หลังจากที่ดิ่งลงมาในเหวมรณะได้สักพัก และอันตรายก็เริ่มรุนแรงขึ้นจนหลิงตู้ฉิงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้น
แต่หลังจากที่สิ้นคำเอ่ยของหลิงตู้ฉิง รอยแยกของมิติที่ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของพวกเขาก็สลายหายไปรวมไปถึงแมลงปีศาจที่ติดตามมาก็หายไปเช่นกัน
จากนั้นชายชราสวมชุดสีเทาก็ได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับจ้องมายังใบหน้าของหลิงตู้ฉิง
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เลว สามารถบ่มเพาะมาได้จนอยู่ในขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นกลาง เอาล่ะตอนนี้เจ้ายังไม่จำเป็นต้องพูดอะไรทั้งนั้น พาข้าไปสถานที่ที่เจ้าใช้เก็บตัวบ่มเพาะก่อนแล้วจากนั้นเราค่อยคุยกัน”
ชายชราชุดเทาพยักหน้า จากนั้นเขาก็บินนำรถม้าไปโดยไม่พูดอะไร
ทางด้านของคนอื่น ๆ ในรถม้า นอกจากหยุนจื่อรุ่ยและเปียนเฉียวเฉียวที่ยังไม่รู้เรื่องระดับการบ่มเพาะดีนัก พวกเขาต่างมองไปที่ชายชราชุดสีเทาด้วยสีหน้าตะลึงงัน เมื่อพวกเขาได้ยินคำที่หลิงตู้ฉิงเอ่ย
ชายชราชุดเทาผู้นี้อยู่ในขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นกลาง ซึ่งมันก็หมายความว่าเขาเข้าใกล้จุดสูงสุดของการบ่มเพาะของมวลมนุษย์แล้ว
หากเขาก้าวหน้าพ้นขอบเขตมหาจักรพรรดิไป เขาจะกลายเป็นผู้ก่อกำเนิดมหาวิถีเต๋าและเดินไปตามเส้นทางมหาวิถีเต๋าของตนเอง
แต่ถ้าหากเขาทำไม่ได้ ทั้งชีวิตของเขาก็จะติดอยู่ที่ขอบเขตมหาจักรพรรดิตลอดไป ซึ่งแน่นอนว่าตั้งแต่บรรพกาลมันมีคนไม่มากนักที่บรรลุถึงขอบเขตมหาจักรพรรดิ แต่มันมีน้อยยิ่งกว่าสำหรับผู้ที่สามารถก่อกำเนิดมหาวิถีเต๋าของตัวเองได้
ด้วยการสนับสนุนของพลังของชายชราชุดเทา ความเร็วในการดิ่งลงของรถม้าก็เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากและแน่นอนว่าพวกเขาไม่ถูกรบกวนโดยสัตว์ปีศาจหรือความผันผวนของกฎใด ๆ อีกเลยเช่นกัน
พลังของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดินั้นเป็นสิ่งที่อยู่เหนือกฎทุกอย่าง เขาสามารถใช้เจตจำนงของตนเองในการบังคับกฎให้เป็นไปตามที่เขาต้องการได้ ดังนั้นมันจึงไม่แปลกอะไรที่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะลงไปในเหวมรณะลึกสักแค่ไหนกฎที่ควรจะผันผวนเป็นอย่างมากมันก็กลายเป็นสงบนิ่ง
ส่วนบรรดาสัตว์ปีศาจ เมื่อพวกมันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของตัวตนที่เหนือกว่า มันจึงเป็นธรรมดาที่พวกมันย่อมไม่กล้าที่จะเข้ามาใกล้ นอกซะจากว่ามันจะเป็นสัตว์ปีศาจที่มีระดับการบ่มเพาะเดียวกับชายชราผู้นี้มันถึงจะกล้าเข้ามายุ่มย่าม
ในเวลาไม่นาน ในที่สุดทุกคนก็รู้สึกว่ารถม้าได้หยุดลง แต่ทุกคนไม่รู้ว่าหยุดลงเพราะอะไรเนื่องจากสภาพรอบด้านของพวกเขาตอนนี้มันมีแต่ความมืดมิดมองไปทางไหนก็เหมือนกับว่าพวกเขาตกลงไปในบ่อหมึกดำไม่มีแสงสว่างใด ๆ หลงเหลือ
จากนั้นชายชราชุดเทาก็ควบคุมกฎแห่งแสงให้ปรากฏขึ้นและส่องสว่างบริเวณโดยรอบ ซึ่งคราวนี้ทุกคนก็ได้รู้ว่าตอนนี้พวกเขาได้อยู่บนเกาะที่ลอยอยู่กลางเหวมรณะที่มีพื้นที่ประมาณ 10 ตารางกิโลเมตร
และหลังจากนั้นเพียงครู่เดียว กลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งก็ตามลงมาที่เกาะลอยแห่งนี้ ซึ่งคนกลุ่มที่เพิ่งมาถึงก็คือกลุ่มของมู่เทียนหยูและคนของเขา
บรรดาผู้คนที่ตามมู่เทียนหยูมาด้วยต่างมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสายตาตื่นเต้น
หลิงตู้ฉิงไม่สนใจสายตาของกลุ่มคนของมู่เทียนหยูที่มองเขา เขาหันไปพูดกับเย่ชิงเฉิง และคนอื่น ๆ ว่า “พวกเจ้าอยู่ในค่ายกลกระบี่เหินเมฆาไปก่อน ข้ามีบางอย่างที่จะต้องคุยกับคนเหล่านี้”
“ตามสบายเลย สามี!” เย่ชิงเฉิงหัวเราะ
ในตอนนี้นางรู้แล้วว่าคนพวกนี้เป็นใคร แต่สิ่งที่นางคาดไม่ถึงก็คือในบรรดาลูกหลานของเทพกระบี่นั้นมีอยู่หลายคนที่อยู่ในขอบเขตจักรพรรดิ!
หลิงตู้ฉิงเดินออกไปหาเหล่าผู้คนของสำนักกระบี่เอกภพและเอ่ยขึ้นว่า “อย่าให้ใครได้ยินสิ่งพวกเราคุย สิ่งที่ข้ากำลังจะพูดนั้นสำคัญมาก”
ในบรรดาผู้คนที่อยู่ตรงนี้ล้วนแล้วแต่เป็นผู้เชียวชาญขอบเขตจักรพรรดิทั้งนั้นและยังไม่รวมไปถึงชายชราชุดเทาที่อยู่ในขอบเขตมหาจักรพรรดิ ดังนั้นหากพวกเขาไม่ต้องการให้ใครได้ยินบทสนทนาของพวกเขา มันก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่คนธรรมดาจะสามารถได้ยินสิ่งที่พวกเขาคุยกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)