บทที่ 495 กระบี่แห่งการทำลายล้าง – ตอนที่ต้องอ่านของ พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)
ตอนนี้ของ พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 495 กระบี่แห่งการทำลายล้าง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ภายในค่ายกลกระบี่เหินเมฆา หลังจากที่หนิงฉิงเข้ามาด้านใน นางก็มองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าจริงจังและพูดว่า “ดูท่านคุ้นเคยกับสำนักวิญญาณโลหิตของพวกเราเป็นอย่างดี?”
ถ้าเลือกได้นางเองก็ไม่อยากจะเข้ามาในค่ายกลที่ทรงพลังเช่นนี้ เพราะนี่มันไม่ต่างอะไรกับการยื่นคอตัวเองไปหากระบี่ของผู้อื่น
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะขัดใจแต่นางก็ไม่กล้าปฏิเสธ และอยากรู้ว่าหลิงตู้ฉิงต้องการอะไรจากนางกันแน่
หลิงตู้ฉิงพูดขึ้นว่า “เจ้ากำลังฝึกฝน วิชามหาโลหิตแปรเปลี่ยน และเจ้าก็มีปัญหากับมันด้วยสินะ”
“นี่ท่านรู้ได้ยังไง?” หนิงฉิงพูดอย่างเย็นชา
“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ว่าข้ารู้ได้ยังไง แต่ข้ามีข้อตกลงที่จะเสนอให้กับเจ้า” หลิงตู้ฉิงเพิกเฉยต่อคำถามของหนิงฉิง และพูดต่อ “ข้อตกลงของข้าง่ายมาก ข้าสามารถช่วยเจ้าแก้ปัญหาในการฝึกฝนวิชามหาโลหิตแปรเปลี่ยนได้ แต่เจ้าต้องทำสัญญากับนาง คอยตามรับใช้นางเป็นเวลา 500 ปี”
หนิงฉิงมองตามนิ้วของหลิงตู้ฉิงไปที่หมิงยู่โดยสงสัยว่าทำไมหลิงตู้ฉิงต้องการทำแบบนี้?
การให้นางติดตามรับใช้ใครสักเป็นระยะเวลา 500 ปี ข้อตกลงแบบนี้แน่นอนว่านางย่อมรับได้
แต่คำถามสำคัญคือ หลิงตู้ฉิงต้องทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร? และที่สำคัญทำไมคนผู้นี้ถึงได้รู้จักวิชามหาโลหิตแปรเปลี่ยน?
หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้นอีกรอบ “เจ้าควรตกลงโดยเร็ว มิฉะนั้นอย่าโทษข้าถ้าเกิดอะไรไม่ดีขึ้น เพราะถัดจากนี้ไปพวกเราจะไปที่ห้องโถงใหญ่ ซึ่งเจ้าควรจะรู้ว่าตัวเจ้าเองกำลังเผชิญกับชะตากรรมแบบไหน”
“นี่ท่านเป็นใครกันแน่?” หนิงฉิงถามขึ้น
“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ว่าข้าเป็นใคร ข้าต้องการคำตอบของเจ้าเท่านั้น ข้าจะให้เวลาเจ้าพิจารณา 1 ชั่วโมง ถ้าเจ้าไม่เห็นด้วยก็ออกไป” หลิงตู้ฉิงเตือนนาง
หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับหนิงฉิงอีกต่อไป และโทรจิตคุยกับหมิงยู่แทน “นางเป็นคนของสำนักวิญญาณโลหิตที่แท้จริง อย่างไรก็ตามเนื่องจากนางได้ฝึกฝนวิชามหาโลหิตแปรเปลี่ยนที่ไม่สมบูรณ์ นางจึงมีปัญหากับร่างกายของนาง ทำให้ร่างกายของนางกลับกลายมาอยู่ในร่างของเด็กผู้หญิงและระดับการบ่มเพาะของนางก็ลดลงจนมาเหลือแค่ระดับสวรรค์สามัญเท่านั้น แต่ถึงแม้ว่าระดับการบ่มเพาะของนางจะไม่สูงนักแต่สถานะของนางในสำนักคงจะไม่ธรรมดาสักเท่าไหร่ ถ้านางสัญญาว่าจะฟังคำสั่งของเจ้า เจ้าก็สามารถใช้ประโยชน์จากนางเพื่อเข้าควบคุมสำนักได้”
