ในขณะนี้หลิงตู้ฉิงมองไปยังมู่เทียนหยู และเห็นได้ชัดว่าชายชราผู้นี้อยู่ในขอบเขตจักรพรรดิ เขายิ้มและพูดว่า “ข้าได้ยินมาว่าพวกเจ้าชื่นชมเทพกระบี่ เป็นอย่างมากเลยสินะ?”
ในที่สุดทุกอย่างก็เป็นไปตามแผน คนที่คู่ควรที่จะให้เขาสอบถามในที่สุดก็ปรากฎตัวขึ้นจนได้!
มู่เทียนหยูยิ้ม “เต๋ากระบี่ของผู้อาวุโสเทพกระบี่นั้นถือได้ว่าไร้เทียมทานอย่างแท้จริง เขาคือตัวตนที่พวกเราเหล่านักกระบี่ถือเป็นแบบอย่าง ดังนั้นมีใครบ้างที่จะไม่นับถือและชื่นชมเขา?”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและเอ่ยว่า “ในเมื่อเจ้านับถือเขามาก ดังนั้นเจ้าก็ควรรู้ว่าสิ่งนี้คืออะไรใช่ไหม?”
เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงก็โยนป้ายคำสั่งกระบี่ไปให้กับมู่เทียนหยู
หลังจากที่ได้รับป้ายคำสั่งกระบี่มาและตรวจสอบมัน มู่เทียนหยูก็สัมผัสได้ถึงเจตจำนงกระบี่ที่อยู่ด้านใน ซึ่งมันทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันทีและถามขึ้น “นี่ท่านหมายความว่ายังไงกับคำว่า ‘จงเคารพท่าน’ ?”
เมื่อพูดจบ มู่เทียนหยูไม่ได้ลดระดับการบ่มเพาะของตนเองอีกแล้ว เนื่องจากเขาไม่แน่ใจว่าคนผู้นี้เป็นใครถึงได้มีป้ายคำสั่งที่บรรจุเจตจำนงกระบี่เดียวกับของเทพกระบี่ ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของเขาแถมยังสลักอักษรไว้ด้านในอีกว่าให้เขาทำความเคารพ ซึ่งมันมีความเป็นไปได้สูงว่าคนผู้นี้จะต้องรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับความลับของสำนักเขา เขาจำเป็นต้องระวังตัวเผื่อไว้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าของเขาเป็นศัตรู
เขาไม่สามารถยอมให้คนผู้นี้นำความลับของพวกเขาออกไปเผยแพร่ต่อโลกได้ ไม่เช่นนั้นสิ่งที่พวกเขาพยายามทุ่มเทซ่อนตัวมานานกว่า 30,000 ปีมันคงถูกพังทลายลง
หลิงตู้ฉิงหยิบยันต์สั่งสวรรค์ขึ้นมาถือไว้ให้มู่เทียนหยูเห็นอย่างเด่นชัด
ทางด้านของมู่เทียนหยู ซึ่งเห็นยันต์สั่งสวรรค์ในมือของหลิงตู้ฉิงเขาก็ระวังตัวมากขึ้นทันที ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าด้านในมันผนึกพลังอะไรไว้แต่เขาก็สัมผัสได้ว่ามันอันตรายมากสำหรับเขา
ในระหว่างที่มู่เทียนหยูกำลังตื่นตัวไม่รู้จะจัดการยังไงต่อ หลิงตู้ฉิงก็เอ่ยขึ้นว่า “เข้ามาข้างในค่ายกลก่อน ข้ามีบางสิ่งจะบอกเจ้าและมีบางสิ่งที่จะมอบให้เจ้าโดยที่ไม่สามารถให้คนอื่นเห็นได้”
มู่เทียนหยูที่ได้ยินคำพูดอย่างมีความหมายแอบแฝงของหลิงตู้ฉิงเช่นนั้น ถึงแม้เขาจะลังเลอยู่บ้างแต่เขาก็ยังเดินเข้าไปในค่ายกลกระบี่เหินเมฆา ซึ่งต่อมาหลิงตู้ฉิงก็ปิดผนึกค่ายกลกระบี่ไม่ให้ผู้คนภายนอกได้เห็นว่าอะไรเกิดขึ้นด้านใน
หลังจากพ้นจากสายตาผู้คนแล้ว หลิงตู้ฉิงก็แสดงชุดวิชาดาราโลหิตประสานกระบี่ต่อหน้ามู่เทียนหยูทันที เขาแสดงมันตั้งแต่กระบี่แรกกระบี่สวรรค์พิพากษา จากนั้นเขาก็แสดงไปจนถึงกระบี่ที่ห้า กระบี่แห่งการทำลายล้าง และยังไม่หยุดแค่นั้น หลิงตู้ฉิงแสดงไปจนถึงกระบี่ที่เก้า!
