อันที่จริงหยินฮูและหยาฉีนั้นไม่ได้ต้องการที่จะยอมรับพวกมนุษย์ในทะเลชางหมางมาเข้าร่วมกับพวกตัวเองสักเท่าไหร่ แต่พวกเขาไม่มีทางเลือก
ในตอนแรกที่พวกเขาเข้ามาในทะเลชางหมาง พวกเขาเข้ามาด้วยความเหนือกว่าของกองกำลังสัตว์อสูรที่นำมาด้วยถึง 1,000 ตน ซึ่งแต่ละตนล้วนอยู่ในระดับสวรรค์สามัญทั้งหมด พวกเขาสามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้าได้จนไม่เหลือหลอและไม่มีอาณาจักรไหนของทะเลชางหมางสามารถต่อต้านได้
ส่วนบรรดาขุมกำลังอื่น ๆ ที่มีที่มาจากขุมกำลังด้านนอกทะเลชางหมางที่เห็นเหตุการณ์นี้เช่นกันก็ไม่กล้าที่จะแทรกแซงขัดขวาง ทำได้แต่หลีกทางให้เพราะไม่มีใครอยากจะมีปัญหากับสันเขาหมื่นอสูร ซึ่งเป็นขุมกำลังมหาอำนาจที่อยู่ด้านนอก
แต่แล้วในขณะที่พวกเขากำลังได้ใจและบุกไปข้างหน้าอย่างเมามัน สถานการณ์ทุกอย่างกลับพลิกผัน เมื่อในที่สุดพวกเขาได้มาเจอกับบรรดากองทัพของอาณาจักรจันทรา
กองทัพแรกที่สันเขาหมื่นอสูรเผชิญหน้าก็คือกองทัพมังกร หลังจากที่กองทัพมังกรกลายเป็นร่างเป็นมังกรยักษ์ ร่างของมังกรที่พวกเขาเผชิญมันกลับมีพลังแห่งกฎอยู่ถึง 17 รูปแบบ ซึ่งมันแข็งแกร่งมากจนแม้แต่พิษของเผ่าอสรพิษนั้นก็ไม่สามารถทำอันตรายร่างของมังกรได้แม้แต่น้อย ด้วยความแข็งแกร่งของมังกรที่เหนือชั้นกว่าโดยสิ้นเชิง หากไม่ใช่ว่าพวกเขามีกองกำลังที่อยู่ในระดับสวรรค์สามัญ 1,000 ตน ซึ่งรวมตัวกันต้านทานอย่างเหนียวแน่น พวกเขาคงถูกมังกรยักษ์กินไปหมดเรียบร้อยแล้ว
ถัดมากองทัพที่สองที่พวกเขาเผชิญก็ทารุณพวกเขาเป็นอย่างมากเช่นกัน
กองทัพนี้มีคนอยู่เพียงน้อยนิดและผู้นำของกองทัพนี้ก็คือผู้ใช้พิษที่ช่ำชองจนพวกเขาต้องขนหัวลุก แม้แต่เผ่าอสรพิษที่คิดว่าพิษของตัวเองรุนแรงแล้วยังไม่สามารถใช้พิษทำอันตรายผู้นำกองทัพนี้ได้ แต่ในทางกลับกัน ทุกครั้งที่ผู้ใช้พิษผู้นี้ลงมือกับพวกเขา บรรดาเผ่าอสรพิษกลับต้องคอยต้านทานพิษของฝั่งตรงข้ามที่ปล่อยออกมากันอย่างจ้าละหวั่นเพราะไม่อย่างนั้นแล้วทั้งกองทัพก็คงมอดม้วยกันไปทั้งหมด
จากนั้นรอบล่าสุดของการปะทะ พวกเขาก็ได้เจอกับชายร่างอ้วนผู้หนึ่งที่โหดเหี้ยมราวกับปีศาจที่ผุดขึ้นมาจากนรก
ชายร่างอ้วนผู้นี้ไม่ใช้ค่ายกล ไม่มีกองทัพที่ดูอลังการห้อมล้อม ไม่มีพิษที่น่าขนลุก สิ่งที่ชายร่างอ้วนผู้นี้ทำก็คือการกิน! ทันทีที่ชายร่างอ้วนผู้นี้พองตัวขยายขึ้นจนร่างของเขาสูงกว่า 20 เมตร ชายร่างอ้วนก็อ้าปากกว้างและดูดกลืนเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ใน 100 เมตรเข้าไปในปาก
ชายร่างอ้วนผู้นี้สามารถกินสัตว์อสูรได้ทุกประเภทและกินได้เรื่อย ๆ ต่อให้เขากินเผ่ามนุษย์หินตัวโตไป 10 กว่าตนเขาก็ยังไม่อิ่ม! และยิ่งไปกว่านั้นแม้กระทั่งเมื่อเขากินบรรดาเผ่าอสรพิษเข้าไปเป็น 10 ตน เขาก็ยังดูไม่มีผลกระทบอะไรจากพิษด้วยซ้ำ
ที่สำคัญที่สุดก็คือมันยังมีผู้เชี่ยวชาญอีกหลายคนของอาณาจักรจันทราที่ยังไม่ได้ลงมือ ซึ่งพวกเขาก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องเผชิญอะไรอีกบ้าง
แต่เอาแค่ศึกที่ผ่านมาเพียงไม่กี่ครั้งกับอาณาจักรจันทรา แค่นี้มันก็ทำให้หยินฮูและหยาฉีขนหัวลุกไม่รู้จักจบจักสิ้นแล้ว
เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาก็รู้สึกกังวลเป็นอย่างมากกับภารกิจที่บุตรแห่งคุนเป้งมอบให้กับพวกเขา
เนื่องจากถ้าพวกเขาทำภารกิจนี้ไม่สำเร็จ พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะกลับไปเผชิญหน้ากับเจ้านายพวกเขาเช่นกัน
ดังนั้นตอนนี้ หยินฮูและหยาฉีจึงคิดแผนการหนึ่งขึ้นมาก็คือให้บรรดามนุษย์ที่ยอมมาสวามิภักดิ์กับพวกเขาให้เป็นกองหน้าในการบุกตะลุยสู้กับกองทัพของอาณาจักรจันทราก่อน
เนื่องจากพวกเขาไม่สนใจในชีวิตมนุษย์เท่าไหร่อยู่แล้ว ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ฝั่งไหนที่ตายพวกเขาก็ได้รับประโยชน์หมด
แต่ในทางกลับกัน สถานการณ์เช่นนี้กลับทำให้หลิงยี่เทียนเริ่มหนักใจ เนื่องจากสายเลือดของเขาคือผู้ปกครองและปกป้องเหล่ามวลมนุษย์ทั้งหมดในโลก เขาไม่อาจปล่อยให้พวกสันเขาหมื่นอสูรใช้วิธีการให้มนุษย์มาห้ำหั่นกันเองได้
ดังนั้นหลิงยี่เทียนจึงตอบโต้โดยการส่งสารท้ารบไปยังหยินฮูและหยาฉี ให้ส่งกองทัพของพวกเขาเองมาต่อสู้ตัดสินกันทีเดียวให้รู้เรื่อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)