ในขณะนี้หลิงตู้ฉิงได้มายืนมองไปที่ด้านหน้าภูเขาจำลอง ซึ่งมีช่องปริศนาอยู่ 3 รูปรากฏให้เห็นและมองไปที่กุญแจตำหนักที่อยู่ในมือของตัวเอง
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดกับคนอื่น ๆ ว่า “หมดสถานที่ให้พวกเราสำรวจแล้วตอนนี้ พวกเรากลับไปที่ห้องโถงใหญ่เพื่อสะสางเรื่องต่าง ๆ ก่อนก็แล้วกัน”
เนื่องจากเขาไม่มีกุญแจอีก 2 ดอกที่จะสามารถทำให้เขาเปิดคลังสมบัติของตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียนได้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากไปสะสางเรื่องอื่น ๆ ก่อน
เมื่อทุกคนได้เดินกลับเข้าไปในห้องโถงใหญ่ของตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียน ทุกคนก็ได้เห็นว่าในขณะนี้เย่เจียงไห่ได้นั่งอยู่บนบัลลังก์ด้วยสีหน้าหดหู่
ถึงแม้ว่าเย่เจียงไห่จะสามารถบ่มเพาะเพลิงหนานหมิงได้สำเร็จและเข้ามาในห้องโถงใหญ่ได้ แต่ทุกอย่างมันก็สายเกินไปเสียแล้ว
ในตอนนี้ทั้งเตาเพลิงศักดิ์สิทธิ์และตำหนักของเขาต่างก็ตกไปอยู่ในมือคนอื่นเรียบร้อย
เขาคือผู้ที่เป็นเจ้าของที่แท้จริงจะไปมีความสุขอยู่ได้ยังไงกัน?
แต่แล้วเมื่อเขาเห็นว่าตัวการที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ได้โผล่หน้ามาให้เห็น เย่เจียงไห่ก็ลุกขึ้นและมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าเย็นชาทันที
“เอ๋? พี่สามนี่ท่านเข้ามาในนี้ได้ยังไงกัน?” เย่ชิงเฉิงถามขึ้นด้วยสีหน้างุนงง
มู่หลงหยานก็มองไปที่เย่เจียงไห่ด้วยสีหน้าสงสัยและถามขึ้นว่า “เจียงไห่ ทำไมแม่ถึงไม่สามารถมองเห็นระดับการบ่มเพาะของเจ้าได้ชัดเจนแบบนี้กัน? เจ้าไปได้รับอะไรมางั้นเหรอ? ทำไมแม่สัมผัสได้ราง ๆ ว่าตอนนี้เจ้าอยู่ในขอบเขตจักรพรรดิแล้ว?”
เย่เจียงไห่ยังคงไม่ตอบกลับใด ๆ เหมือนเดิม เนื่องจากในตอนนี้เขายังคงรู้สึกหดหู่ใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ไอ้หนู ข้าเคยบอกเจ้าแล้วใช่ไหมว่าการติดค้างข้ามันไม่ใช่เรื่องที่สมควรนัก”
เย่เจียงไห่เชิดคอขึ้นและพูดว่า “ข้าแค่ติดค้างพริกหยกเพลิงเจ็ดสีเท่านั้น แต่เจ้ากลับยึดครองตำหนักของข้าแถมยังขโมยเตาของข้าไปอีกต่างหาก เจ้าไม่คิดว่าการกระทำของเจ้ามันเกินไปหน่อยหรือยังไง?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้คนอื่น ๆ ก็อึ้งไปตาม ๆ กัน
มู่หลงหยานรีบถามขึ้นทันที “นี่เจ้าเป็นเจ้าตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียนงั้นเหรอ?”
เย่ชิงเฉิงก็ถามขึ้นเช่นกัน “พี่สาม นี่ท่านเป็นเจ้าตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียน?”
เย่เจียงไห่เอ่ยขึ้นด้วยอารมณ์หงุดหงิดว่า “อย่าเพิ่งมาเรียกข้าว่าพี่สาม! หากเจ้าต้องการให้ข้านับว่าเจ้าเป็นน้องจริง ๆ เจ้าก็จงบอกให้สามีของเจ้าคืนของของข้ามาซะ!”
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ไอ้หนู เรามาคุยกันดี ๆ ก่อนดีกว่า”
“ข้าไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับเจ้า! จงคืนตำหนักและเตาของข้ามาซะ!” เย่เจียงไห่พูดด้วยอารมณ์เดือดดาล
“เจ้าจะไม่คุยจริง ๆ งั้นเหรอ?” หลิงตู้ฉิงมองไปที่เย่เจียงไห่ และถามขึ้นอีกรอบ
เย่เจียงไห่มองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าบึ้งตึงอยู่สักพัก จากนั้นเขาก็ตอบว่า “คุยก็คุย!”
เขาจะกล้าตอบได้ยังไงว่าไม่คุย? ถ้าเขาไม่คุยเขาก็คงไม่ได้ของของเขาคืนแน่นอน แต่ถ้าหากเขาคุยมันก็ยังคงพอมีโอกาสบ้าง
หลิงตู้ฉิงโบกมือและพูดกับคนอื่น ๆ ว่า “รอข้าตรงนี้ ข้าขอไปคุยกับเขาก่อน”
มู่หลงหยานและเย่ชิงเฉิงยิ้มอย่างมีเลศนัย ในที่สุดตอนนี้พวกนางก็เข้าใจในคำพูดที่หลิงตู้ฉิงเคยเอ่ยว่า ‘อย่าได้แปลกใจหากได้พบกับเจ้าของตำหนักตัวจริง’ เพราะที่แท้เจ้าตำหนักผู้นั้นมันก็คือ เย่เจียงไห่ ของพวกนางนี่เอง
แต่พวกนางก็ยังคงแปลกใจว่าทำไมเย่เจียงไห่ถึงกลายเป็นเจ้าตำหนักไปได้กัน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)