ผ่านมาเป็นเวลาเนิ่นนานแล้วที่คฤหาสน์สราญรมย์นั้นไม่ได้รับแขกจากต่างแดนที่ห่างไกล
ตอนนี้ชายหนุ่มระดับสวรรค์สามัญสองคนกำลังยืนแสดงสีหน้าภาคภูมิอยู่กลางห้องโถงคฤหาสน์สราญรมย์ ซึ่งหลิงยู่ชานและคนอื่น ๆ กำลังมองไปที่พวกเขาด้วยสีหน้าสับสน
“น้องสาม เจ้าตัดสินใจได้รึยัง?” ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้น “เมื่อในอดีต พ่อแม่ของพวกเราถูกศัตรูตามล่าจนมาถึงทะเลชางหมางและเมื่อพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นพวกเขาจึงตัดสินใจวางเจ้าทิ้งไว้หน้าเรือนของใครของสักคน จากนั้นพวกเขาจึงล่อเหล่าศัตรูให้ติดตามพวกเขาไปอีกทาง หวังว่าเจ้าจะมีชีวิตรอด”
“และต่อมาเมื่อพ่อแม่ของเรากลับไปหาเจ้าอีกครั้ง เจ้าก็หายไปแล้ว ซึ่งพวกเราคิดว่าเจ้าคงตายไปแล้ว พวกเราไม่คาดคิดเลยว่าเจ้ายังมีชีวิตรอดอยู่ สันเขาทรราชของพวกเราเป็นกลุ่มกองกำลังที่นับได้ว่าแข็งแกร่งเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ทำไมเจ้าถึงยังลังเลคิดถึงเรื่องการรั้งอยู่ในสถานที่เล็ก ๆ เช่นนี้อีก?”
“แน่นอนว่าข้ารู้ว่าพวกเขาเลี้ยงดูเจ้ามาและเจ้าคงคิดที่จะตอบแทนพวกเขา ซึ่งอันที่จริงแล้วเจ้าจะพาพวกเขาไปอยู่ร่วมกับเจ้าที่สันเขาทรราชก็ได้ ข้ารับประกันได้ว่าพวกเขาจะมีความเป็นอยู่ที่ดีและมีแต่ผู้คนให้เกียรติ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิงยู่ชานก็ยังคงไม่ตอบอะไร เนื่องจากเขากำลังรู้สึกสับสนอยู่
ชีวิตในตอนนี้ของเขาสามารถพูดได้ว่าเขามีความสุขและพึงพอใจมากที่สุดอยู่แล้ว แต่แล้วจู่ ๆ กลับมีพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเขามาตามหาเขา ซึ่งมันทำให้เขาสับสน
ส่วนเรื่องที่พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเขานั้นรู้ได้อย่างไรว่าเขาอยู่ที่นี่นั้นก็เพราะจากคำบอกเล่าของพี่ชายของเขาทั้งสองที่มาเกลี้ยกล่อมเขาอยู่ตอนนี้เล่าให้ฟังว่า
ก่อนหน้านี้ในตอนที่ตัวของเขาอยู่ในสนามรบ ในตอนนั้นเขาได้ปะทะกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาระดับ 10 ที่แข็งแกร่ง ซึ่งมันทำให้เขาไม่มีทางเลือกนอกซะจากต้องเปิดใช้พลังแห่งสายเลือดของเขาเองในการต่อสู้และสถานการณ์ตอนนั้นมันก็มีผู้คนจำนวนมากได้เห็น
หนึ่งในผู้คนที่เห็นในวันนั้นก็คือคนของสันเขาทรราชด้วยเช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่าการที่เขาเปิดเผยสายเลือดทรราชสวรรค์มันจะต้องเตะตาผู้คนของสันเขาทรราช
หลังจากนั้นเมื่อเรื่องการเจอตัวผู้มีสายเลือดทรราชสวรรค์ถูกส่งกลับไปที่สันเขาทรราช บรรดาผู้คนของสันเขาทรราชก็เริ่มทำการสืบสวนเรื่องนี้ทันที ซึ่งสุดท้ายมันก็ไปตรงกับเรื่องของเทียนซ่งหยูและภรรยาที่พลัดพรากกับลูกชายในทะเลชางหมางเมื่อครั้งอดีต
ดังนั้นเมื่อสืบทราบได้ขนาดนี้ คนของสันเขาทรราชก็แจ้งข่าวนี้ให้กับเทียนซ่งหยูและภรรยาของเขาให้ได้ทราบ ซึ่งเทียนซ่งหยูและภรรยาเมื่อรู้ข่าวก็รีบเดินทางมาที่อาณาเขตนภาด้วยความตื่นเต้นทันที แต่น่าเสียดายที่ในตอนนี้พวกเขาทั้งคู่นั้นมีระดับการบ่มเพาะที่สูงเกินกว่าจะเข้ามาในทะเลชางหมางได้ พวกเขาจึงได้แต่รออยู่ด้านหน้าและลูกชายของตนเองอีก 2 คนเข้ามาแทน
นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมจึงมีแค่เทียนฟางและเทียนคงเท่านั้นที่มาปรากฏตัว
ในตอนแรก หลิงยู่ชานก็ไม่เชื่อเรื่องนี้เช่นกัน
แต่จากนั้นเมื่อเทียนฟางและเทียนคงเปิดใช้งานสายเลือดของพวกเขาเองให้กับหลิงยู่ชานดู มันก็กลับกลายเป็นว่าพวกเขามีสายเลือดเดียวกันบวกกับที่เรื่องราวต่าง ๆ มันช่างประจวบเหมาะกับภูมิหลังในอดีตของเขาตอนที่เขาพอจะจำความได้ว่าตัวเองถูกทิ้ง มันจึงทำให้เขาเริ่มเชื่อขึ้นมา
ในตอนนี้เมื่อพวกเขาพูดคุยกันไปสักพัก เทียนฟางและเทียนคงก็ต้องการที่จะพาตัวหลิงยู่ชานกลับไปที่สันเขาทรราชกับพวกเขา
เทียนฟางหัวเราะ “น้องสาม เนื่องจากท่านพ่อกับท่านแม่มีความแข็งแกร่งมากเกินไปที่จะเข้ามาที่ทะเลชางหมางได้ ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงจะมาอยู่ตรงหน้าเจ้าแล้ว ข้าจะบอกเจ้าให้ว่าตั้งแต่ที่เจ้าหายตัวไป ท่านแม่โทษตัวเองและเป็นทุกข์อยู่ทุกวัน นางพยายามส่งคนมาตามหาเจ้าในทะเลชางหมางอยู่นับสิบครั้งในเวลาที่ผ่านมานี้ ไม่ว่าจะยังไงเจ้าก็ควรที่จะออกไปพบท่านพ่อและท่านแม่สักหน่อย แต่ถ้าหากเจ้ากลัวว่าความเป็นอยู่ของเจ้าจะแย่ลงเมื่อออกไปอยู่กับพวกเรา ข้าขอบอกเจ้าตรงนี้เลยว่ามีไม่กี่ตัวตนบนโลกนี้ที่กล้าล่วงเกินตระกูลเทียนของพวกเรา!”
หลิงฟ่างหัวถามขึ้นแทรก “ถ้าหากตระกูลของเจ้ายิ่งใหญ่จริงอย่างที่เจ้าว่า ทำไมในอดีตถึงถูกไล่ล่าจนถึงขนาดทิ้งพี่ใหญ่ของข้าเอาไว้?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)