ด้วยคำอนุญาตของหลิงตู้ฉิงที่บอกกับนาง เสี่ยวเยว่เฟิงจึงพูดทุกอย่างตามที่นางคิด ซึ่งแต่ละอย่างที่นางพูดออกไปนั้นมันก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เช่น การทวงของที่เคยเป็นของตระกูลนางคืน
ทางด้านของหานปิงเองก็ได้แต่แสดงสีหน้ากระอักกระอ่วน “ข้าไม่นึกเลยว่าพวกเจ้าสองพี่น้องจะโชคดีขนาดนี้!”
ในเมื่อเสี่ยวเยว่เฟิงและเสี่ยวหลิงเฟิงกลายเป็นชนชั้นสูงของเผ่าไปแล้ว เขาจะทำอะไรต่อได้อีก?
สถานะชนชั้นสูงของเผ่าฟีนิกซ์นั้นเปรียบได้กับเหล่าเชื้อพระวงศ์ของอาณาจักร ดังนั้นต่อให้จะเป็นสมาชิกระดับปกติของชนชั้นสูงมันก็ไม่ใช่ตัวตนที่ชนชั้นปกติทั่วไปของเผ่าจะล่วงเกินได้ ต่อให้เขายังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่เกี่ยวกับสถานการณ์ของเสี่ยวเยว่เฟิง ในตอนนี้เขาก็ทำได้แค่ถอยไปก่อน
ไม่นานหลังจากนั้น หานปิงก็รีบพาทหารของเมืองขนนกอัคคีกลับไปที่เมือง
ความตั้งใจแรกของเขาคือรีบไปแจ้งเรื่องนี้ให้กับตระกูลของเขาทราบในทันทีและส่งข่าวเรื่องของเสี่ยวเยว่เฟิงให้กับชนชั้นสูงได้ตรวจสอบสถานะของนางอีกทีว่ามันเป็นยังไงกันแน่
หลังจากเห็นว่าหานปิงจากไปแล้ว เสี่ยวเยว่เฟิงก็พูดกับหลิงตู้ฉิง “นายท่าน หานปิง ผู้นี้คือลูกชายของหัวหน้าตระกูลหาน สถานะของเขาหากเป็นเมื่อก่อน เขาเป็นตัวตนอยู่ในระดับเดียวกับหนิงฮ่าว แต่หลังจากที่พวกของข้าหนีออกไปจากเมืองขนนกอัคคี ข้าคิดว่าตระกูลหานตอนนี้ก็น่าจะกลายเป็นตระกูลที่มีอำนาจมากที่สุดในเมือง”
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ก็แค่ลูกของหัวหน้าตระกูลเล็ก ๆ ไม่ต้องสนใจอะไรนักหรอก เอาล่ะพวกเรารีบเข้าไปในเมืองกันเถอะ”
เขาขี้เกียจจะสนใจกับตระกูลเล็ก ๆ แบบนี้ สิ่งที่หลิงตู้ฉิงใส่ใจจริง ๆ ก็คือท่าทีของภูเขาฟีนิกซ์หลังจากนี้ต่างหาก
ทางด้านของหานปิง เขารีบกลับไปที่จวนเจ้าเมืองและตรงไปพบกับพ่อของเขาทันที ผู้ซึ่งเป็นเจ้าเมืองขนนกอัคคีคนปัจจุบัน หานฉี
“ท่านพ่อ นังเด็กผู้หญิงสองคนของตระกูลเสี่ยวกลับมาแล้ว แต่ว่าพวกนางกลับกลายเป็นชนชั้นสูงไปแล้วท่านพ่อ!” หานปิงพูดกับหานฉี
หานฉีถามขึ้นด้วยสีหน้าเย้ยหยัน “อะไรทำให้เจ้าแน่ใจว่าพวกนางเป็นชนชั้นสูง? หรือว่าแค่พวกนางบอกว่าพวกนางเป็นชนชั้นสูงเจ้าก็เชื่อแล้ว? เจ้ารู้รึเปล่าว่าการเป็นชนชั้นสูงนั้นไม่ได้ง่ายแม้แต่น้อย ไม่อย่างนั้นพวกเราคงได้เป็นไปนานแล้ว!”
หานปิงตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง “ท่านพ่อ พวกนางทั้งสองคนสามารถกลายร่างเป็นฟีนิกซ์ที่แท้จริงได้!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของหานฉีเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดทันที
“แปลก พวกนางรู้วิธีกลายร่างเป็นฟีนิกซ์ที่แท้จริงได้ยังไง?” หานฉีพูดกับตัวเองด้วยสีหน้าสับสน
“จากที่พวกนางบอกมาให้ข้าฟัง พวกนางเล่าว่าพวกนางได้ไปเจอกับผู้อาวุโสระดับสูงผู้หนึ่ง ซึ่งผู้อาวุโสคนนั้นก็เป็นคนมอบวิธีการกลายร่างเป็นฟีนิกซ์ให้กับพวกนาง!” หานปิงเสริมขึ้น “และอีกอย่างกลุ่มคนที่มากับนางนั้นบางคนข้าไม่อาจมองเห็นได้เลยว่าอยู่ในระดับใด ส่วนนังผู้หญิงที่เป็นคนของตระกูลเสี่ยวนั้นในตอนนี้ระดับการบ่มเพาะของนางพัฒนามาอยู่ที่ระดับเหนือล้ำเข้าไปแล้ว”
เมื่อฟังถึงตรงนี้ หานฉีขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม “ในอดีตตอนที่นางหนีไป ข้าจำได้ว่านางยังคงอยู่ในขอบเขตรวมแสงดาราอยู่เลยไม่ใช่เหรอ!? นี่มันผ่านไปยังไม่ถึง 300 ปีเลยด้วยซ้ำ นางบ่มเพาะจนมาถึงระดับเหนือล้ำแบบนี้ได้ยังไงกัน? แถมกลุ่มคนที่มาด้วยกับนางยังเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงอีก นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
“ท่านพ่อ มันยังมีอีกอย่างที่ข้ารู้สึกแปลก ๆ กับคนกลุ่มนี้” หานปิงพูดต่อ “ในช่วงเวลาที่ข้ายืนอยู่ต่อหน้าคนกลุ่มนี้ ข้าสัมผัสได้ตลอดว่ามันเหมือนข้ากำลังยืนอยู่ต่อหน้าตัวตนระดับสูงของเผ่าเรา ดังนั้นข้าคิดว่ามันเป็นไปได้ที่ในกลุ่มของพวกเด็กสาวตระกูลเสี่ยวจะมีผู้อาวุโสระดับสูงของเผ่าเราอยู่จริง ๆ และอีกอย่างก่อนที่ข้าจะจากมา นังเด็กตระกูลเสี่ยวได้ขู่ข้าเอาไว้ว่านางจะคิดบัญชีแค้นกับพวกเราและต้องการทวงสมบัติของพวกนางคืน”
หานฉีหรี่ตาและพูดว่า “หากนังพี่น้องคู่นั้นมีคนหนุนหลังเป็นผู้อาวุโสระดับสูงจริง ๆ พวกเราก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องถอย ส่วนสมบัติของตระกูลพวกนาง หากพวกนางอยากได้คืนมากนัก เจ้าก็จงไปจัดการคืนพวกมันให้กับพวกนางซะ”
“และอีกอย่าง เจ้าจงไปตรวจสอบด้วยว่าพ่อแม่ของนังพวกนั้นตายไปในเหมืองรึยัง ถ้ายังไม่ตายก็จงพาตัวออกมาก่อน ในตอนนี้สถานะของนังพี่น้องคู่นั้นยังไม่กระจ่างชัด มันไม่ควรที่พวกเราจะล่วงเกินพวกนางมากไปกว่าที่เป็นอยู่ ตอนนี้พวกเราคงได้แต่รอผลการตรวจสอบสถานะของพวกนางที่ข้าจะส่งไปให้ผู้สนับสนุนของเราลองตรวจสอบออกมาก่อน”
หานปิงพยักหน้า “ข้าจะทำตามที่ท่านสั่งเดี๋ยวนี้ท่านพ่อ!”
เมื่อพูดจบ หานปิงก็มุ่งหน้าตรงไปที่เหมืองทันทีและถามผู้คุมเหมืองว่า “ไอ้สวะสองตัวจากตระกูลเสี่ยวตายไปรึยัง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)