จ้าวเหมิงลู่และคนอื่น ๆ ที่ยังอยู่ในอาณาเขตเอ้อหลง ต่างก็รอการกลับมาของหลิงตู้ฉิงอย่างใจจดใจจ่อ
ในท้ายที่สุดแล้วพวกเขาใช้เวลารอกว่า 8 วัน ซึ่งจู่ ๆ รอยแยกของมิติก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขาและภาพที่พวกเขาเห็นก็คือ หลิงตู้ฉิงได้พาหลิงฟ่างหัวและหยูเจิ้นไห่เดินออกมาด้วยท่าทีสบาย ๆ
“ท่านพ่อในที่สุดท่านก็กลับมา!” หลิงไช่หยุนตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าเบิกบาน “พี่ห้า ท่านนี่สุดยอดไปเลย ท่านส่งภูเขาเอ้อหลงทั้งลูกเข้าไปในรอยแยกมิติได้จริง ๆ ด้วย!”
หลงเฉินที่อยู่ด้านข้างก็มองไปที่หลิงฟ่างหั ด้วยสายตาหดหู่จนพูดไม่ออก เนื่องจากบ้านเกิดของเขาถูกทำให้หายไปโดยหลิงฟ่างหัว
หลิงตู้ฉิงมองไปที่หลิงไช่หยุน และพูดว่า “อย่าเพิ่งรบกวนพี่ของเจ้าตอนนี้ พี่ของเจ้าต้องการความสงบเพื่อทำความเข้าใจสิ่งที่นางได้บรรลุมาก่อนหน้านี้”
ในระหว่างที่พูด หมิงยู่ก็แยกร่างของนางออกมาจากหลิงตู้ฉิง
ร่างโลหิตอมตะของนางในตอนแรกที่มีระดับการบ่มเพาะอยู่ที่ระดับสวรรค์สมบูรณ์หรือขอบเขตสวรรค์ระดับ 8 หลังจากหมดพลังไปกับการท่องห้วงอวกาศกับหลิงตู้ฉิง ตอนนี้ระดับการบ่มเพาะของร่างโลหิตอมตะเหลือเพียงระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุดหรือขอบเขตสวรรค์ระดับ 6 เท่านั้น
แต่แน่นอนว่านางก็ได้รับประโยชน์จากหลิงตู้ฉิงเช่นกัน ในระหว่างที่นางรวมร่างเข้ากับหลิงตู้ฉิง เพราะนางได้เห็นคาถาต่าง ๆ ที่หลิงตู้ฉิงใช้หลายอย่างซึ่งมันถือว่าเป็นความรู้ที่ประเมินค่าไม่ได้
หลังจากนั้น หลิงตู้ฉิงพูดกับหลิงฟ่างหัวว่า “เจ้าเข้าไปในรถมังกรและเก็บตัวพยายามทำความเข้าใจสิ่งที่เจ้าเห็นมาก่อนหน้านี้เพื่อเอามาพัฒนาพลังกฎแห่งมิติของเจ้าซะ หลงเฉิน เฟิง มุ่งหน้าไปที่ภูเขาฟีนิกซ์!”
เสี่ยวเยว่เฟิงรีบตอบรับทันที “รับทราบนายท่าน!”
นางคือคนของภูเขาฟีนิกซ์มาก่อน ดังนั้นมันจึงไม่จำเป็นที่จะต้องมานั่งหาเส้นทางไปภูเขาฟีนิกซ์ เนื่องจากนางรู้เส้นทางดีอยู่แล้ว
ส่วนทางด้านของหลงเฉินนั้นเศร้าสลดอยู่ได้สักพักก็ทำใจได้ จากนั้นเขาก็หันมาลากรถมังกรอย่างตั้งใจต่อ
เขาปลงตกว่าดวงชะตาพวกของเขาคงไม่มีบุญพอจะได้รับประโยชน์แบบเขา
ในระหว่างที่หลงเฉินกำลังลากรถมังกรไปยังภูเขาฟีนิกซ์ ทุก ๆ คนต่างก็เข้าสู่สภาวะเก็บตัวบ่มเพาะ
หลิงฟ่างหัวเก็บตัวทำความเข้าใจในสิ่งที่นางเห็นมาเพื่อเอามาพัฒนาเต๋าแห่งมิติ ส่วน หลิงไช่หยุน เมื่อนางได้ยินว่าตอนนี้ระดับการบ่มเพาะของหวงเซียะได้ทะลวงไปถึงสวรรค์สามัญแล้ว นางก็พยายามบ่มเพาะอย่างบ้าคลั่งเพื่อลดช่องว่างให้ได้มากที่สุด เนื่องจากตอนนี้นางยังอยู่แค่ขอบเขตนภาระดับ 5
ส่วนทางด้านของเสี่ยวเยว่เฟิงและเสี่ยวหลิงเฟิง ยิ่งพวกนางเข้าใกล้กับภูเขาฟีนิกซ์มากเท่าไหร่ พวกนางก็รู้สึกกระวนกระวายมากเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ในอดีตตอนที่พวกนางพัวพันอยู่กับครอบครัวหนิงเฟิง ซึ่งในตอนที่พวกนางกำลังหลบหนี มันมีกลุ่มคนบางกลุ่มของพวกนางที่ยอมสละตัวเองอยู่รั้งท้ายเพื่อคอยถ่วงเวลาเหล่าผู้คนที่ตามล่าพวกนาง ซึ่งในกลุ่มคนพวกนั้นก็มีพ่อแม่ของนางรวมอยู่ด้วย
หลายปีที่ผ่านมานี้พ่อแม่ของพวกนางจะยังมีชีวิตรอดอยู่ไหม? หรือตายไปแล้วตั้งแต่การหลบหนีครั้งนั้น?
สองพี่น้องได้แต่หวังว่าพ่อแม่ของพวกนางจะยังคงมีชีวิตอยู่ เนื่องจากการกลับไปที่ภูเขาฟีนิกซ์รอบนี้พวกนางจะได้กลายเป็นชนชั้นสูง ซึ่งพวกนางจะสามารถใช้สถานะของพวกนางในการช่วยเหลือครอบครัวได้
“ท่านพี่ พวกเราจะกลับไปที่เมืองเกิดของพวกเราก่อนไหม?” เสี่ยวหลิงเฟิงถามขึ้น
เสี่ยวเยว่เฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นนางตอบว่า “พวกเราต้องลองถามนายท่านดูก่อนว่านายท่านจะอนุญาตไหม”
“ไม่จำเป็นต้องถามอะไรข้าเรื่องนี้!” เสียงของหลิงตู้ฉิงดังขึ้น “หากเจ้าต้องการจะไปแวะที่เมืองขนนกอัคคี ถ้างั้นพวกเราก็มุ่งหน้าไปที่เมืองขนนกอัคคีก่อน! อันที่จริงข้าเองก็เคยไปเยือนเมืองขนนกอัคคีอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อในอดีต ไม่นึกเลยจริง ๆ ว่าตอนนี้ข้าจะได้มีโอกาสไปเยือนมันอีกรอบหนึ่ง”
“ขอบคุณนายท่าน!” เสี่ยวเยว่เฟิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าซาบซึ้ง จากนั้นนางถามขึ้นด้วยความสงสัย “ว่าแต่นายท่านเคยไปเยือนที่เมืองขนนกอัคคีตั้งแต่เมื่อไหร่งั้นเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)