หลังจากที่หลิงตู้ฉิงนั่งลง หลิงหยุนซีก็สัมผัสได้ทันทีว่าภัยคุกคามที่ทำให้เขาก้าวขาไม่ออกค่อย ๆ จางหายลงไป ซึ่งมันเป็นโอกาสทำให้เขารีบพุ่งตัวกลับไปหากลุ่มคนของเขาทันที
จากนั้นเมื่อผ่านไปสักพักและเห็นว่าค่ายกลกระบี่ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร บรรดาผู้คนของสำนักเต๋าสวรรค์ก็ค่อย ๆ จากไปด้วยสีหน้ากังวล
จะมีก็แต่โม่หลิงซีและอู๋หลิงซีที่ยังคงยืนดูค่ายกลกระบี่เหินเมฆาอยู่ด้วยด้วยสีหน้าซับซ้อน
ส่วนสถานการณ์ด้านในค่ายกลกระบี่เหินเมฆานั้น บรรดาผู้คนของหลิงตู้ฉิงก็รู้สึกหวาดกลัวในเจตจำนงที่หลิงตู้ฉิงปลดปล่อยออกมาก่อนหน้านี้เช่นกัน เนื่องจากพวกเขายืนอยู่ใกล้ที่สุด ดังนั้นพวกเขาจึงได้รับความรู้สึกนี้ไปเต็ม ๆ มากกว่าคนของสำนักเต๋าสวรรค์ซะด้วยซ้ำ
หลังจากนั้นเมื่อเวลาผ่านไปกว่า 1 เดือน หลิงตู้ฉิงก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น และพูดกับหลิงว่านถิงว่า “สาวน้อย ในที่สุดพ่อก็เจอเจ้าแล้ว!”
“ท่านพ่อ ท่านเป็นอะไรไป?” หลิงว่านถิงรีบถามขึ้นด้วยสีหน้ากังวล “ทำไมท่านถึงต้องโมโห? ใครกันที่ทำให้ท่านเป็นแบบนี้?”
หลิงตู้ฉิงยิ้มและตอบว่า “หลังจากนี้เจ้ากลับบ้านไปกับพ่อ ในเมื่อไอ้พวกสำนักเต๋าสวรรค์มันไม่เห็นคุณค่าในตัวเจ้า ดังนั้นกลับไปฝึกฝนอย่างสงบกับพ่อจะดีกว่าและเมื่อไหร่ที่เจ้าฝึกกับพ่อจนเสร็จ เจ้าค่อยกลับมาที่นี่เพื่อเป็นนายเหนือหัวของพวกมันโดยตรง พ่อรับประกันว่าหลังจากเหตุการณ์วันนี้ เมื่อเจ้ามาที่นี่อีกครั้งมันจะไม่มีใครกล้าปฏิเสธเจ้าอีกแน่นอน! ว่าแต่เจ้าอารมณ์ดีขึ้นแล้วรึยังหลังจากออกมาจากบ้านได้สักพักแล้วแบบนี้?”
หลิงว่านถิงทำหน้าบูดและพูดว่า “อันที่จริง ที่นี่มันก็ไม่ได้สนุกอะไรเท่าไหร่นัก ตั้งแต่ที่ข้ามาอยู่ที่นี่ พวกเขาก็บอกให้ข้าเอาแต่ปิดด่านบ่มเพาะอย่างเดียวจนไม่ได้เล่นสนุกอะไรเลย”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดว่า “เหล่าคนไม่ได้เรื่องพวกนี้ต้องการแต่จะใช้งานเจ้าให้ช่วยพวกมันเข้าใจวิชาต่าง ๆ ที่พวกมันยังไม่เข้าใจเพียงอย่างเดียว มันทำเหมือนกับว่าเจ้าเป็นม้างาน เจ้าจะไปมีเวลาเล่นสนุกได้ยังไง? หลังจากที่เจ้ากลับไปกับพ่อ หากเจ้าต้องการจะเล่นสนุก เดี๋ยวพ่อจะเป็นคนพาเจ้าออกไปเที่ยวเล่นเอง”
ก่อนที่หลิงว่านถิงจะได้ตอบอะไรกลับไป ที่ด้านนอกค่ายกลกระบี่เหินเมฆาอู๋หลิงซีตะโกนถามขึ้นด้วยน้ำเสียงระมัดระวัง “คุณชายหลิง ท่านพอจะออกมาคุยกับพวกเราสักหน่อยจะได้ไหม?”
