ระดับการบ่มเพาะในตอนนี้ของหลิงตู้ฉิงได้กลายเป็นระดับนภาครามเรียบร้อย ด้วยการเกื้อหนุนของหมิงยู่ ซึ่งมันทำให้เขาแน่ใจว่าเขาสามารถพาคนของเขาไปยังจุดหมายได้อย่างปลอดภัย
ในระหว่างที่พวกเขาอยู่ในเส้นทางเคลื่อนย้ายผ่านมิติ หลิงตู้ฉิงก็เริ่มใช้อำนาจของระดับการบ่มเพาะนภาครามเข้าเปลี่ยนกฎแห่งมิติทันที
การเปลี่ยนกฎแห่งมิติของหลิงตู้ฉิงนั้นส่งผลให้พลังงานมิติที่อยู่รอบกายเขาเริ่มบิดเบี้ยวจนผันผวนอย่างรุนแรง และจากนั้นเขาก็ส่งพลังงานมิติที่ผันผวนเหล่านี้ย้อนคืนไปยังต้นทางที่พวกเขาจากมา ซึ่งก็คือประตูเคลื่อนย้ายของสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์!
ทางด้านของสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์ บรรดาผู้คนต่างดีใจปนแค้นใจที่พวกของหลิงตู้ฉิง จากไปได้สักที
แต่แล้วความดีใจของพวกเขาก็อยู่ได้เพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้น…
โดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าใด ๆ จู่ ๆ ประตูเคลื่อนย้ายก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและจากนั้นเพียงชั่วพริบตา ประตูเคลื่อนย้ายก็ถูกฉีกออก! ส่งผลให้พลังกฎแห่งมิติที่ผันผวนพุ่งออกมาทำให้เกิดรอยแยกของมิติแผ่กระจายไปตามพื้นดินเหมือนกับรากไม้ยักษ์ที่ชอนไชทำลายทุกอย่างและไม่เพียงแค่นั้น มันยังมีความน่ากลัวระลอกสองซึ่งก็คือพายุมิติอันบ้าคลั่งที่ทะลักถาโถมออกมาจากประตูเคลื่อนย้าย ซึ่งพายุเหล่านี้ก็พุ่งกระจายไปยังทุกทิศทางของสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์จากตำแหน่งของประตูเคลื่อนย้ายซึ่งเป็นจุดศูนย์กลาง
“ไม่!!!!” ฉีหานเฟิงกรีดร้องด้วยสีหน้าหวาดผวาทันทีพร้อมกับเร่งโคจรพลังของตนเองจนถึงขีดสุดเข้าต้านทานพายุมิติที่ถาโถมออกมาอย่างไม่ขาดสาย
ถ้าหากพายุมิติที่ถาโถมออกมาเหล่านี้แพร่กระจายออกไป ทุกคนในสำนักของเขาที่มีระดับการบ่มเพาะต่ำกว่าขอบเขตราชันจะต้องตาย
แต่แล้วด้วยการใช้พลังจนถึงขีดสุด ในที่สุดฉีหานเฟิงก็สามารถควบคุมพายุมิติเอาไว้ได้ ซึ่งถึงแม้เขาจะไม่สามารถลบล้างมันได้แต่เขาก็ยังสามารถทำให้มันสงบลง
ทางด้านของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันและจักรพรรดิทั้งสามเองก็ตกตะลึงกับภาพที่เกิดขึ้น แต่เมื่อพวกเขาได้สติ พวกเขาก็รีบเข้ามาสมทบช่วยเหลือฉีหานเฟิงในการรับมือกับพายุมิติ จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก พายุมิติก็ถูกลบล้างออกไปได้ทั้งหมด
แต่ถึงแม้พวกเขาจะสามารถหลีกเลี่ยงจากความเสียหายที่กำลังจะเกิดขึ้นจากพายุมิติได้ แต่สำนักของพวกเขาก็ยังคงได้รับความเสียหายอย่างหนักอยู่ดีจากรอยแยกของมิติที่ปรากฏขึ้นในระลอกแรก ซึ่งพวกเขาไม่สามารถทำอะไรกับมันได้เลย