หมิงยู่ตอบด้วยรอยยิ้ม “ข้าเข้าใจแล้ว นายท่าน!”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “วิธีการแก้ปัญหาวิชามหาโลหิตแปรเปลี่ยนของนางอยู่ในหอคัมภีร์ หลังจากที่เราเข้าไปในห้องโถงใหญ่แล้วเราจะไปที่หอคัมภีร์เป็นที่ต่อไป”
“นายท่าน แต่ข้ากลัวจริง ๆ ว่าเมื่อไหร่ที่ข้าเปิดเผยวิชาโลหิตอมตะของข้า ข้าอาจจะถูกคนของสำนักวิญญาณโลหิตจับไปกินก็ได้!” หมิงยู่ยิ้มอย่างขมขื่น “ศิษย์สำนักวิญญาณโลหิตนั้นมีอยู่มากมาย พวกเขาจะตกลงใจให้คนอื่นมาเป็นเจ้าสำนักได้อย่างไร? หรือไม่คนอื่น ๆ ที่เห็นแก่สมบัติของสำนักวิญญาณโลหิตอาจต้องการกินข้าเองซะด้วยซ้ำ”
หลิงตู้ฉิงยิ้ม “ถ้าข้าส่งเจ้าไปใครจะกล้าทำอะไรเจ้า ไม่ต้องกังวลตราบใดที่เจ้าเป็นคนฝ่ายข้า จะไม่มีใครกล้าทำอะไรเจ้า!”
อันที่จริงแล้ว ในตอนนี้หลิงตู้ฉิงสามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างภายในบริเวณของสำนักวิญญาณโลหิตได้ทั้งหมด ในสถานที่แห่งนี้ต่อให้ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิจะมาด้วยตัวเองมันก็ไร้ประโยชน์
“นับตั้งแต่ตอนที่ข้าถูกมอบให้กับท่าน ข้าก็คือคนฝ่ายท่านไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่อยู่แล้ว” หมิงยู่หัวเราะ
จากข้อเท็จจริงที่ว่าหลิงตู้ฉิงเกี่ยวข้องกับสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์และยังมีตะขอเงินอยู่ในครอบครอง หมิงยู่ก็เชื่อมั่นอย่างสมบูรณ์ว่าหากนางอยู่กับเขามันคงไม่มีใครทำอันตรายนางได้แน่นอน
หลังจากพูดคุยกันสักพัก พวกเขาก็หันกลับไปถามหนิงฉิงว่า “เจ้าคิดตกแล้วรึยัง?”
หนิงฉิงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ถ้าท่านช่วยข้าแก้ปัญหาของข้าได้จริง ข้าก็ยินยอมที่จะทำตามข้อตกลงของท่าน!”
“อืม งั้นเรามาทำสัญญากันก่อน!” หลิงตู้ฉิงพูดทันที
หนิงฉิงมองไปที่หลิงตู้ฉิงก่อนที่จะอ่านเงื่อนไขของสัญญาอย่างละเอียดและสุดท้ายนางก็ลงชื่อ
“เอาล่ะตอนนี้ตามข้ามา!” หลิงตู้ฉิงสั่ง
หนิงฉิงพูดด้วยรอยยิ้มที่บูดเบี้ยว “ข้าคิดว่าท่านก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าข้าไปที่ห้องโถงใหญ่ไม่ได้? ข้าสามารถติดตามท่านไปบริเวณอื่น ๆ ได้แทบทั้งหมดในสำนักวิญญาณโลหิต มันมีสถานที่ไม่กี่แห่งที่ข้าไม่สามารถเข้าใกล้ได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือห้องโถงใหญ่ หากเมื่อไหร่ที่ศิษย์ของสำนักวิญญาณโลหิตปรากฏเข้าไปด้านในนั้น เราจะถูกฆ่าทันที นอกจากนี้ข้าเพิ่งโกหกไปเรื่องมิติลับอีกต่างหาก…”
เขาไม่สนใจสิ่งที่หลิงตู้ฉิงและหนิงฉิงคุยกัน ตราบใดที่มันไม่ส่งผลกระทบต่อโอกาสของตงฟางจุนในการดูดซับเจตจำนงกระบี่ และไม่ส่งผลกระทบต่อสมบัติในมิติลับเขาก็ไม่สนใจ
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ตงฟางจุนจึงเริ่มดูดซับเจตจำนงกระบี่อีกครั้ง ซึ่งในระหว่างกระบวนการดูดซับทั้งสองฝ่ายก็เข้าใกล้ห้องโถงใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ
หลิงตู้ฉิงพูดผ่านโทรจิตไปยังหนิงฉิงว่า “บอกศิษย์คนอื่น ๆ ของสำนักวิญญาณโลหิตของเจ้าให้ออกไป มิฉะนั้นเจตจำนงกระบี่ในที่แห่งนี้จะโจมตีพวกเขา!”
