ในเรือนของเย่ชิงเฉิง ตอนนี้หลิงตู้ฉิงกำลังย่างปีกของอินทรีย์ทองคำ ซึ่งเขาย่างมันจนสุกเป็นสีน้ำตาลอ่อนแต่มันกลับแผ่กลิ่นอายชั่วร้ายรุนแรงราวกับว่ามันเป็นอาวุธซะมากกว่าของกิน
ในขณะที่หลิงตู้ฉิงกำลังย่างอย่างตั้งใจ จู่ ๆ เขาก็เงยหน้าขึ้นมองไปยังด้านนอกเรือนที่ถูกปกคลุมด้วยค่ายกลกระบี่และพูดว่า “มีคนกำลังรออยู่ด้านนอก ออกไปพาพวกเขามาหาข้าที”
เมื่อได้ยินคำสั่ง โม่เอ๋อจึงเดินออกไปยังหน้าเรือนและเปิดค่ายกลกระบี่ออกด้วยสีหน้าสงสัย จากนั้นเมื่ออกไปนางก็เห็นว่ามีเหล่าผู้อาวุโสของสำนักสิบกว่าคนกำลังยืนรออยู่ด้านนอกจริง ๆ จนนางอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ “นายหญิง…”
“เขากำลังว่างอยู่รึเปล่า?” มู่หลงหยานถามขึ้น “พวกข้ามีบางอย่างอยากจะคุยกับเขา”
โม่เอ๋อเข้าใจในคำสั่งเมื่อครู่ของหลิงตู้ฉิงทันที นางจึงรีบตอบกลับว่า “เอ่อ นายหญิง คุณชายแจ้งว่าให้พวกท่านเข้ามาคุยกันด้านใน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ มู่หลงหยานและบรรดาผู้อาวุโสของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ต่างก็รีบเดินเข้าไปในเรือน ส่งผลให้บรรดาผู้คนที่กำลังบ่มเพาะอยู่ในเรือนของเย่ชิงเฉิงตื่นตัวทันที
เย่ชิงเฉิงรีบเดินออกมาจากห้อง และเมื่อนางเห็นว่าแม่ของนางมากับผู้อาวุโสของสำนัก นางก็รีบถามขึ้นด้วยสีหน้ากังวล “ท่านแม่ เหล่าผู้อาวุโส เกิดอะไรขึ้น? พวกท่านมาที่นี่เพราะว่าจะบังคับให้ข้าแต่งงานกับเล้งหวงงั้นเหรอ?”
เมื่อได้ยินคำถามของเย่ชิงเฉิง หยูหงเว่ยก็ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนและพูดว่า “หลานชิงเฉิง ก่อนหน้านี้พวกเรามันช่างโง่งมที่ตัดสินใจทำอะไรไม่งามลงไป! ตอนนี้พวกเราคิดได้แล้วว่าในเมื่อเจ้าได้แต่งงานไปแล้ว มันก็ไม่เหมาะที่จะให้เจ้าต้องแต่งงานกับชายคนใหม่แบบนั้น”
เย่ชิงเฉิงเลิกคิ้วขึ้นและพูดว่า “อ๋อ ถ้างั้นเหตุผลที่พวกท่านมาในวันนี้ก็เป็นเพราะพวกท่านต้องการมาขอร้องสามีข้าสินะ!”
เมื่อดูจากท่าทีที่คนเหล่านี้กำลังแสดงอยู่ เย่ชิงเฉิงก็เข้าใจได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาที่นี่เพื่อเอ่ยปากขอร้อง
มู่หลงหยานเอ่ยขึ้นว่า “ชิงเฉิง เจ้าช่วยไปพูดกับสามีของเจ้าให้พวกเราหน่อยจะได้ไหม?”
เย่ชิงเฉิงเผยรอยยิ้มเย้ยหยันและตอบกลับว่า “ข้าเดาว่าแผนการของพวกท่านมันคงไม่เป็นดั่งที่หวังสินะ? ว่าแต่พ่อคนเก่ง เล้งหวง ไปไหนแล้วล่ะ? ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้เขาเรียกร้องอยากจะแต่งงานกับข้าให้ได้ไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมทีตอนนี้กลับไม่กล้าโผล่หน้ามาซะแล้วล่ะ?”
