ตงฟางไป๋รู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมากที่มือสังหารเหล่านี้ปรากฎตัวขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อพยายามสังหารหลานชายของเขา ดังนั้นเมื่อเขาหมดความอดทน เขาจึงสลับกระบี่ที่ใช้โดยนำกระบี่ซึ่งเป็นอาวุธวิเศษระดับจักรพรรดิขึ้นมาขับไล่มือสังหารสวมหน้ากากคนที่สองทันที
ชายสวมหน้ากากคนที่สองเมื่อเห็นว่าตงฟางไป๋นำอาวุธระดับจักรพรรดิออกมา เขาก็รีบถอยออกไปทันที แต่ก่อนจะจากไปเขาตะโกนอะไรบางอย่างด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น “ฮึ่ม ก็แค่อาวุธระดับจักรพรรดิคราวนี้ถือว่าเจ้าโชคดีที่ข้าไม่ได้นำมันมาด้วย ครั้งต่อไปข้าจะเอามันมา แล้วมาดูกันว่าเจ้าจะปกป้องมันยังไง!”
ตงฟางจุนอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น เขารู้สึกว่าตอนนี้มันมีสัญญาณแห่งความตายปรากฏขึ้นอยู่เหนือหัวของเขาอย่างชัดเจน
สีหน้าของตงฟางไป๋ก็เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดมากขึ้นเช่นกัน เขาพูดกับตงฟางจุน “อาจุน เจ้าต้องเร่งดูดซับเจตจำนงกระบี่ให้เร็วมากกว่านี้!”
ตอนนี้เขายังสามารถป้องกันความพยายามลอบสังหารในระดับนี้ได้ แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฝั่งตรงข้ามมีอาวุธระดับจักรพรรดิหรือมือสังหารเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชัน?
ในอดีตเทพกระบี่ได้สังหารผู้คนไปเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงยากที่จะรับประกันได้ว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น
ตงฟางจุนถอนหายใจและพูดว่า “เฮ้อ…ข้าเข้าใจแล้วท่านปู่ ข้าจะรีบดูดซับพวกมันให้เร็วที่สุด!”
ในตอนนี้ถึงแม้ว่าเขาอยากจะอธิบายอะไรออกมาก็ตาม แต่หลังจากที่เขาถูกผู้เชี่ยวชาญระดับนภาครามสองคนพยายามลอบสังหารเช่นนี้ มันส่งผลทำให้ทุกคนพาลคิดว่าเขาคือเทพกระบี่กลับมาชาติมาเกิดตัวจริงทันทีแล้วยิ่งรวมไปถึงที่เขาสามารถใช้รูปแบบกระบี่พื้นฐานที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากหลิงตู้ฉิงได้อีกต่างหาก มันก็คงไม่มีใครเต็มใจที่จะเชื่อเขาอย่างแน่นอน
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ตงฟางจุนจึงถอนหายใจอย่างหนักหน่วงและเดินต่อไปยังบริเวณที่มีเจตจำนงกระบี่เพื่อเริ่มดูดซับพวกมันให้หมด ส่วนต้นมะเดื่อโลหิตอะไรนั่นเขาไม่สนใจมันแม้แต่น้อย
สำหรับหลิงตู้ฉิง เขามองไปที่ตงฟางจุนพร้อมกับยิ้มในใจ จากนั้นเขาเองก็เดินมุ่งไปยังจุดหมายของเขา ซึ่งมันก็เป็นเส้นทางเดียวกับที่ตงฟางจุนเดินมุ่งหน้าไปเช่นกัน
“สามี เขาไม่น่าจะเป็นเทพกระบี่ใช่ไหม?” เย่ชิงเฉิงถามขึ้น
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดว่า “ข้าเองก็ยังไม่แน่ใจ เราคงต้องรอดูว่าเขาสามารถดูดซับการโจมตีสุดท้ายนั่นได้สำเร็จรึเปล่า หากเขาสามารถทำได้สำเร็จ มันก็น่าจะมีโอกาสมากกว่า 9 ส่วนที่เขาน่าจะเป็นเทพกระบี่”
“การโจมตีสุดท้าย?” เย่ชิงเฉิงถามด้วยความงงงวย
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “เจตจำนงกระบี่ ที่อยู่บริเวณด้านนอกเป็นเพียงเจตจำนงกระบี่ที่เกิดจากการออกกระบวนท่าธรรมดาเท่านั้น แต่นับจากจุดนี้ที่เราอยู่ไปถึงจุดสิ้นสุดคือห้องโถงใหญ่ของสำนักวิญญาณโลหิต จะเป็นจุดที่มีแต่เจตจำนงกระบี่ที่เข้มข้นกว่าด้านนอก เนื่องจากมันเป็นเจตจำนงกระบี่ที่เกิดขึ้นจากเพลงกระบี่ที่แท้จริงของเทพกระบี่ ดังนั้นเรามาดูกันว่าเขาสามารถดูดซับการโจมตีของเพลงกระบี่ที่แท้จริงได้หรือไม่ ถ้าเขาทำได้เขาก็คือเทพกระบี่”
เย่ชิงเฉิงเหลือบมองไปที่หลิงตู้ฉิงและพูดด้วยรอยยิ้ม “สามี ท่านสามารถดูดซับเจตจำนงกระบี่เหล่านี้ได้หรือไม่?”
“ข้าตั้งใจว่าจะดูดซับมันเข้าไปในยันต์สั่งสวรรค์สักหนึ่งกระบี่ที่รุนแรงที่สุด” หลิงตู้ฉิงอธิบาย
“ถ้างั้นท่านคือเทพกระบี่งั้นหรือ?” เย่ชิงเฉิงถามอย่างสงสัย
“ไม่หรอก ข้าไม่ใช่” หลิงตู้ฉิงส่ายหัว
เย่ชิงเฉิงมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสายตาสงสัยพลางคิดในใจ หากเขาไม่ใช่เทพกระบี่แล้วเขาจะสามารถดูดเจตจำนงที่เกิดจากเพลงกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดได้ยังไง?
ทางด้านของตงฟางจุนที่อยู่ตรงหน้าของพวกเขา เขากำลังดูดซับเจตจำนงกระบี่ไปทีละอัน ๆ พลางคร่ำครวญอยู่ในใจ
ทุกเจตจำนงที่ตงฟางจุนดูดซับจนมันหายไปเข้าไปในร่าง ทั่วทั้งบริเวณนั้น ๆ ที่เจตจำนงกระบี่เคยผนึกอยู่ก็หลุดจากการถูกผนึกและค่อย ๆ ฟื้นตัว ส่งผลให้ทุกคนได้เห็นภาพของสำนักวิญญาณโลหิตอันรุ่งเรืองเมื่อหลายหมื่นปีก่อน
ภาพเช่นนี้มันทำให้ทุกคนต่างประหลาดใจและสงสัยในเวลาเดียวกัน หากเรื่องนี้ยังคงดำเนินต่อไป นี่มันจะไม่เท่ากับว่าสำนักวิญญาณโลหิตจะฟื้นฟูเป็นเหมือนเก่าก่อนอย่างนั้นเหรอ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)