หลงเฉินดีใจเป็นอย่างมากที่หลิงตู้ฉิงยอมแวะภูเขาเอ้อหลงตามคำขอของเขา แต่ในระหว่างที่พวกเขาออกจากอาณาเขตสุสานกระบี่ได้พักใหญ่ และเข้าสู่เหวมรณะที่อยู่ใกล้กับอาณาเขตอุดรทมิฬ พวกเขาก็ได้พบกับคนคุ้นหน้า
คนที่พวกเขาพบก็คือ ฉีหานหยู ผู้คุมกฎสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งในตอนนี้กำลังคุยอยู่กับชายปริศนาที่ร่างกายเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหาร
ทางด้านของฉีหานหยู เมื่อเขาเห็นกลุ่มของหลิงตู้ฉิงที่กำลังผ่านมา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมากทันที
“หยุดก่อน!” หลิงตู้ฉิงสั่งหลงเฉินให้หยุดรถ
เมื่อรถหยุด หลิงตู้ฉิงก็มองไปที่ฉีหานหยู และชายปริศนาผู้ซึ่งมีกลิ่นอายสังหารรุนแรง
ชายปริศนาผู้ซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหาร เอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา “เจ้ามองมาที่พวกข้าหาอะไร?”
หลิงตู้ฉิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าหยอกล้อ “มันนานมากแล้วตั้งแต่ที่ข้าได้พบกับมือสังหารจากตำหนักดับเซียนครั้งล่าสุด ข้าเลยหยุดแวะมองสักหน่อย!”
สำหรับเขาและตำหนักดับเซียนนั้นถือได้ว่ามีบ่วงกรรมที่ลึกซึ้งเชื่อมกันอยู่
ในชีวิตที่แล้ว หลิงตู้ฉิงได้สังหารเทพแห่งความตายลำดับที่ 9 ของตำหนักดับเซียนไปและเป็นเพราะไม่มีใครรู้ที่ตั้งที่แท้จริงของตำหนักดับเซียน หลิงตู้ฉิงจึงยังไม่สามารถคิดบัญชีมือสังหารเหล่านี้ได้จนครบ
แต่ในตอนนี้เขากลับได้พบกับมือสังหารของตำหนักดับเซียนอีกครั้ง และยิ่งไปกว่านั้นเขารู้สึกสงสัยเป็นอย่างมากว่าเป็นใครกันที่ฉีหานหยูต้องการจ้างวานให้มือสังหารผู้นี้ไปสังหาร?
มันจะเป็นพวกเขาหรือเปล่า?
“เจ้าต้องการที่จะพบกับมือสังหารของตำหนักดับเซียน?” มือสังหารถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
หลิงตู้ฉิงพูดขึ้นด้วยท่าทีไร้กังวล “เจ้ามันก็แค่ ‘ผู้เก็บเกี่ยววิญญาณ’ ยังไม่ได้เป็น ‘ผู้พิพากษา’ ซะด้วยซ้ำ ท่าทีข่มขู่ของเจ้ามันไร้ค่าในสายตาของข้า”
เขาคือคนที่เคยสังหารกระทั่งผู้ที่มีตำแหน่งเป็น ‘เทพแห่งความตาย’ ของตำหนักดับเซียน ดังนั้นแค่ผู้เก็บเกี่ยววิญญาณธรรมดานั้น หลิงตู้ฉิงไม่ได้เห็นอยู่ในสายตาเลย
เมื่อมองไปที่ฉีหานหยูอยู่พักหนึ่ง จากนั้นหลิงตู้ฉิงก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก เขาสั่งให้หลงเฉินออกเดินทางต่อเพื่อไปยังภูเขาเอ้อหลง
ส่วนทางด้านของฉีหานหยู เมื่อเขาเห็นว่ากลุ่มของหลิงตู้ฉิงจากไปแล้ว เขาจึงพูดกับมือสังหารว่า “ในตอนนี้เมื่อพวกเราถูกพบเห็นแล้ว ดังนั้นภารกิจที่เสนอให้เจ้าทำข้าขอยกเลิก!”
มือสังหารเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าหงุดหงิด “ถ้างั้นพวกเราก็แค่ฆ่าไอ้คนกลุ่มเมื่อกี้นี้ซะ แค่นั้นมันก็ถือว่าไม่มีใครเห็นพวกเราแล้วจริงไหม?”
ฉีหานหยูส่ายหัว “เขาคือลูกเขยของเจ้าสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ที่มากไปด้วยกลวิธีอันแข็งแกร่งมากมาย แถมเขายังมีคนคุ้มกันที่เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิอยู่ข้างกายอีก พวกเราไม่ควรเสี่ยง”
มือสังหารหัวเราะ “เป็นลูกเขยของเจ้าสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์แล้วมันยังไง? มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิคุ้มกันแล้วมันน่ากลัวตรงไหน? ใช่ว่าตำหนักดับเซียนของข้าจะไม่เคยสังหารตัวตนแบบนี้มาก่อนซะหน่อย”
ฉีหานหยูส่ายหัวอีกครั้ง “อยากพูดอะไรก็พูดไป แต่ข้ายังยืนยันคำเดิมว่าข้าจะยกเลิกคำขอ”
เนื่องจากในตอนนี้เขาได้ถูกพบเห็นกับมือสังหารแล้ว มันจึงเป็นเรื่องงปกติที่ฉีหานหยู จะยกเลิกภารกิจสังหาร ไม่เช่นนั้นในอนาคตเขาอาจจะเกิดปัญหาใหญ่ได้
หลังจากพูดจบ ฉีหานหยูก็จากไปในทันที
มือสังหารมองไปยังทิศทางที่หลิงตู้ฉิงจากไปพร้อมกับบ่นพึพำด้วยสีหน้าโกรธเคือง “ไอ้สารเลวเอ้ยทำลายธุรกิจของข้าซะย่อยยับไม่มีชิ้นดีแบบนี้มันให้อภัยไม่ได้!”
หลังจากพูดจบมือสังหารก็หายตัวไปจากเหวมรณะเช่นกัน
ในอีกด้านหนึ่ง หลงเฉินก็ได้ลากรถมังกรออกจากเหวมรณะแล้ว ซึ่งพวกเขาก็ได้เจอกับหมิงยู่ที่มาดักรออยู่ก่อนหน้า เพื่อตามกลับมารับใช้หลิงตู้ฉิงเหมือนเดิม เนื่องจากนางได้ทำความเข้าใจเนื้อหาของเต๋าที่หลิงตู้ฉิงได้บรรยายจนครบแล้ว
ในขณะที่พวกเขาอยู่ไม่ห่างจากภูเขาเอ้อหลงสักเท่าไหร่ หลงเฉินก็พูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น “นายท่าน อาณาเขตเอ้อหลงอยู่อีกไม่ไกลแล้ว เมื่อพวกเราเข้าไปในอาณาเขตเอ้อหลงเมื่อไหร่ พวกเราก็จะใช้เวลาอีกไม่นานก็จะถึงภูเขาเอ้อหลง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)