พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) นิยาย บท 706

หลังจากที่หลิงตู้ฉิงเอ่ยปากว่าเขาจะยังคงรั้งอยู่ในสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ต่อไปอีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง เขาและคนของเขาก็เอาแต่เก็บตัวตัวเงียบอยู่ในเรือนของเย่ชิงเฉิงไม่ออกไปไหนทั้งสิ้น

แต่ถึงแม้ว่าหลิงตู้ฉิงจะเอาแต่เก็บตัวเงียบไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ มันกลับทำให้ใครหลายคนของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์รู้สึกหดหู่เป็นอย่างมาก

ก่อนหน้านี้พวกเขาอุตส่าห์วางแผนกดดันตระกูลเย่เป็นอย่างดีให้ตระกูลเย่แบ่งสมบัติที่ได้จากเย่เจียงไห่มาบ้าง แต่เมื่อตอนนี้หลิงตู้ฉิง จู่ ๆ กลับโผล่มามันทำให้แผนการของพวกเขาต้องหยุดชะงักลงทันที

ในสายตาของใครหลายคนในสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาคิดว่าในฐานะที่เย่ชางคงเป็นเจ้าสำนัก เขาควรที่จะแบ่งสมบัติล้ำค่าทั้งหลายที่ได้มาเย่เจียงไห่มาพัฒนาสำนักบ้างไม่ใช่เก็บไว้กับตัวเองแบบนี้ ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่คู่ควรที่จะอยู่ในตำแหน่งเจ้าสำนัก

ส่วนเรื่องของอิทธิพลของเย่เจียงไห่ที่ในตอนนี้กลายเป็นเจ้าตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียนไปแล้ว และเป็นลูกชายของเย่ชางคง บรรดาผู้คนของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่เกรงกลัวว่าเย่เจียงไห่จะมาเอาเรื่องพวกเขาเท่าไหร่หากพวกเขาจะกดดันตระกูลเย่ เพราะพวกเขาเข้าใจว่าการที่เย่เจียงไห่ให้สมบัติมากมายขนาดนี้ มันก็เหมือนว่าเขาตัดสัมพันธ์กับตระกูลเย่แบบอ้อม ๆ

ปัญหาของพวกเขาตอนนี้จึงเหลือแค่เพียงหลิงตู้ฉิงที่ จู่ ๆ ก็โผล่มา

ในฐานะที่หลิงตู้ฉิงเป็นลูกเขยของเย่ชางคง หากมีอะไรเกิดขึ้นกับตระกูลเย่ แน่นอนว่าหลิงตู้ฉิงจะต้องยื่นมือเข้ามาแทรกแซงแน่นอน

สิ่งที่พวกเขากลัวเกี่ยวกับหลิงตู้ฉิงนั้นไม่ใช่ความแข็งแกร่ง แต่มันเป็นความสัมพันธ์ที่หลิงตู้ฉิงมีต่อสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่หลังสำนัก ด้วยความแข็งแกร่งของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขาไม่อาจต่อต้านได้ ดังนั้นพวกเขาจะกล้าบุ่มบ่ามทำอะไรหลิงตู้ฉิงหรือตระกูลเย่ได้ยังไง

ตอนนี้พวกเขาจึงทำได้แค่เพียงอ้อนวอนต่อสวรรค์ให้หลิงตู้ฉิงจากไปให้เร็วที่สุด เพื่อที่แผนการกดดันตระกูลเย่ของพวกเขาจะได้ดำเนินต่อไปได้

ในระหว่างที่คนส่วนใหญ่ของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์อ้อนวอนต่อสวรรค์และสาปแช่งให้หลิงตู้ฉิงจากไปโดยไวที่สุด แต่จนแล้วจนรอดเวลาก็ล่วงเลยผ่านไปอีก 8 ปี แต่หลิงตู้ฉิงก็ยังคงอยู่ในสำนักเหมือนเดิมไม่จากไปไหน

เวลา 8 ปีที่ผ่านไป ระดับการบ่มเพาะของหลิงตู้ฉิงตอนนี้ได้พัฒนามาถึงขอบเขตนภาระดับ 7 เรียบร้อยแล้ว เพิ่มขึ้นมา 1 ระดับจากตอนที่เขาจบการบรรยายเต๋าให้กับภูเขาฟีนิกซ์

หลิงตู้ฉิงไม่ได้รีบร้อนที่จะเพิ่มระดับการบ่มเพาะของตัวเองสักเท่าไหร่ เพราะเขารู้ดีว่าต่อให้ระดับการบ่มเพาะของเขาจะเพิ่มไปถึงขอบเขตนภาระดับสูงสุด เขาก็ยังคงไม่อาจทะลวงขึ้นไปยังขอบเขตสวรรค์ได้อยู่ดี