ถึงแม้ว่าระดับการบ่มเพาะของหลิงตู้ฉิงจะไม่สามารถสำแดงอำนาจของกระบี่ทั้งเก้าออกมาได้ แต่ด้วยความคุ้นเคยของเขาที่มีต่อชุดวิชาดาราโลหิตประสานกระบี่ เขาจึงสามารถสำแดงเจตจำนงของพวกมันออกมาได้อย่างชัดเจนและแค่นี้มันก็เพียงพอแล้วกับการยืนยันตัวตน
เมื่อเห็นกระบี่ที่เก้าที่หลิงตู้ฉิงเพิ่งแสดงเสร็จ มู่เทียนหยูก็คุกเข่าลงทันทีพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “ผู้เยาว์ขอคารวะท่านปู่ทวด!”
ในโลกนี้ทั้งหมด มีเพียงแค่เทพกระบี่เพียงผู้เดียวเท่านั้นที่รู้ชุดวิชาดาราโลหิตประสานกระบี่ได้ครบเช่นนี้
ถึงแม้ว่าในสุสานกระบี่จะมีชุดวิชาดาราโลหิตประสานกระบี่อยู่ก็จริง แต่มันก็ไม่มีใครที่จะผ่านด่านทดสอบกระบี่ที่ห้าไปได้
ดังนั้นหลังจากกระบี่ที่ห้า กระบี่ที่เหลือนั้นถือได้ว่าสาบสูญไปจากโลกภายนอกแล้วเรียบร้อย
แล้วตอนนี้กลับมีผู้ที่สามารถใช้ชุดวิชาดาราโลหิตประสานกระบี่ได้ครบทั้งหมด หากคนผู้นี้ไม่ใช่เทพกระบี่ มันก็คงไม่มีใครที่สามารถเป็นได้อีกแล้ว
และถึงแม้ว่ามู่เทียนหยูเองจะไม่เคยเห็นกระบี่ที่เหลือมาก่อน แต่จากการที่เขาสัมผัสได้ถึงเจตจำนงกระบี่ที่หลิงตู้ฉิงแสดงออกมาที่มันคล้ายคลึงกับที่บันทึกไว้ในตำนาน เขาจึงเข้าใจได้ว่าหลิงตู้ฉิงคือเทพกระบี่อย่างแน่นอน
เมื่อเห็นเช่นนี้ หลิงตู้ฉิงก็เอ่ยขึ้นอย่างจนใจ “เอ่อ ข้า… เฮ้อเจ้าลุกขึ้นก่อนเถอะ ข้ามีคำถามอยากจะถามเจ้าสักหน่อย”
มู่เทียนหยูรีบลุกขึ้นทันทีพร้อมกับยืนสงบนิ่งแสดงท่าทีเคารพ
“มีใครเหลืออยู่บ้าง?” หลิงตู้ฉิงถามขึ้น
“ท่านปู่ของข้ายังคงอยู่!” มู่เทียนหยูเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าตื่นเต้น “ท่านปู่ทวด ท่านต้องการให้ข้าไปตามท่านปู่มาให้ไหม? ในตอนนี้ท่านปู่กำลังปิดด่านบ่มเพาะอยู่ในเหวมรณะ ท่านเคยสั่งเอาไว้ว่าหากมีอะไรเร่งด่วนสามารถให้ข้าไปตามได้ทุกเมื่อ!”
แน่นอนว่าบุคคลที่มู่เทียนหยูเอ่ยขึ้นนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกซะจาก ลูกชายของเทพกระบี่
หลิงตู้ฉิงเองก็ไม่ได้คาดคิดว่าเวลาผ่านมากว่า 30,000 ปี ลูกชายของทาสกระบี่ยังคงมีชีวิตอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าถ้ามีชีวิตอยู่มานานขนาดนี้ระดับการบ่มเพาะของเขาคงจะสูงมากแล้วอย่างแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)