หลังจากที่เดินทางไปถึงตระกูลหวู หลิงตู้ฉิงก็เอ่ยความตั้งใจในการมาของเขาทันที ซึ่งในตอนแรกตระกูลหวู หวูหมิงก็ไม่ได้สนใจการมาของหลิงตู้ฉิงสักเท่าไหร่
แต่เมื่อเขาสังเกตเห็นหมิงยู่ที่ปล่อยกลิ่นอายระดับการบ่มเพาะระดับนภาคราม ท่าทีของหวูหมิงที่แสดงออกก็เปลี่ยนเป็นสุภาพขึ้นทันที
“ไม่ทราบว่าคุณชายต้องการที่จะรู้เกี่ยวกับอะไรบ้างงั้นหรือ?” หวูหมิงถามขึ้นอย่างสุภาพ
หลิงตู้ฉิงเอ่ยตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย “จงเอาหยดเลือดของเจ้ามาให้ข้าดูก่อน”
ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของตระกูลหวูนั้นจะอยู่ในระดับที่พอใช้ได้ แต่ถ้าเป็นตระกูลที่ไม่ได้รับการหนุนหลังจากขุมกำลังใหญ่ใด ๆ มันก็ไม่ควรที่จะอยู่รอดมาได้ถึง 30,000 ปี ดังนั้นในความคิดของหลิงตู้ฉิง มันจึงมีความเป็นไปได้ที่ตระกูลหวูจะเป็นลูกหลานของเทพกระบี่ เขาจึงขอหยดเลือดของหวูหมิงทันทีโดยไม่ได้สอบถามประวัติเบื้องต้นใด ๆ ก่อน
หวูหมิงเหลือบมองไปยังหมิงยู่ที่อยู่ข้าง ๆ หลิงตู้ฉิง จากนั้นเขาจึงนำหยดเลือดตัวเองส่งให้กับหลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าจนใจ โดยที่ไม่รู้ว่าหลิงตู้ฉิงจะนำหยดเลือดของเขาไปทำอะไร
หลังจากที่หลิงตู้ฉิงได้รับเลือดมา เขาก็สืบดูต้นตระกูลของตระกูลหวูทันที ซึ่งผลที่ออกมาก็คือพวกเขาไม่ใช่ลูกหลานของเทพกระบี่
หลิงตู้ฉิงหยิบโอสถขัดเกลาวิญญาณขึ้นมา และถามว่า “ในเมืองผนึกกระบี่นี้มีตระกูลไหนอีกไหมที่มีอายุเกิน 30,000 ปี? หากเจ้าให้ข้อมูลนี้กับข้า ข้าจะให้โอสถขัดเกลาวิญญาณเม็ดนี้แก่เจ้า”
หวูหมิงแสดงสีหน้างุนงงและถามขึ้นว่า “คุณชายก็สืบเรื่องของเหล่าตระกูลที่อยู่มานานกว่า 30,000 ปี เหมือนกันงั้นเหรอ?”
“หืม?” หลิงตู้ฉิงถามขึ้น “เหมือนกัน? มีคนอื่นที่สืบเรื่องนี้เช่นกันงั้นเหรอ?”