รอยแยกมิติที่เกิดขึ้นนั้นได้สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้กับบรรดาเกาะมากมาย ซึ่งหลาย ๆ เกาะถึงขนาดถูกรอยแยกมิติผ่ากลางทำให้เกาะทั้งเกาะถูกแยกเป็นสองส่วน รวมไปถึงค่ายกลป้องกันต่าง ๆ ของสำนักก็ถูกทำลายเสียหายไปกว่า 8 ส่วน และที่สำคัญที่สุดคือมหาวิถีเต๋าที่อยู่ใต้ทะเลสาบนั้นก็ถูกรอยแยกมิติพาดผ่านทำให้เปลือกของมันแตกออก ซึ่งส่งผลให้พลังงานที่กักเก็บในมันทะลักออกมาอย่างบ้าคลั่ง
สิ่งนี้ทำให้พลังธาตุน้ำของสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์หนาแน่นขึ้นเป็นร้อยเท่า ซึ่งมันทำให้บรรดาศิษย์ธรรมดาที่มีระดับการบ่มเพาะต่ำ ๆ ต่างพากันทะลวงระดับการบ่มเพาะหลายระดับในรวดเดียวกันเป็นว่าเล่นแบบควบคุมไม่ได้
เหตุการณ์นี้มันทำให้บรรดาศิษย์ที่ไม่รู้ประสีประสาหลายคนโห่ร้องด้วยความดีใจ แต่สำหรับบรรดาพวกศิษย์ที่ฉลาด ๆ หน่อยต่างก็พากันอยากจะร้องไห้ เนื่องจากการทะลวงระดับแบบรวดเร็วเกินไปเช่นนี้มันมีแต่ผลเสีย มันทำให้รากฐานการบ่มเพาะของพวกเขาไม่มั่นคง ซึ่งแน่นอนว่าในอนาคตการบ่มเพาะของเขาจะต้องไม่ราบลื่นอย่างแน่นอน
ทางด้านของฉีหานเฟิง ในตอนนี้เขาได้แต่มองไปยังสภาพสำนักของเขาด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ
เปลือกของมหาวิถีเต๋าสำนักของเขาถูกทำให้แตกเป็นเสี่ยง ๆ
สิ่งนี้มันคือสิ่งที่ควรจะอยู่ค้ำจุนสำนักของเขาไปจนชั่วกาลปาวสาน แต่ในตอนนี้มันกลับถูกทำให้เสียหายอย่างย่อยยับ!
“อ้ากกกก ข้าอยากจะฆ่ามัน ข้าอยากจะฆ่าไอ้เวรนั่น!!!!” ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันขั้นกลางกรีดร้องขึ้นดังลั่น
แน่นอนว่าคนที่เขาเอ่ยขึ้นอยากจะฆ่านั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกซะจากหลิงตู้ฉิง ซึ่งในความคิดของเขา เขาเดาว่าต้องเป็นหลิงตู้ฉิงแน่นอนที่ทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้
ฉีหานเฟิงในตอนนี้อยู่ในสภาพโง่งม เขาไม่เคยนึกไม่เคยฝันมาก่อนเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับสำนักของเขา
เขายืนโง่งมอยู่เป็นเวลานาน จากนั้นเมื่อเขาได้สติ เขาก็ใช้จิตสำนึกของเขาเข้าครอบงำดูความทรงจำของผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญที่รายงานเขาเรื่องการเปลี่ยนตำแหน่งปลายทางของประตูเคลื่อนย้าย เขาอยากจะรู้ว่าเรื่องการเปลี่ยนตำแหน่งนั้นเป็นความคิดของลูกชายเขาจริง ๆ หรือเป็นความคิดของผู้เชี่ยวชาญผู้นี้กันแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)