หนิงฉิงเหม่อมองไปที่เหล่าซากปรักหักพังที่กำลังฟื้นตัว โดยไม่รู้จะเอื้อนเอ่ยอะไรออกมาบรรยายความรู้สึกในตอนนี้ได้
หลังจาก ‘กระบี่แห่งการทำลายล้าง’ ถูกดูดซับไป เจตจำนงกระบี่ที่เคยผนึกมหาเต๋าที่เป็นรากฐานของสำนักวิญญาณโลหิตก็ถูกลบล้างไปเช่นกัน ส่งผลให้มหาเต๋าที่เคยค้ำจุนสำนักนั้นเริ่มที่จะสำแดงอำนาจของมันอีกครั้งโดยการฟื้นฟูอาคาร พืชพรรณ สมุนไพรและทุกสิ่งทุกอย่างที่สำนักวิญญาณโลหิตเคยมีให้กลับมาเป็นเหมือนตอนก่อนที่มันจะถูกทำลาย
“ในที่สุดสำนักวิญญาณโลหิตของข้าก็ฟื้นฟูกลับมา!” หนิงฉิงอดไม่ได้ที่จะร้องไห้
นับตั้งแต่ที่สำนักวิญญาณโลหิตของนางถูกทำลาย นางและพวกของนางก็กลายเป็นเหมือนสุนัขจรจัดไร้บ้าน หรือแม้ว่านางและพวกของนางจะมีบ้าน แต่มันก็เป็นบ้านที่พวกนางก็ไม่กล้ากลับไปอยู่
แต่ตอนนี้ในที่สุดนางและพวกของนางก็สามารถกลับมาบ้านของตนเองได้แล้ว!
ในตอนนี้ หลิงตู้ฉิงมองไปที่ฉากที่คุ้นเคยตรงหน้าเขาโดยไม่ได้พูดอะไร
ในอดีตสถานที่แห่งนี้ได้ถูกสั่งสอนโดยน้ำมือของเขาและผู้ติดตามของเขา ดังนั้นเขาจึงคุ้นเคยกับสภาพตอนก่อนหน้าที่มันจะถูกถล่ม
แต่ด้วยความโชคดีที่ถึงแม้สำนักวิญญาณโลหิตจะมีความบาดหมางกับเขา แต่ความบาดหมางที่มีต่อกันมันก็ไม่ได้หยั่งลึกมากสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงทำแค่สั่งสอนโดยการผนึกสำนักวิญญาณโลหิตเอาไว้โดยที่ไม่ได้ทำลายมหาเต๋าที่คอยค้ำจุนสำนักนี้ให้สิ้นซาก
ตอนนี้หลังจากเจตจำนงกระบี่ถูกลบออกไป ภูเขาที่เป็นส่วนพื้นที่ด้านหน้าของสำนักวิญญาณโลหิตก็ได้ฟื้นตัวแล้ว
“นายท่าน นี่คือสำนักวิญญาณโลหิตที่เคยรุ่งเรืองเมื่อหลายหมื่นปีงั้นเหรอ?” หมิงยู่ถามขึ้นพร้อมกับคิดในใจ
นี่หรือสำนักวิญญาณโลหิตที่นางจะต้องควบคุมในอนาคต?
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดว่า “หนึ่งในสาม ที่นี่ยังไม่ฟื้นฟูอย่างเต็มตัว!”