เมื่อได้ยินคำขอ หลิงตู้ฉิงจึงเปิดช่องว่างค่ายกลกระบี่ออก จากนั้นเขาตะโกนสวนออกไปห้วน ๆ “อยากคุยก็เข้ามา!”
อู๋หลิงซีเดินเข้าไปด้านในค่ายกลกระบี่พร้อมกับยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนและพูดว่า “คุณชายหลิง เกิดอื่นเลยขอข้าบอกกับท่านเอาไว้ก่อนว่าข้าเองก็ไม่ต้องการที่ให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นเช่นกัน ข้าเองก็ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้มาโดยตลอดแต่น่าเสียดายที่ข้าเองก็ทำอะไรไม่ได้ น้ำหนักคำพูดของข้าเพียงคนเดียวมันไม่เพียงพอที่จะไปโต้แย้งอะไรกับอีกหลายคนที่อยู่ในสำนักเต๋าสวรรค์”
“คนสำนักของเจ้าหลายคนมันไม่ได้เรื่อง!” หลิงตู้ฉิงตอบกลับ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ อู๋หลงซีก็ได้แต่รู้สึกขมขื่นในใจ แต่เขาไม่ได้แสดงมันออกมาทางสีหน้า เขาพูดต่อราวกับว่าเขาไม่ได้ยินคำพูดของหลิงตู้ฉิงที่ตำหนิสำนักของเขา “ข้ารู้ว่าในตอนนี้สายตาของท่านที่มองสำนักของเรามันคงไม่สู้ดีนัก แต่ว่าท่านต้องลองพิจารณาดูสักหน่อยว่า ว่านถิงนั้นมีร่างแห่งเต๋า ซึ่งเหมาะที่จะอยู่กับสำนักของเราที่สุด หากนางไม่อยู่ที่นี่ นางเองก็เสียผลประโยชน์เหมือนกัน ท่านว่าจริงไหม?”
หลิงตู้ฉิงถามขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา “เจ้ายังคิดจะรั้งให้ลูกสาวของข้าอยู่เป็นแรงงานให้พวกเจ้าที่นี่ต่ออีกงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่ ๆ ข้าไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น!” อู๋หลิงซีรีบส่ายหัวทันที “รอบนี้ข้าขอสัญญาเลยว่าพวกเราจะไม่ทำกับนางเหมือนเช่นที่ผ่านมาอีกแล้ว!”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “คำสัญญาของเจ้ามันไร้ค่า!”
“แล้วถ้าหากเป็นคำสัญญาของบรรพบุรุษพวกเราล่ะคุณชายหลิง? ในตอนนี้บรรพบุรุษของพวกเราได้ทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว และท่านก็ได้ทำการลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องไปบ้างแล้วด้วย แถมท่านบรรพบุรุษยังต้องการที่จะหารือกับคุณชายหลิงเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว ไม่ทราบว่าคุณชายหลิงพอจะสะดวกคุยกับท่านบรรพบุรุษของเราก่อนจะได้ไหม?” อู๋หลิงซีรีบพูดขึ้น
“บรรพบุรุษของเจ้าคนไหนที่ต้องการคุยกับข้า?” หลิงตู้ฉิงถามขึ้น
อู๋หลิงซีรีบตอบทันที “เป็นท่านบรรพบุรุษที่ดำรงอยู่ในสำนักของเรามานานที่สุด บรรพบุรุษซวนหยวน!”
หลิงตู้ฉิงอึ้งไปชั่วขณะเมื่อได้ยินชื่อนี้ “ซวนหยวน ยังมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ?”
อู๋หลิงซียิ้มอย่างขมขื่นในใจ จากนั้นเขาอธิบายว่า “ในอดีตบรรพบุรุษซวนหยวนเกือบที่จะสร้างวิถีเต๋าของตนเองได้แล้วแต่ในขั้นตอนสุดท้ายเขากลับล้มเหลว แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้นเขาก็ยังได้รับประโยชน์จากเต๋าที่เขาสร้างไม่สำเร็จอยู่บ้าง ซึ่งมันทำให้เขามีชีวิตยืนยาวมาจนถึงทุกวันนี้! แต่ด้วยเหตุผลที่ท่านบรรพบุรุษมีชีวิตอยู่มาเนิ่นนานเกินไป เขาจึงไม่อาจออกจากสถานที่เก็บตัวได้ ดังนั้นข้าเองคงต้องขอรบกวนคุณชายหลิง ให้ไปพบกับเขาด้วยตนเองสักหน่อย”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “ถ้าเป็นซวนหยวน ข้าจะยอมไปคุยด้วย เอาล่ะเจ้าจงนำทางข้าไปได้เลยตอนนี้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)