หยินฮูมองไปยังหลิงฉุยฟง หลิงยี่เทียน และคนอื่น ๆ รวมไปถึงทหารอีก 300 นายที่เดินออกมาประจันหน้ากับเขาด้วยสีหน้างุนงง
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ทางฝั่งของเขาจะได้รับความสูญเสียจากกองทัพมังกร หลูหลิง และ เก๋าหยู แต่พวกเขาก็ยังมีกันเหลืออีกกว่า 800 ตน
หรือถ้าจะให้พูดอีกอย่างก็คือ ทางฝั่งพวกเขามีอสูรระดับสวรรค์สามัญกว่า 800 ตน ซึ่งทางฝั่งอาณาจักรจันทราในตอนนี้กลับมีคนแค่ 300 กว่าคนเท่านั้นที่เข้าร่วมสมรภูมิรบนี้
เขาไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าฝั่งอาณาจักรจันทราต้องการจะทำอะไรถึงได้ส่งคนออกมาน้อยแค่นี้
แต่ถึงแม้ว่าเขาจะสงสัย เขาก็ไม่มีนิสัยหวาดกลัวอะไรง่าย ๆ ดังนั้นในเมื่อตอนนี้เขาได้เข้ามาอยู่ในสนามรบแล้ว เขาก็เตรียมใจที่จะสู้จนสุดชิวิต
หยินฮูตะโกนขึ้นไปหาหลิงยี่เทียน “ในฐานะที่พวกเจ้ามีความสามารถอยู่บ้าง ข้าจะให้โอกาสรอดสุดท้ายกับพวกเจ้า จงยอมจำนนต่อสันเขาหมื่นอสูรและเข้าร่วมกับพวกเราซะ แล้วพวกข้าจะยกโทษให้กับความผิดที่พวกเจ้าเคยก่อ!”
หลิงยี่เทียนหัวเราะเยาะ “เก็บลิ้นที่เจ้าพูดไว้ให้พวกข้ากินหลังจบศึกจะดีกว่า!”
เมื่อพูดจบ หลิงยี่เทียนก็นำกำลังคนทั้งหมด 300 กว่าชีวิตบุกเข้าหาหยินฮูก่อนทันที
เมื่อเห็นภาพเช่นนี้ หยินฮูก็รู้สึกทั้งงุนงงและเดือดดาลในเวลาเดียวกัน
เห็นชัด ๆ กันอยู่ว่าพวกเขามีกำลังคนมากกว่า 800 ตน และพวกเขาทุกตนมีระดับการบ่มเพาะอยู่ในระดับสวรรค์สามัญอีกต่างหาก แต่อาณาจักรจันทราที่มีเพียง 300 กว่าคนแถมมีไม่กี่คนที่อยู่ในระดับสวรรค์สามัญ คนเหล่านี้กลับพุ่งเข้ามาหาพวกเขาก่อนแบบนี้ได้ไง?
ถึงแม้ว่าหยินฮูจะไม่เข้าใจความคิดของพวกอาณาจักรจันทรา แต่เมื่อศัตรูบุกเข้ามาแล้วเขาก็จำเป็นต้องออกคำสั่งให้ทางฝั่งเขาเตรียมรับมือ
เผ่าอสรพิษเริ่มโจมตีโดยการปล่อยหมอกพิษไปยังกลุ่มของหลิงยี่เทียน พร้อมกับที่เหล่ามนุษย์หินอีกกว่า 200 ตนทำการกลั้นหายใจตัวเองและโคจรพลังทำให้ผิวหนังของตนเองแข็งแกร่งจนแม้แต่อาวุธระดับสวรรค์ยังไม่สามารถทำอันตรายอะไรได้ และพุ่งเข้าไปแฝงตัวในหมอกพิษพร้อมกับบุกไปข้างหน้าตามทิศทางของหมอก
หลังจากนั้นทางด้านของเผ่ามนุษย์ต้นไม้ พวกเขาต่างก็ใช้ทักษะประจำเผ่าของตัวเองสร้างหนามไม้ขึ้นใต้พื้นดินไปทั่วสนามรบ
ส่วนทางด้านของเผ่ามนุษย์วิหค พวกเขาบินขึ้นไปบนฟ้าด้วยความเร็วสูง และใช้ความเร็วของตนเองบินฉวัดเฉวียนอยู่เหนือหัวกลุ่มของหลิงยี่เทียน พร้อมกับปล่อยการโจมตีระยะไกลต่าง ๆ มากมายลงไปด้านล่าง
ในเมื่อการรบแตกหักได้เริ่มแล้ว พวกเขาจึงงัดเอาการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของตัวอัดเข้าใส่หลิงยี่เทียนก่อน คาดหวังให้จักรพรรดิอาณาจักรจันทราผู้นี้ตายลงตั้งแต่แรกเริ่มการรบ
แต่แล้วเมื่อถึงช่วงเวลาที่กลุ่มของมนุษย์หินพุ่งเข้าถึงตัวของหลิงยี่เทียน จู่ ๆ ดอกไม้อันงดงามสีแดงโลหิตมากมายก็ปรากฏขึ้นเต็มไปทั้งสนามรบ
เมื่อเห็นภาพนี้ หยินฮูก็รู้สึกตกตะลึงและคิดในใจว่าทำไมดอกไม้นี้มันถึงดูคุ้น ๆ ตา?
แต่ถึงแม้ว่าเขายังคิดไม่ออกว่ามันคือดอกไม้อะไร เขาก็รู้ได้ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ดีงามสำหรับพวกเขา ดังนั้นเขาจึงสั่งการกำจัดต้นตอของปัญหาทันที
หยินฮูชี้ไปทางโจวจื่อซินที่อยู่แนวหลัง และตะโกนว่า “จับนางมาให้ข้าเดี๋ยวนี้!”
มนุษย์วิหคกว่า 50 ตน บินด้วยความเร็วสูงไปหาโจวจื่อซินทันทีหลังจากได้ยินคำสั่ง พวกมันบินพุ่งไปหานางราวกับลูกธนูที่ออกจากคันศร
โจวจื่อซินเห็นภาพเช่นนี้ก็เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “อย่ามาหาข้าแบบนี้สิ เดี๋ยวนี้ข้าไม่กินเนื้อแล้วนะ!”
เมื่อพูดจบ ร่มขนาดยักษ์ก็กางขึ้นปกคุลมรอบตัวนาง
มนุษย์วิหคกว่า 50 ตนที่บินพุ่งเข้ามาหานางด้วยความเร็วสูง เมื่อพวกมันชนเข้ากับร่มยักษ์นี้ พวกมันก็รู้สึกเหมือนว่าพวกมันได้ชนเข้ากับเบาะนุ่นขนาดยักษ์และกระเด็นกลับออกไป ซึ่งพวกมันไม่สามารถสร้างความเสียหายอะไรให้ได้เลย
“ร่มต้านสวรรค์!” หยินฮูแหกปากร้องทันที
เขารู้ทันทีว่าหากยังมีร่มนี้ปกป้องอยู่ มันไม่มีทางที่พวกเขาจะทำอะไรกับโจวจื่อซินได้แน่นอน และด้วยสิ่งนี้มันยิ่งทำให้เขาสงสัยว่าพวกคนอาณาจักรจันทรามันเป็นใครกันแน่ถึงสามารถมีของวิเศษเช่นนี้ไว้ในครอบครองได้?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)