เมื่อเห็นความโกรธเกรี้ยวของหลิงตู้ฉิง อู๋หลิงซีก็ได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่น
อันที่จริงตั้งแต่แรกที่เขาพาหลิงว่านถิงมาถึงสำนักเต๋าสวรรค์ เขาก็ได้บอกกับเหล่าผู้คนในสำนักแล้วว่า หลิงตู้ฉิงได้ฝากคำเตือนอะไรมาบ้าง ซึ่งน่าเสียดายที่ไม่มีใครใส่ใจในคำเตือนต่าง ๆ เลย
จนสุดท้ายเขาทำแม้กระทั่งเปิดเผยว่าหลิงตู้ฉิงเป็นเทพกระบี่ที่กลับชาติมาเกิด ซึ่งมันก็ยิ่งทำให้ผู้คนในสำนักของเขายิ่งไม่สนใจมากเข้าไปอีก
มันมีแม้กระทั่งบางคนที่เอ่ยปากบอกว่า ยุคนี้มันไม่ใช่ยุคของเทพกระบี่อีกต่อไปแล้ว หรือต่อให้เป็นเทพกระบี่มาที่นี่ด้วยตัวเอง พวกเขาก็ไม่กลัวยิ่งไม่ต้องพูดถึงในตอนนี้ที่เป็นเพียงแค่ร่างที่กลับชาติมาเกิดเท่านั้น
และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อหลังจากที่พวกเขาได้รู้ถึงความน่ากลัวของพรสวรรค์ในการทำความเข้าใจเคล็ดวิชาต่าง ๆ ของหลิงว่านถิง นับตั้งแต่นั้นมาพวกเขาจึงให้นางเริ่มทำความเข้าใจเคล็ดวิชาต่าง ๆ ที่พวกเขาเองยังไม่เข้าใจที่เก็บไว้มานานแล้ว เพื่อให้นางช่วยพวกเขา
และนี่จึงเป็นที่มาของการที่หลิงว่านถิงต้องปิดด่านบ่มเพาะอยู่เสมอ ๆ ภายในสำนักเต๋าสวรรค์
อู๋หลิงซีเองก็คาดไม่ถึงเช่นกันว่า หลิงตู้ฉิงจะรู้จักสำนักของเขาดีจนถึงขนาดแค่ได้ยินชื่อวิชาก็เดาได้ถึงความตั้งใจของสำนักเขาว่าต้องการทำอะไรกับหลิงว่านถิง ดังนั้นเขาจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากยิ้มอย่างขมขื่น
“คุณชายหลิง อันที่จริงนี่มันก็ไม่ได้เลวร้ายกับว่านถิงสักเท่าไหร่” อู๋หลิงซีเอ่ยขึ้นโน้มน้าว
สีหน้าของหลิงตู้ฉิงกลายเป็นเย็นชาขึ้นเรื่อย ๆ “ก่อนที่ลูกสาวของข้าจะมาที่สำนักของเจ้า เจ้าเองก็รู้อยู่ว่านางเพิ่งผ่านเรื่องทุกข์ใจมา ซึ่งการที่ข้าให้นางมาที่นี่ก็เพราะว่าต้องการให้นางได้พักผ่อนเพื่อสงบใจไม่ใช่มาช่วยสวะอย่างพวกเจ้า! ในเมื่อพวกเจ้าไม่รู้ว่าอะไรดีกับตัวเองเช่นนี้ ดังนั้นข้าจะพานางกลับไปกับข้า”
โม่หลิงซีรีบเอ่ยขึ้นทันที “คุณชายหลิง ว่านถิงเกิดมากับร่างแห่งเต๋า ดังนั้นสำนักเต๋าสวรรค์ของเราจะขาดนางไม่ได้เป็นอันขาด!”
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิส่ายหัวและพูดว่า “ในตอนนี้นางเป็นศิษย์ของสำนักเราแล้ว เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถนำตัวนางจากไปได้ง่าย ๆ งั้นเหรอ?”
หลิงตู้ฉิงหันไปจ้องด้วยสายตาดุดันทันที “เจ้าพูดว่ายังไงนะ?”
“ข้าบอกว่านางไม่สามารถไปจากที่นี่ได้!” ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่ยินยอม
“หลิงหยุนซี!” อู๋หลิงซีรีบเอ่ยขึ้นปรามทันที
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิที่ชื่อว่า หลิงหยุนซี เอ่ยขึ้นต่อ “ในฐานะที่ข้าเป็นผู้คุมกฎของสำนัก นี่เป็นหน้าที่ของข้าที่ต้องรับผิดชอบดูแล ดังนั้นศิษย์น้องเจ้าจงอยู่เฉย ๆ อย่าได้เข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้!”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา “ในความคิดของข้า สำนักเต๋าสวรรค์ของพวกเจ้ามันสมควรถูกข้าสั่งสอน!”
เมื่อพูดจบ ค่ายกลกระบี่เหินเมฆาก็ถูกเปิดใช้ในทันทีโดยการประสานพลังของเย่จางเฟิงและเล้งเจี้ยนชิว ซึ่งมันส่งผลให้อำนาจของค่ายกลยิ่งเหนือล้ำมากขึ้นจนพื้นที่บริเวณโดยถูกปกคลุมไปด้วยปราณกระบี่อันรุนแรง
อู๋หลิงซีตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าตกตะลึงทันที “คุณชายหลิงหยุดเดี๋ยวนี้!”
หากหลิงตู้ฉิงบุ่มบ่ามลงมือทำอะไรในตอนนี้ มันจะยิ่งทำให้เรื่องราวยิ่งบานปลายมากขึ้นไปอีกไม่ใช่หรือไง?
หลิงหยุนซีเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชาเช่นกัน “เจ้าจะต้องถูกลงโทษที่บังอาจทำตัวกำแหงในสำนักเต๋าสวรรค์ของข้า!”
เมื่อพูดจบ หลิงหยุนซีก็เตรียมรับมือด้วยอาวุธจักรพรรดิที่ปรากฏขึ้นในมือของเขา
ทางด้านของหลิงตู้ฉิงที่ในเวลานี้ยืนอยู่ตรงจุดกึ่งกลางของค่ายกลกระบี่เหินเมฆาก็เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา “ข้าคิดว่าวันนี้สำนักเต๋าสวรรค์ของเจ้าคงไม่รอดจากเงื้อมมือของข้าแน่นอน!”
เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงก็เข้าควบคุมค่ายกลกระบี่และสั่งให้กระบี่บินพุ่งเข้าไปหาหลิงหยุนซีในทันที
กระบี่บิน 7 เล่มพุ่งเข้าไปหาหลิงหยุนซีด้วยความเร็วเหนือบรรยาย จนแม้แต่หลิงหยุนซีก็ไม่อาจต่อต้านอะไรได้ ส่งผลให้ร่างของเขาถูกทะลวงเป็นรูโหว่ถึง 7 จุด!
หลิงหยุนซีกรีดร้องด้วยใบหน้าที่ตื่นตระหนก “กระบี่เจ็ดดาวมรณะ! เจ้าคือเทพกระบี่ตัวจริง!”
นี่คือเพลงกระบี่ที่สามของวิชาดาราโลหิตประสานกระบี่ มีชื่อเรียกว่ากระบี่เจ็ดดาวมรณะ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)