มู่หลงหยาน และคนอื่น ๆ เมื่อได้เห็นภาพเช่นนี้ก็ตกอยู่ในสภาวะงุนงง
ตั้งแต่ที่พวกเขาเข้ามาในตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียน พวกเขาก็ได้เห็นหลิงตู้ฉิงคุยกับสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์มากมายและต่อมาก็คุยกับดอกบัวเพลิงพิพากษา
และในท้ายที่สุดตอนนี้ หลิงตู้ฉิงก็คุยกับต้นไม้ที่ไม่ธรรมดาต้นนี้แถมยังได้รับกิ่งของมันมาอีก
ต้นไม้ที่สามารถให้ออกผลเป็นสมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์ได้ กิ่งของมันจะทรงอำนาจถึงขนาดไหนกัน?
แม้แต่หลิงตู้ฉิงก็ยังรู้สึกอึ้งกับเหตุการณ์นี้ เนื่องจากเขาเข้าใจเป็นอย่างดีว่ากิ่งไม้นี้ทำอะไรได้บ้าง
“โชคของไอ้หนูนั่นช่างดีจริง ๆ ถึงขนาดได้รับกิ่งของเจ้า” หลิงตู้ฉิงยิ้มให้กับต้นเทวะศาสตรา
ต้นเทวะศาสตราเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงมีความสุขว่า “เขาจะได้รับมันจริง ๆ รึเปล่ามันก็คงต้องขึ้นอยู่กับโชคชะตาของเขาอีกที เอาล่ะตอนนี้ท่านเรียกคนของท่านเข้ามาหาข้าได้แล้ว เมื่อเสร็จธุระข้าจะได้จากไปสักที”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า จากนั้นเขาหันไปบอกกับคนของเขาทันที “พวกเจ้าทุกคนสามารถเดินเข้ามาได้ แต่ผลประโยชน์ที่พวกเจ้าจะได้รับมันขึ้นอยู่กับดวงของพวกเจ้า”
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนี้ต่างก็มองหน้ากันด้วยความลังเล พวกเขาทุกคนอยากเดินเข้าไป แต่ไม่มีใครรู้ว่าควรให้ใครเดินเข้าไปก่อนดี
“ท่านป้า ทำไมท่านไม่เข้าไปก่อนเป็นคนแรกล่ะ? ท่านอาวุโสที่สุดในหมู่พวกเราดังนั้นท่านเหมาะที่สุดที่จะได้เข้าไปรับประโยชน์ก่อนเป็นคนแรก” เสี่ยหนานเทียนพูดกับมู่หลงหยานด้วยรอยยิ้ม
“ใช่แล้วท่านแม่ ท่านเข้าไปก่อนเลย!” เย่ชิงเฉิงหัวเราะ
เมื่อได้ยินทุกคนเอ่ยปากเช่นนี้ มู่หลงหยานก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพว่า “ขอบคุณพวกเจ้ามาก งั้นข้าขอเข้าไปคารวะผู้อาวุโสก่อนเป็นคนแรกก็แล้วกันนะ”
ถึงแม้ว่านางจะเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิ แต่ในเวลาที่นางเดินเข้ามาหาต้นเทวะศาสตรา นางกลับเดินเข้ามาด้วยกิริยาท่าทางสุภาพที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จากนั้นนางโค้งตัวคำนับและพูดว่า “ขอคารวะท่านผู้อาวุโส”
ต้นเทวะศาสตราไม่ได้ตอบกลับอะไรกลับ แต่มันส่งไม้บรรทัดหยกสีเขียวดำลอยไปหามือของมู่หลงหยานแทน
ไม้บรรทัดหยกสีเขียวดำนี้มีความยาวประมาณ 1 ฟุต ซึ่งถ้าหากดูจากภายนอกมันไม่มีความพิเศษอะไรเลย
แต่ไม่ว่ามันจะดูเป็นยังไง เมื่อได้รับมามู่หลงหยานก็โค้งคำนับอีกครั้งและพูดว่า “ขอบคุณผู้อาวุโส!”
เมื่อพูดจบนางก็เดินออกมาทันที
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เลว มีโชคถึงขนาดได้รับอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง เอาล่ะคนที่เหลือรีบทยอยกันเดินเข้ามาได้แล้ว ถ้าพวกเจ้ามัวแต่ช้ากัน พวกเจ้าอาจจะพลาดโอกาสได้!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เสี่ยหนานเทียนรีบวิ่งเข้ามาที่หน้าต้นเทวะศาสตราทันทีและพูดว่า “ท่านปู่ต้นไม้ ข้าเป็นคนของสำนักเบญจธาตุสาขาธาตุไม้และข้าได้บ่มเพาะเคล็ดวิชาของจักรพรรดิพฤกษา ข้าขอร้องท่านปู่มอบสมบัติที่เหมาะสมที่สุดให้กับข้าด้วยเถอะ”
ใบไม้ขนาดเท่าฝ่ามือใบหนึ่งร่วงหล่นลงมาที่มือของเสี่ยหนานเทียนทันทีหลังจากที่เขาพูดจบ ซึ่งเขาก็เดินถือมันกลับมาด้วยความสงสัยในใจ
จากนั้นทุกคนก็ทยอยกันเดินเข้ามาหาต้นเทวะศาสตรากันทีละคน ซึ่งทุกคนต่างก็ได้รับสมบัติกันไปคนละชิ้น
เย่ชิงเฉิงได้รับหยดน้ำหยดหนึ่ง ซึ่งหยดน้ำนี้ได้ถูกส่งเข้าไปหลอมรวมที่คันฉ่องสวรรค์หยินหยางของนาง ส่งผลให้อำนาจของมันเพิ่มมากขึ้นนับพันเท่า!
หลงเฉินได้รับหยดเลือดของมังกรระดับสูง เสี่ยวเยว่เฟิงได้รับขนนกที่มีเปลวเพลิงลุกท่วม หยุนจื่อรุ่ยและเปียนเฉียวเฉียวได้รับกระบี่คู่แบ่งไปคนละเล่ม
โม่เอ๋อได้รับหยดน้ำ ซึ่งหยดน้ำหยดนี้ทำให้นางถึงกับร้องไห้โฮออกมา
ตั้งแต่เด็ก ๆ นางคือคนที่มีพรสวรรค์ไม่มากเท่าไหร่ การที่นางสามารถบ่มเพาะมาได้ถึงระดับปัจจุบันนี้ก็เป็นเพราะความมุมานะของนางรวมไปถึงการได้มาเจอกับหลิงตู้ฉิง แต่แล้วเมื่อนางได้รับหยดน้ำนี้มาและหลอมรวมเข้ากับมัน นางก็สัมผัสได้ทันทีว่าศักยภาพของนางได้รับการพัฒนาขึ้นและส่งผลให้นางสามารถบ่มเพาะไปยังระดับที่สูงกว่านี้ได้อีกเรื่อย ๆ
ท้ายที่สุด หลิงตู้ฉิงก็ได้ให้ทาสรับใช้ของเขาที่ติดตามมาเดินเข้าไปหาต้นเทวะศาสตราเพื่อรับสมบัติด้วย ซึ่งทาสของเขาก็รับอาวุธระดับจักรพรรดิขั้นสูงมาคนละชิ้น
หลังจากที่ทุกคนได้รับสิ่งของกันจนครบแล้ว ต้นเทวะศาสตราก็หายไปจากสายตาของทุกคนทันที
ในตอนนี้ทุกคนต่างมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มดีใจกันเป็นอย่างมากที่พวกเขาได้รับสมบัติระดับสูงกันมาคนละชิ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)