเมื่อพวกเขาเห็นว่าแม่ทัพของทางฝั่งพวกเขาหลายสิบคนกลับไปเข้าร่วมกับฝั่งตรงข้าม นี่มันยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกสิ้นหวังมากเข้าไปใหญ่
และที่สำคัญไม่เพียงแต่เหล่าแม่ทัพของพวกเขาจะไปเข้าร่วมกับฝั่งตรงข้าม ผู้บัญชาการของพวกเขายังถึงขนาดไปลากรถม้าให้อีกต่างหาก ซึ่งนี่มันเป็นภาพที่น่าอับอายเกินทน
ส่วนทางด้านของผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรจันทรา พวกเขาเองก็มองไปยังหลงเฉิน และผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญอีก 30 คนที่เพิ่งแปรพักตร์ด้วยสายตางุนงง พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมคนกลุ่มนี้ที่ควรจะสู้เพื่ออาณาจักรหลงซานถึงได้เปลี่ยนฝั่งแบบนี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับบรรดาผู้ที่เคยลงชื่อสัญญาของหลิงตู้ฉิงกลับเข้าใจชัดเจนมากว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ถ้าพวกเขาเดาถูก คนกลุ่มนี้อาจจะได้พบกับกลุ่มของหลิงตู้ฉิงครึ่งทางและถูกจับตัวไป จากนั้นก็ลงนามในสัญญาสวรรค์และโลกเช่นเดียวกับพวกเขา
“เกิดอะไรขึ้นกับผู้บัญชาการหลง?” ผู้เชี่ยวชาญบางคนหันหน้าถามไปยังเหยียนฮ่าวหัว ตู้ฉิวและคนอื่น ๆ
เมื่อได้ยินคำถามเช่นนี้ เหยียนฮ่าวหัว ตู้ฉิว และคนอื่น ๆ ก็ไม่รู้จะตอบอะไรกลับเช่นกัน เนื่องจากพวกเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลงเฉิน และบรรดาเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่ดูเหมือนจะแปรพักตร์ไปแล้ว
ในขณะที่ทุกคนยังคงลังเลและสับสน สถานการณ์ในสนามรบก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ขณะนี้มันกลับกลายเป็นว่าทางด้านของอาณาจักรจันทราไล่สังหารหมู่ฝ่ายอาณาจักรหลงซานแต่เพียงฝั่งเดียว
เหยียนฮ่าวหัวหรี่ตามองไปที่หลิงตู้ฉิงและคนอื่น ๆ จากนั้นมองไปที่สนามรบและสั่งกับผู้ใต้บังคับบัญชาที่อยู่ด้านข้างว่า “ส่งผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญอีก 100 คนไปช่วยในสนามรบ”
เหยียนฮ่าวหัวมั่นใจว่าผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญ 100 คนที่ส่งไปเพิ่มเหล่านี้จะต้องสามารถพลิกสถานการณ์ในสนามรบได้อย่างแน่นอน ส่วนผู้เชี่ยวชาญที่เหลือเขายังคงรอก่อนเพื่อจับตาดูท่าทีหลิงตู้ฉิง และคนอื่น ๆ ที่เหลือเอาไว้
แต่ยังไงซะ ทันทีที่พวกของเหยียฮ่าวหัวเคลื่อนไหว หลิงตู้ฉิงก็ได้ออกคำสั่งกับหลิงฉุยฟงทันที “ลุงสาม ข้าอนุญาตให้ท่านโจมตีได้อย่างอิสระ! ยี่เทียนบอกคนของเจ้าทั้งหมดให้ลงมือด้วยเช่นกัน”
เมื่อได้ยินหลิงตู้ฉิงออกคำสั่ง เหลียงเฟ่ยเอ๋อเองก็รีบพูดว่า “สามี ให้หยุนเอ๋อร์กับข้าเข้าร่วมรบด้วยเถอะ”
นางแน่ใจว่าหากนางใช้เหรียญตราผนึกสวรรค์ร่วมมือกับหลิงเทียนหยุน ศึกครั้งนี้จะต้องจบลงอย่างรวดเร็วแน่นอน
แต่น่าเสียดาย หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดว่า “แม้ว่าเหรียญตราผนึกสวรรค์จะมีประโยชน์ก็จริง แต่ระยะการใช้งานของมันก็มีจำกัดและเมื่อไหร่ที่พวกเขาเห็นจุดอ่อนของมัน เจ้าจะถูกรุมทึ้งโดยผู้เชี่ยวชาญฝั่งตรงข้ามเป็นเป้าหมายแรกทันที”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เหลียงเฟ่ยเอ๋อก็เงียบลง
แม้ว่าเหรียญตราผนึกสวรรค์จะทรงพลัง แต่ระยะของอำนาจผนึกมันก็เล็กเกินไปสำหรับสงครามขนาดใหญ่แบบนี้ ความสามารถในการผนึกของมันมีรัศมีแค่ 100 เมตรรอบตัวนาง หากผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ที่อยู่รอบ ๆ นับร้อยคนมองเห็นจุดอ่อนนี้เมื่อไหร่ พวกเขาจะรักษาระยะห่างจากตัวนางทันทีและจะใช้ยุทธวิธีรุมระดมโจมตีจากระยะไกลใส่นาง ซึ่งแน่นอนว่าเหลียงเฟ่ยเอ๋อ หรือ หลิงเทียนหยุนคงได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน
ในเวลานี้ เหยียนฮ่าวหัวมองไปที่สถานการณ์สนามรบด้านล่างที่กำลังดุเดือดขึ้น เนื่องจากการที่เขาส่งผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์เข้าไปเสริม เขาหรี่ตาและตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ส่งคนอีก 50 คน ลงไปช่วยในสนามรบ!”
หลังจากส่งเข้าอีก 50 คน เขายังเหลือผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญอีก 100 คนที่อยู่ข้างกาย ซึ่งคอยทำหน้าที่จับตาดูหลิงตู้ฉิงและคนของเขาด้วยสายตาระแวงระวังปนไปด้วยความโลภ
เหยียนฮ่าวหัวและคนของเขาคิดอย่างโหดเหี้ยม กลุ่มคนฝั่งตรงข้ามที่เหลืออยู่เป็นเพียงกลุ่มคนที่มีระดับการบ่มเพาะต่ำกว่าระดับสวรรค์ทั้งนั้น แม้ว่าพวกเขาจะมีสมบัติแห่งทะเลชางหมาง แต่มันก็คงไม่สามารถต้านทานพวกเขานับร้อยได้แน่นอนจริงไหม?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)