หยุนจื่อรุ่ยและเปียนเฉียวเฉียวที่ยืนอยู่ด้านข้างเมื่อเห็นภาพของสำนักอันยิ่งใหญ่ปรากฎขึ้นตรงหน้า พวกนางก็ไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไรต่อ พวกนางไม่เคยเห็นสำนักมหาอำนาจมาก่อน ดังนั้นเมื่อตอนนี้ที่พวกนางได้เห็นแค่ส่วนหนึ่งของมัน มันก็เพียงพอที่จะทำให้พวกนางรู้สึกตื่นตาเป็นอย่างมาก
ในทางกลับกัน เย่ชิงเฉิงและโม่เอ๋อดูเหมือนจะไม่มีความรู้สึกรู้สาอะไรสักเท่าไหร่ เนื่องจากสำนักของพวกนางเองก็เป็นสำนักมหาอำนาจเช่นกัน ดังนั้นสภาพแวดล้อมแบบนี้พวกนางจึงเคยเห็นมาอย่างชินตาตั้งแต่เกิด
ในขณะที่สำนักวิญญาณโลหิตค่อย ๆ ฟื้นตัวและสิ่งของล้ำค่าต่าง ๆ เริ่มปรากฏขึ้นให้ได้เห็น มันจึงทำให้ใครหลาย ๆ คนตอนนี้อยากครอบครองมันขึ้นมาทันที
ยกตัวอย่างเช่นก่อนหน้านี้บริเวณภูเขาที่อยู่ในสำนักนั้นโล่งเตียนไม่มีพืชพรรณใด ๆ หลงเหลืออยู่แม้แต่ต้นเดียว แต่ในตอนนี้มันกลับเต็มไปด้วยสมุนไพรหายากต่าง ๆ มากมาย ซึ่งดูเหมือนว่าพวกมันนั้นไร้เจ้าของ ดังนั้นแค่เพียงสมุนไพรพวกนี้เพียงอย่างเดียวมันก็พอทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนกรูกันมาที่สำนักวิญญาณโลหิต
ภาพเหตุการณ์นี้มันทำให้ผู้เชี่ยวชาญทุกระดับการบ่มเพาะจำนวนมากรีบวิ่งออกมาจากเมืองวิญญาณโลหิต หรือแม้แต่คนบางกลุ่มที่แม้จะอยู่ในที่ห่างไกลก็รีบตรงดิ่งมาที่สำนักวิญญาณโลหิตเช่นกันหลังจากได้ข่าว
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ หนิงฉิงก็รู้สึกกระวนกระวายขึ้นมาทันที นางรีบพูดกับหลิงตู้ฉิงว่า “นายท่าน ข้าขอตัวไปแจ้งให้ศิษย์คนอื่นรู้ก่อน”
เดิมทีหน้าที่ของนางคือการทดสอบทัศนคติของเทพกระบี่ที่มีต่อสำนักวิญญาณโลหิตของนาง แต่เมื่อตอนนี้เทพกระบี่ได้นำ ‘กระบี่แห่งการทำลายล้าง’ ที่ผนึกสำนักของนางออกไปมันก็กลายเป็นว่ามันไม่มีความจำเป็นจะต้องไปพยายามทดสอบอะไรเทพกระบี่อีกแล้ว ดังนั้นหน้าที่ของนางในตอนนี้จึงเปลี่ยนไปเป็นการทำให้สำนักวิญญาณโลหิตกลายเป็นบ้านของพวกนางอีกครั้งหนึ่งเหมือนเดิม
หากใครกล้าที่จะขัดขวางโอกาสของพวกนางอีกรอบ พวกมันย่อมจะกลายเป็นศัตรูกับสำนักวิญญาณโลหิตของนางอย่างถาวร
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและเอ่ยว่า “เจ้าคิดว่าเหตุการณ์ใหญ่ขนาดนี้ที่เกิดขึ้นที่นี่ พรรคพวกของเจ้าจะไม่รู้เรื่องอะไรเลยงั้นเหรอ? นอกจากนี้พื้นที่ที่ถูกปลดผนึกมันก็แค่พื้นที่ของภูเขาด้านหน้าเท่านั้นเจ้าจะรีบดีใจไปทำไมกัน? เอาล่ะเจ้าจงตามข้ามาก่อน ต่อไปเราจะไปกันที่หอคัมภีร์ เพื่อช่วยเจ้าหาวิธีบ่มเพาะวิชามหาโลหิตแปรเปลี่ยนที่ถูกต้อง!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หนิงฉิงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าลังเล “แต่ว่านายท่าน ถ้าหากท่านพูดว่ามีแค่เพียงพื้นที่ภูเขาด้านหน้าที่ถูกปลดผนึก ถ้างั้นหอคัมภีร์ก็คงยังถูกปิดผนึกอยู่เช่นกัน”
“ข้ารู้ แต่ข้าเปิดผนึกมันได้” หลิงตู้ฉิงตอบ
“เอ่อ…นายท่าน…” หนิงฉิงมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้างุนงง
หลิงตู้ฉิงพูดว่า “ไปกันเถอะ!”
หลังจากที่พูดจบ หลิงต็ฉิงก็นำทุกคนมุ่งหน้าไปยังหอคัมภีร์ของสำนักวิญญาณโลหิต
และทันทีที่พวกเขาเข้าไปถึงพื้นที่ด้านหลังภูเขา พวกเขาก็พบว่าพวกเขาได้พบกับฉากที่แตกต่างไปจากเดิม มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับด้านหน้าภูเขา
เนื่องจากด้านหน้าของภูเขามีแต่ซากปรักหักพังของสิ่งก่อสร้างจำนวนมากในขณะที่ด้านหลังนั้นเต็มไปด้วยพืชพรรณต่าง ๆ นานา มากมายที่เขียวชอุ่มและดูเต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิต
และที่สำคัญที่นี่มันเต็มไปด้วยผีเสื้อหลากสีบินไปทั่วป่าราวกับว่าที่นี่คือสรวงสวรรค์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)