พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) นิยาย บท 707

หลังจากที่หลิงตู้ฉิงส่งง้าวเทวะพินาศไปอยู่ที่ทะเลชางหมาง เขาก็รู้สึกอุ่นใจในความปลอดภัยของทะเลชางหมางได้เต็ม 10 ส่วน

เทพีสี่ฤดูหายไปแล้ว และถึงแม้ว่าเฟิงปิงจะไปถึงทะเลชางหมางเรียบร้อย เขาก็ยังคงไม่มั่นใจอยู่ดีในก่อนหน้านี้

แต่ในเมื่อตอนนี้มีง้าวเทวะพินาศคอยปกป้องครอบครัวของเขาอยู่ เขาก็มั่นใจได้ว่าในโลกเบื้องล่างนี้ไม่มีใครสามารถทำอันตรายครอบครัวของเขาได้แน่นอน

ไม่มีแม้แต่คนเดียว…

หลังจากเก็บง้าวเทวะพิฆาตจำลองเสร็จ หลิงตู้ฉิงก็กลับไปที่เรือนของเย่ชิงเฉิงเหมือนเดิม

ถึงแม้ว่าจุดประสงค์ในการมาสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์จะสำเร็จแล้ว แต่เขาก็ยังคงต้องรอเวลาให้หลิงฟ่างหัวมาถึงสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์อยู่ดี ไม่งั้นเขาก็ยังคงไปจากที่นี่ไม่ได้

ในเมื่อเขายังคงไปจากที่นี่ไม่ได้ เขาจึงใช้เวลาที่มีอยู่ในการทำความเข้าใจกับทักษะลับของคุนเป๋งที่เพิ่งได้รับมาเพื่อทะลวงขีดจำกัดในด้านความเร็วของเขาที่เป็นมนุษย์

หลังจากที่หลิงตู้ฉิงศึกษาทักษะลับของคุนเป๋ง เขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมในชีวิตที่แล้วเขาถึงไม่สามารถไล่ตามความเร็วของพวกมันได้เลย ด้วยทักษะลับนี้แค่การกระพือปีกของพวกมันเพียงครั้งเดียว มันก็สามารถทำให้ร่างของพวกมันพุ่งทะยานไปได้ไกลถึง 90,000 กิโลเมตรในชั่วพริบตาเดียว

ด้วยความเร็วระดับนี้จะมีสิ่งมีชีวิตหน้าไหนที่ตามมันทัน?

ที่น่าอัศจรรย์ก็คือมันเป็นเรื่องของความเร็วล้วน ๆ ไม่ใช่การทะลวงผ่านมิติไปยังอีกสถานที่หนึ่ง

แต่ถึงแม้ว่าหลิงตู้ฉิงจะเข้าใจทักษะลับนี้เรียบร้อยแล้ว เขาก็ยังคงไม่สามารถใช้งานมันได้เหมือนคุนเป๋งอยู่ดี เนื่องจากเขาไม่ใช่คุนเป๋ง สรีระร่างกายของเขาคือมนุษย์ เขาไม่มีวันที่จะใช้ทักษะลับที่ถูกออกแบบไว้ให้กับคุนเป๋งได้ถ้าหากร่างกายเขาไม่ใช่คุนเป๋ง

ดังนั้นหลิงตู้ฉิงจึงเหลืออยู่ 2 ทางเลือก ซึ่งทางเลือกแรกก็คือเขาต้องเอาความเข้าใจในทักษะลับของคุนเป๋งมาสร้างเคล็ดวิชาตัวเบาที่คล้ายกันที่มนุษย์สามารถใช้งานได้หรืออีกทางเลือกหนึ่งก็คือ เขาคงจะต้องใช้วิชาเจตจำนงแปลงสรรพสิ่ง เปลี่ยนร่างของเขาเองให้กลายเป็นคุนเป๋งเพื่อใช้ทักษะลับของพวกมัน

หลิงตู้ฉิงในเวลานี้จึงเอาแต่เก็บตัวอยู่ในเรือนของเย่ชิงเฉิงเพื่อคิดค้นวิชาตัวเบาที่คล้ายคลึงกับทักษะลับของคุนเป๋งขึ้นมา ซึ่งในเวลาเดียวกันบรรดาผู้คนของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ก็ค้นพบถึงความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ที่ด้านหลังสำนักของพวกเขาแล้วเช่นกัน

สาเหตุที่ทำให้พวกเขาค้นพบถึงการเปลี่ยนแปลง ก็เป็นเพราะในเวลานี้มหาวิถีเต๋าของพวกเขากลับมามีชีวิตชีวาเหมือนเดิมเรียบร้อย ซึ่งเมื่อบรรดาตัวตนระดับสูงของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ พวกเขาก็รีบวิ่งแจ้นกันไปที่ด้านหลังสำนักเพื่อตรวจสอบเขตแดนหมอกที่เป็นต้นเหตุทำให้มหาวิถีเต๋าของพวกเขาถูกข่มในอดีต และแน่นอนว่าสิ่งที่พวกเขาเห็นก็คือเขตแดนหมอกและสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขากลัวนักกลัวหนาได้หายไปแล้ว

สิ่งนี้ทำให้พวกเขารู้สึกดีใจจนตัวสั่นทันที

แต่ในเวลาเดียวกับที่พวกเขารู้สึกดีใจ พวกเขาก็มีความสงสัยปนอยู่ด้วยเช่นกัน ทำไมจู่ ๆ สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ถึงได้หายไปแบบนี้?

มันไม่มีสัญญาณบ่งบอกใด ๆ เกิดขึ้น ไม่มีข้อเรียกร้อง

หรือจะเป็นไปได้ไหมว่ามันแค่ออกไปทำธุระที่อื่นชั่วคราว จากนั้นมันก็จะกลับมาใหม่ในอนาคต?

เมื่อพวกเขาคิดได้ถึงข้อสันนิษฐานนี้ ความรู้สึกเบิกบานของพวกเขาก็เริ่มจางลง

หลังจากนั้นพวกเขาก็เอาแต่จับจ้องไปที่บริเวณด้านหลังสำนักที่เคยมีเขตแดนหมอกอย่างไม่คลาดสายตาจนเวลาล่วงเลยไปอีก 10 ปีเต็ม

เมื่อ 10 ปีผ่านไป และสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตนนั้นยังคงไม่กลับมา พวกเขาก็เริ่มรู้สึกผ่อนคลายกันได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง

ผ่านไปนานขนาดนี้สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตนนั้นมันคงไม่กลับมาแล้วใช่ไหม?

หลังจากไปอีก 5 ปี เมื่อพวกเขาเห็นว่าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ก็ยังคงไม่กลับมา ตอนนี้พวกเขาจึงแน่ใจแล้วว่าพวกเขาน่าจะปลอดภัยแล้วแน่นอน

แน่นอนว่าบรรดาผู้คนของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ล้วนดีใจกันทุกคนที่เรื่องราวลงเอยเช่นนี้ และแน่นอนว่ามีบางกลุ่มคนที่รู้สึกยินดียิ่งกว่าเพราะในเมื่อไม่มีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์อีกแล้ว พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจอะไรหลิงตู้ฉิง!

แต่แน่นอนว่าถ้าหากพวกเขาจะเริ่มแผนการกดดันตระกูลเย่อีกครั้ง พวกเขาจะต้องมีประเด็นเริ่มต้นที่มันรุนแรงเพียงพอซะก่อน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)