หวูหมิงฝืนยิ้มและพูดว่า “เป็นเพราะว่าตระกูลหวูของเรานั้นเป็นตระกูลใหญ่ที่สุดในเมืองผนึกกระบี่และมีอายุมานานกว่า 30,000 ปี มันจึงมีผู้คนที่มาสอบถามข้อมูลแบบนี้กับเราอยู่ตลอดหลังจากเวลาผ่านไปสักพัก ซึ่งล่าสุดก็เป็นเมื่อพันปีที่แล้วที่มีคนมาสอบถามข้อมูลนี้กับเรา และเราเองก็บอกข้อมูลเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ไปกับทุกคนที่เข้ามาสอบถามข้อมูลนี้กับเราอยู่ตลอด”
“ถ้างั้นเจ้าก็จงบอกทุกอย่างที่เจ้ารู้มาให้กับข้าให้หมด!” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น
หวูหมิงหัวเราะ “งั้นข้าจะตอบท่านเหมือนที่ข้าตอบกับคนอื่น ๆ ที่มาก่อนหน้าก็แล้วกัน ในเมืองผนึกกระบี่นั้นนอกจากตระกูลหวูของเราที่อยู่มานานกว่า 30,000 ปี มันก็มีตระกูลซุน ตระกูลหลี และตระกูมู่”
“ซึ่งแต่ละตระกูลก็ล้วนแล้วแต่ผ่านเหตุการณ์เกือบสิ้นตระกูลมาแล้วทั้งสิ้น และหลังจากนั้นพวกเขาถึงได้มาหลักลงปักฐานที่เมืองผนึกกระบี่ ตัวอย่างเช่นตระกูลซุน ตามบันทึกของตระกูลเรา เมื่อ 18,000 ปีก่อนตระกูลซุนนั้นแทบจะถูกสังหารทั้งตระกูล ซึ่งมีคนเหลือรอดแค่เพียงคนเดียวและหลังจากที่ระเหเร่ร่อนอยู่ข้างนอกเป็นเวลากว่าร้อยปี ในที่สุดคนที่เหลือรอดของตระกูลซุนก็กลับมาที่เมืองผนึกกระบี่เพื่อลงหลักปักฐาน”
“ส่วนตระกูลที่น่าเวทนาที่สุดก็คือตระกูลมู่ เนื่องจากคำสอนของบรรพบุรุษพวกเขานั้นโอหังจนเกินไป จนทำให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายที่เชิดชูเทพกระบี่ต้องโมโหและเกือบที่จะสังหารตระกูลมู่ทั้งตระกูลจนเหี้ยน แต่ด้วยการกราบกรานอ้อนวอนร้องขอชีวิตของพวกเขา พวกเขาจึงรอดพ้นจากความตายมาได้จนมีชีวิตจนถึงทุกวันนี้”
หลิงตู้ฉิงนั่งฟังเรื่องราวของหลายตระกูลที่หวูหมิงเล่ามาอยู่เงียบ ๆไปเรื่อย ๆ โดยสีหน้าไม่เปลี่ยนเลยสักนิด
“ข้าเองก็เคยไปเตือนตระกูลมู่อยู่หลายรอบแล้วเกี่ยวกับคำสอนของบรรพบุรุษของพวกเขาที่มันดูหยาบคายเกินไป ไม่งั้นใครจะรู้ว่าพวกเขาจะเผชิญกับหายนะจริง ๆ เมื่อไหร่” หวูหมิงถอนหายใจพลางส่ายหัว “แต่ไอ้พวกหัวทึบพวกนั้นกลับไม่ฟังข้าเลย จนในตอนนี้ตระกูลของพวกเขาเลยกลายเป็นตัวตลกประจำเมืองไปแล้ว”
หลิงตู้ฉิงถามขึ้น “นี่เจ้าแน่ใจแน่นะว่าทั้งสามตระกูลนั้นมีประวัติความเป็นมาเกิน 30,000 ปี?”
หวูหมิงยิ้ม “คุณชาย ข้าถูกเหล่าผู้คนแวะเวียนมาถามคำถามนี้กว่า 20,000ปีแล้ว ซึ่งแต่ละคนที่มาถามข้านั้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นตัวตนที่ตระกูลของข้าไม่กล้าล่วงเกิน หากข้าบอกข้อมูลเท็จออกไป ข้าเกรงว่าตระกูลของข้าคงไม่สามารถอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้หรอก การเป็นตระกูลเล็ก ๆ เช่นตระกูลเราแต่ต้องมานั่งให้ข้อมูลที่สำคัญเช่นนี้กับเหล่าตัวตนที่พวกเราไม่สามารถล่วงเกินได้เรื่อย ๆ มันไม่ใช่เรื่องที่เราจะล้อเล่นได้”
หลังจากพูดจบ หวูหมิงก็ถอนหายใจด้วยความมืดหม่น
เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องมีเหล่าตัวตนที่น่ากลัวมาถามคำถามเดิม ๆ แบบนี้ซ้ำ ๆ อยู่เรื่อย
หลิงตู้ฉิงไม่สนใจในท่าทีมืดหม่นของหวูหมิง เขาพูดต่อว่า “เอาบันทึกของตระกูลเจ้ามาให้ข้าดู หากมันมีประโยชน์ต่อข้า ข้าจะให้รางวัลตอบแทนกับเจ้า”
หวูหมิงพยักหน้า จากนั้นเขาก็หยิบเอาแผ่นหยกชิ้นหนึ่งที่เก็บข้อมูลบันทึกของตระกูลเขาไว้ในนั้นมอบให้กับหลิงตู้ฉิง “พวกเราลอกข้อมูลเหล่านี้ไว้อยู่หลายชุด ซึ่งพวกมันทั้งหมดก็มีข้อมูลแบบเดียวกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)