เมื่อได้ยินหลิงตู้ฉิงเอ่ยเช่นนี้ หนิงฉิงตกใจมาก นางรีบส่งโทรจิตของนางไปยังศิษย์สำนักทุกคนที่นางรู้จักรวมไปถึงบรรดาผู้คนที่ได้ฝึกฝนวิชาของสำนักวิญญาณโลหิต ซึ่งน่าจะเป็นศิษย์ของสำนักนางเช่นกันให้ถอยออกไปทันที
ดังนั้นหลังจากที่หนิงฉิงส่งโทรจิตออกไป คนกลุ่มใหญ่ส่วนหนึ่งก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
หลิงตู้ฉิงเหลือบมองไปยังด้านหลังเขาอีกครั้ง ซึ่งเขายังคงรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายังมีคนจำนวนมากที่ฝึกฝนวิชาของสำนักวิญญาณโลหิตยังคงเดินตามมาอยู่
“ยังมีอีกหลายคนที่ฝึกฝนวิชาของสำนักเจ้ายังคงเดินตามมา” หลิงตู้ฉิงเตือนนาง
หนิงฉิงเหลือบมองไปข้างหลัง จากนั้นนางพูดด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน “นายท่านนับตั้งแต่สำนักวิญญาณโลหิตของเราเสื่อมถอยมาหลายหมื่นปี มันก็มีผู้คนมากมายพากันเข้ามาสำรวจ ซึ่งหลายคนก็บังเอิญได้รับวิชาของสำนักวิญญาณโลหิตของเราไปเช่นกัน ดังนั้นคนที่ตามมาพวกนี้อาจไม่ใช่คนของสำนักวิญญาณโลหิตก็ได้ พวกเขาคงเป็นเพียงพวกที่อาศัยวิชาของพวกเราเพื่อเข้าสู่สำนักวิญญาณโลหิตมาตามหาสมบัติต่าง ๆ”
“ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว มันก็คงถึงคราวเคราะห์ของคนพวกนี้แล้วล่ะนะ!” หลิงตู้ฉิงเอ่ยกลับ
ในเวลาเดียวกับที่หลิงตู้ฉิงพูดจบ จู่ ๆ ก็มีสายลมเย็นยะเยือกพัดออกมาจากห้องโถงใหญ่ผ่านใบหน้าของเขาพุ่งตรงไปหากลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังทันที
เมื่อพลังลี้ลับนี้พุ่งกระจายไปทั่วฝูงชน หนึ่งในสามของคนนับร้อยที่ติดตามกลุ่มของหลิงตู้ฉิงมาก็หายไปทันทีราวกับฟองสบู่ที่จู่ ๆ ก็ถูกดีดให้แตกต่อหน้าต่อตาทุกคน
เมื่อเห็นภาพเช่นนี้ หนิงฉิงก็ตกตะลึงใจมากจนล้มลงกับพื้นพร้อมกับใบหน้าของนางที่เปลี่ยนเป็นสีซีด และปากของนางก็สั่นจนพูดอะไรไม่ได้
ตงฟางไป๋มองไปที่ตงฟางจุนด้วยสีหน้าเคร่งเครียดพร้อมกับเอ่ยว่า “นี่มันคือกระบี่ที่ห้า กระบี่แห่งการทำลายล้าง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)