“สามี นี่ท่านกำลังจะทำอะไรงั้นเหรอ?” เย่ชิงเฉิงถามขึ้นด้วยสีหน้าสงสัยปนกังวล “แต่ไม่ว่าเราจะทำอะไรต่อ หากเราจำเป็นต้องอยู่ที่นี่ข้าคิดว่าพวกเราต้องไปคุยกับสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์เรื่องเปลี่ยนเกาะให้เราอาศัยใหม่ เกาะก็เล็กแถมพวกเรือนก็สภาพซอมซ่อขนาดนี้พวกเราจะอยู่กันไปได้ยังไง?”
มองไปยังรอบ ๆ เกาะแห่งนี้มีเรือนสร้างอยู่เพียงไม่กี่หลังแถมแต่ละหลังก็อยู่ในสภาพที่เก่าเป็นอย่างมาก หากวัดจากมาตรฐานของสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์แล้วเกาะนี้คงเป็นสถานที่ที่ให้เหล่าศิษย์ชั้นปลายแถวเท่านั้นในการมาอยู่อาศัย ต้องรู้ว่าสถานะของพวกเขาไม่ใช่คนธรรมดา ดังนั้นการให้พวกเขามาพักในที่แบบนั้นมันไม่ต่างอะไรกับการดูหมิ่นกันชัด ๆ
หลิงตู้ฉิงโบกมือและพูดว่า “ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน ตำแหน่งของเกาะแห่งนี้มันดีมากอยู่แล้ว พวกเราจะพักกันที่นี่แหละ”
เย่ชิงเฉิงและคนอื่น ๆ ต่างมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสายตางุนงงไม่เข้าใจว่า หลิงตู้ฉิงหมายความว่ายังไง
แต่ในเมื่อหลิงตู้ฉิงได้เอ่ยมาเช่นนี้แล้ว พวกเขาก็ทำได้แค่พยักหน้าตกลงอย่างเชื่อฟัง และทำใจพักที่เกาะแห่งนี้ที่มีชื่อเรียกว่า เกาะเม็ดทราย
หลังจากที่ทุกคนจัดเตรียมที่พักให้กับตัวเองเรียบร้อย และหลิงตู้ฉิงสัมผัสได้ว่าเจตจำนงของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันได้จากไปแล้ว หลิงตู้ฉิงก็พูดกับเย่ชิงเฉิงและคนอื่น ๆ ว่า “ก่อนหน้านี้มีเจตจำนงของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันแอบมาสอดส่องเราอยู่ แต่ตอนนี้เขาได้จากไปแล้ว”
การต้อนรับพวกเขาด้วยเกาะโทรม ๆ แห่งนี้มันอาจจะยังพอรับได้ แต่การที่สำนักวารีศักดิ์สิทธิ์ส่งเจตจำนงของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันของพวกเขามาสอดส่องเช่นนี้มันดูเป็นการคุกคามที่เกินขอบเขตไปอย่างมาก
“สามี การที่พวกเขาทำเช่นนี้พวกเขาต้องวางแผนร้ายกับพวกเราไว้อย่างแน่นอน ข้าคิดว่าพวกเราควรออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้!” เย่ชิงเฉิงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ากังวล
หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “ข้าบอกแล้วไงว่าไม่จำเป็นต้องไปไหน อีกไม่นานพวกเขาจะมาอ้อนวอนให้พวกเราใช้ประตูเคลื่อนย้ายด้วยตัวเอง อันที่จริงเมื่อครู่ข้ายังเอ่ยไม่จบประโยคเพราะเจตจำนงของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันกำลังฟังพวกเราคุยกันอยู่ ข้าอยากจะบอกว่าสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์น่าจะบ่มเพาะวิชาคลื่นวารี ซึ่งเป็นวิชาของเทพีหลิงเปา”
“ข้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเทพีหลิงเปาอย่างชัดเจนในเกาะแห่งนี้ ซึ่งข้าคิดว่านางคงจะเคยใช้สถานที่แห่งนี้ในการบ่มเพาะเต๋าของนาง แถมนางยังทำการสถิตมหาวิถีเต๋าของนางทิ้งไว้ที่นี่อีกต่างหาก ดังนั้นพวกเราจะอยู่ที่นี่กันไปก่อน ข้าจะตามหามหาวิถีเต๋าของเทพีหลิงเปาและใช้มันในการบ่มเพาะร่างวารีของข้า”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่หยูหลันถึงกับขนลุกด้วยความตื่นตระหนกและรีบพูดว่า “นายท่าน หากพวกเราไปยุ่มย่ามกับมหาวิถีเต๋าของสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์ พวกเราคงได้เป็นศัตรูกับพวกเขาแน่นอน!”
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ต่อให้หลิงเปาอยู่ที่นี่ หากนางรู้ว่าข้าใช้มหาวิถีเต๋าของนางในการบ่มเพาะร่างของข้าเอง ไม่เพียงนางจะไม่ขัดข้องมันจะกลายเป็นว่านางรู้สึกเป็นเกียรติซะด้วยซ้ำ และอีกอย่างข้าไม่ได้จะดึงเอาพลังของมหาวิถีเต๋าของพวกเขามาใช้ทั้งหมดซะเมื่อไหร่ ข้าเพียงแค่แบ่งมาใช้บ้างแค่ส่วนเดียว ซึ่งด้วยวิธีของข้า พวกคนของสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์ไม่มีทางจับได้หรอก”
เย่ชิงเฉิงเงียบไปสักพัก จากนั้นนางพูดขึ้นว่า “สามี ถึงแม้ว่าสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์จะแสดงท่าทีแล้งน้ำใจกับเรา แต่ข้าอยากขอร้องท่าน หากท่านจะใช้มหาวิถีเต๋าของพวกเขาในการฝึกฝน ท่านก็อย่าได้ใจร้ายเอามหาวิถีเต๋าของพวกเขามาใช้จนหมดเลยนะ อย่างน้อย ๆ ก็เห็นใจพวกเขาสักหน่อยแบ่งมาใช้แค่บางส่วนก็พอ”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและพูดว่า “ไม่ต้องกังวล อย่างมากที่สุดข้าแค่จะทำให้พวกเขาต้องทำการฟื้นฟูมันใหม่สักพันปีเพื่อให้มันกลับมาใช้งานได้! จากการกระทำของพวกเขาที่ปฏิบัติกับเรา การที่ข้าสั่งสอนพวกเขาเพียงเท่านี้มันถือว่าข้าปราณีพวกเขามากแล้ว แต่ถ้าหากพวกเขายังล่วงเกินพวกเราไม่เลิก ข้าจะแสดงให้พวกเขาเห็นว่าการล่วงเกินเรามาก ๆ พวกเขาจะต้องจ่ายราคาจนร้องไห้ไม่ออก!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนต่างมองหน้ากันและพูดไม่ออก ตอนนี้ในใจของทุกคนต่างรู้สึกเวทนาในชะตากรรมของสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์มากกว่าชะตากรรมของพวกเขาเองซะแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)