หานเว่ยฮุยพูดขึ้นด้วยสีหน้าอับอาย “หลานชิงเฉิง เจ้าอย่าเพิ่งไปถามหาเขาเลย ในตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดได้ถูกเขตแดนหมอกดูดกลืนเข้าไปแล้ว เล้งหวง ในตอนนี้กำลังเสียใจจนทำอะไรไม่ถูก เขาคงไม่มีอารมณ์มาเจอหน้ากับเจ้าหรอก ส่วนข้าเองก็ต้องขอโทษเจ้าด้วยที่ก่อนหน้านี้ข้าได้ทำตัวไม่เหมาะสมกับเจ้า ว่าแต่เจ้าเพิ่งจะทะลวงขอบเขตได้สินะ ลุงขอมอบโอสถขัดเกลาไว้ให้เจ้าเพื่อที่เจ้าจะได้ใช้มันในการปรับรากฐานระดับการบ่มเพาะให้มั่นคง”
“สมควรแล้ว!” เย่ชิงเฉิงสบถขึ้น “เอาล่ะ เดี๋ยวข้าจะพาพวกท่านไปพบกับสามีข้าข้างใน!”
เมื่อพูดจบ นางก็พาทุกคนเข้าไปหาหลิงตู้ฉิงที่กำลังย่างปีกอิทรีย์อยู่ในลานหลังเรือน
“สามี พวกเขามาที่นี่เพื่อมาอ้อนวอนท่าน!” เย่ชิงเฉิงเอ่ยขึ้นแบบห้วน ๆ
หลิงตู้ฉิงมองไปยังเหล่าผู้คนที่เดินเข้ามา และพูดว่า “พวกเจ้ามาได้จังหวะพอดีเลยจริง ๆ พวกเจ้ามาได้จังหวะตอนที่ข้าย่างเนื้อเสร็จพอดี!”
บรรดาผู้อาวุโสของสำนักต่างมองไปที่มู่หลงหยานเพื่อส่งสัญญาณให้นางช่วยพูดแทน แต่มู่หลงหยานกลับไม่ยอมเอ่ยปากพูดอะไรเช่นกัน
เนื่องจากถ้านางเป็นคนเอ่ยปากขึ้นเอง หลิงตู้ฉิงอาจจะเรียกร้องค่าตอบแทนได้ลำบาก แต่ถ้าหากเป็นบรรดาผู้อาวุโสเหล่านี้ที่เอ่ยปากเอง มันจะง่ายเป็นอย่างมากที่หลิงตู้ฉิงจะเรียกราคาได้จนกว่าเขาจะพอใจ
เมื่อเห็นว่ามู่หลงหยานไม่ยอมเอ่ยปากขึ้นพูดให้ หานเว่ยฮุยก็ได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นและเอ่ยขึ้นด้วยตัวเองว่า “คุณชายหลิง พวกเรามาที่นี่เพื่อขอให้คุณชายช่วยเหลือ!”
“ข้ารู้!” หลิงตู้ฉิงตอบกลับ “ตั้งแต่ที่ข้าเห็นว่าพวกเจ้ามากันเยอะแยะขนาดนี้ ข้าก็รู้ว่าพวกเจ้าต้องการอะไร เอาล่ะเนื้อชิ้นสุดท้ายย่างเสร็จแล้วเช่นกัน ถ้างั้นพวกเราก็ไปกันที่เขตแดนหมอกด้านหลังสำนักกันเถอะ!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ทุกคนต่างก็รู้สึกตกตะลึงและคิดในใจ ทำไมชายผู้นี้ถึงพูดง่ายนัก?
พวกเขาทุกคนต่างเตรียมใจกันมาเรียบร้อยว่าจะต้องโดนเรียกราคามหาศาล และคงต้องยอมขอขมายอมรับผิดที่พวกเขาเคยทำ
เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงตู้ฉิงเช่นนั้น หานเว่นฮุยก็รีบพูดขึ้นทันที “คุณชายหลิง ก่อนหน้านี้เป็นพวกเราที่ผิดเอง โปรดรับอาวุธระดับนภาครามชิ้นนี้แทนคำขอโทษของพวกเราด้วย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)