เขาจำเป็นต้องรอให้เขาบ่มเพาะร่างกายเบญจธาตุให้สำเร็จก่อน

นับตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบันนี้ แผนการบ่มเพาะร่างกายเบญจธาตุของเขานั้นเพิ่งสำเร็จไปได้แค่ 2 ธาตุเท่านั้น ส่วนอีก 3 ธาตุเขายังไม่มีโอกาสที่ได้บ่มเพาะมันเลย

ในทางกลับกัน บรรดากลุ่มคนของหลิงตู้ฉิง ยกเว้นหลิงเทียนหยุนคนเดียวกลับทะลวงระดับการบ่มเพาะกันอย่างบ้าคลั่งภายใต้การชี้แนะของหลิงตู้ฉิง

หลังจากเวลาผ่านไป 8 ปี ในที่สุดหลิงตู้ฉิงก็พาคนของเขากลับไปที่ด้านหลังสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในตอนนี้ที่ด้านหลังสำนักก็ยังคงมีเขตแดนหมอกดำรงอยู่เหมือนเดิม

ส่วนทางด้านผู้คนของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ เมื่อพวกเขาเห็นว่าหลิงตู้ฉิงพากลุ่มคนของเขาเดินไปที่ด้านหลังสำนักอีกแล้ว บรรดาผู้คนของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ก็ได้แต่สงสัยแต่ไม่มีใครในพวกเขาที่กล้าตามไปดู

นับตั้งแต่ที่ผู้คนของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์รู้แล้วว่าในหมอกนั้นมีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่น่ากลัวดำรงอยู่ มันก็ไม่มีใครในพวกเขาสักคนที่กล้าเหยียบเข้าไปในบริเวณนั้นอีก เนื่องจากพวกเขากลัวว่าพวกเขาจะเผลอไปทำให้สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ขุ่นเคือง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้เลยว่าในตอนนี้เขตแดนหมอกที่ด้านหลังสำนักของพวกเขานั้นเปลี่ยนแปลงไปบ้างหรือเปล่า

หลิงตู้ฉิงเดินตรงเข้าไปในหมอกและมองดูหมาชราสีทองที่ในเวลานี้ได้กลายร่างเป็นง้าวเทวะพินาศไปแล้ว และถามขึ้นว่า “เจ้าบรรลุทักษะลับของคุนเป๋งได้แล้วรึยัง?”

ง้าวเทวะพินาศไม่ตอบอะไรกลับอะไร มันกลายร่างเป็นหมาชราสีทองเหมือนเดิมอีกครั้ง จากนั้นมันจึงส่งทักษะลับของคุนเป๋งที่มันบรรลุมาทั้งหมดตรงเข้าไปในห้วงทะเลจิตสำนึกของหลิงตู้ฉิงทันที

นี่คือความสามารถเฉพาะของง้าวเทวะพินาศ มันสามารถสืบค้นทักษะหรือความลับต่าง ๆ ได้จากร่างหรือวิญญาณของใครก็ตามที่ตายไปแล้ว และส่งต่อให้กับผู้เป็นนายของมันได้

“เป็นเพราะเจ้าไม่ยอมจับวิญญาณของคุนเป๋งมาด้วยมันเลยทำให้ข้ายังคงไม่เข้าใจแก่นแท้ทักษะของคุนเป๋งได้ทั้งหมด” หมาชราสีทองบ่น “แต่ช่างเถอะ การที่ได้มาแต่ร่างของคุนเป๋งแค่นี้ก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว จะให้ได้มาทั้งวิญญาณด้วยมันก็ออกจะเกินไปหน่อย”

ถึงแม้ว่ามันจะบ่น แต่มันก็เข้าใจดีว่าการจับคุนเป๋งแบบเป็น ๆ มันยากแค่ไหน

ส่วนหลิงตู้ฉิงก็ได้แต่ยิ้ม และไม่อยากจะบอกว่าเป็นเขาเองที่ยอมปล่อยดวงวิญญาณของโอรสศักดิ์สิทธิ์แห่งคุนเป๋งไปเพราะคำสัญญาที่เขาให้ไว้

หลังจากที่หลิงตู้ฉิงได้รับทักษะลับของคุนเป๋งมาจนครบ เขาก็พูดกับหมาชราสีทองว่า “สร้างร่างจำลองของเจ้ามาให้ข้าที ส่วนตัวเจ้าจงกลับไปที่ทะเลชางหมางเพื่อปกป้องครอบครัวของข้าที่อยู่ที่นั่น และถ้าหากเจ้ายังไม่รู้ทะเลชางหมางคือจุดเริ่มต้นชีวิตนี้ของข้า”

หมาชราสีทองตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “แต่ข้าคิดว่าที่นี่มันก็ไม่เลวเท่าไหร่ ข้าอยากอยู่ที่นี่มากกว่า”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)