ในเวลานี้ผู้เข้าคัดเลือกจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังต่อสู้กันอย่างเมามันบนเวทีขนาดยักษ์ที่ถูกเอามาตั้งไว้กลางจัตุรัสเมืองศักดิ์สิทธิ์
ประโยชน์จากการได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นมีมหาศาลเป็นอย่างมาก ดังนั้นเหล่าอัจฉริยะทั้งหลายจึงทุ่มเทให้กับการคัดเลือกนี้อย่างสุดชีวิต
แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะต่อสู้กันอย่างรุนแรงขนาดไหน พวกเขาก็ยังคงไม่สู้กันถึงขั้นแลกชีวิตเพราะนี่เป็นเพียงรอบแรกของการคัดเลือกเท่านั้น ถ้าหากพวกเขาตายลงไปต่อให้ชนะก็ไร้ความหมาย และไม่ใช่แค่พวกเขาจะต้องหลีกเลี่ยงการตาย แต่พวกเขายังต้องหลีกเลี่ยงการแลกการโจมตีจนตัวเองชนะแต่ตัวเองบาดเจ็บสาหัส เพราะต่อให้พวกเขาจะชนะแต่ถ้าหากว่าตัวเองบาดเจ็บสาหัส เขาก็จะถูกผู้อื่นมาเอาเปรียบโดยการขอท้าสู้ต่อทันที ซึ่งเขาก็จะหนีชะตากรรมที่จะต้องถูกเตะออกจากการคัดเลือกไม่พ้น
แน่นอนว่าการคัดเลือกนี้ไม่มีกฎข้อห้ามในการใช้โอสถรักษาอาการบาดเจ็บ แต่เมื่อไม่มีกฎข้อห้ามไม่ให้พวกเขาถูกท้าประลองต่อทันทีเมื่อสู้เสร็จ ดังนั้นพวกเขาจะเอาเวลาที่ไหนมากินโอสถเพื่อรักษาบาดแผล?
หลิงฟ่างหัวที่ดูการประลองก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว และพูดว่า “เป็นการต่อสู้ที่หฤโหดดีจริง ๆ”
“การต่อสู้ที่ต่อเนื่องแบบนี้ต่อให้ข้าขึ้นไปประลองด้วยตัวเอง ข้าเกรงว่าข้าก็คงไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก” หลิงเทียนหยุนถอนหายใจ
หลิงตู้ฉิงมองไปที่ลูกของเขาทั้งสองและพูดว่า “พวกเจ้าทั้งคู่ต้องออกไปหาประสบการณ์กันมากกว่านี้!”
หลิงตู้ฉิงรู้ดีว่าถึงแม้ลูก ๆ ของเขาจะมีพรสวรรค์ที่เหนือผู้อื่นจนมันทำให้พวกเขาแข็งแกร่งกว่าผู้เชี่ยวชาญปกติเป็นอย่างมาก แต่สิ่งที่ลูก ๆ ของเขายังขาดก็คือประสบการณ์ต่อสู้เป็นตาย เพราะที่ผ่านมาลูก ๆ ของเขาอาศัยอยู่ภายใต้ร่มเงาของเขาตลอดเวลา ดังนั้นนับจากนี้เขาคงจะต้องหาโอกาสในอนาคตเพื่อให้ลูก ๆ ของเขาได้เผชิญกับประสบการณ์ที่จะสามารถพัฒนาตัวของพวกเขาเองได้อย่างจริงจัง
หลิงเทียนหยุนพยักหน้า “แน่นอนท่านพ่อ ไม่ว่าจะยังไงข้าก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ไปอีกพักใหญ่ ดังนั้นในระหว่างที่อยู่ที่นี่ข้าจะหาประสบการณ์การต่อสู้จากที่นี่ไปด้วย”
หลิงฟ่างหัวหัวเราะ “ข้าไม่ยอมไปที่ไหนทั้งนั้นหรอก เป้าหมายของข้าคือจะตามท่านท่องโลกไปให้ทั่ว เอ๊ะ ท่านพ่อ ตอนนี้ลูกศิษย์ของท่านกำลังจะประลองกับไอ้เจ้าเผ่าปีศาจสวรรค์นั่นแล้วล่ะ”
“มันไม่สำคัญว่าเขาจะเจอใครก่อนหลัง แต่ถ้าหากเขาฉลาดมากพอเขาควรจะไม่เผยความสามารถของเขาทั้งหมดออกมาก่อนตั้งแต่รอบแรก หากเขาไม่ตกอยู่ในสถานการณ์เป็นตายจริง ๆ” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น
ในเวลานี้ร่างของอุลบาไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักจากเดิมที่ผู้คนทั่วไปเคยเห็นว่าร่างของเขามีมัดกล้ามเป็นสีดำเงา
แต่ถ้าหากมีใครได้ลองเปิดผิวหนังของเขาออกแล้วล่ะก็ ทุกคนจะเห็นได้ทันทีว่าภายในร่างของเขานั้นมีแต่ความว่างเปล่า
ระยะ 10 กว่าปีที่ผ่านมานี้ อุลบาได้ฝึกฝนวิชาหยินหยางโกลาหลผกผันจนสามารถควบคุมร่างกายของเขาได้พอประมาณแล้ว ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถควบคุมร่างกายของเขาทั้งหมดได้อย่างใจนึก แต่ถ้าเป็นการเปลี่ยนร่างกายบางส่วนเท่านั้นเขาก็พอที่จะทำได้
เมื่ออวัยวะภายในของเขาอยู่ในสถานะวิญญาณเช่นนี้ ต่อให้เขาจะถูกอาวุธคม ๆ ฟันเข้าที่หัวเขาก็ยังรอดตายได้อยู่ดี
ตั้งแต่ที่อุลบากระโดดขึ้นไปบนเวที สิ่งที่อุลบาใช้ต่อสู้ก็มีแค่การทำให้อวัยวะภายในของเขาเข้าสู่สถานะวิญญาณ ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครเห็นบวกกับใช้พลังกายของเขาเท่านั้นในการเอาชนะคู่ต่อสู้ นอกเหนือจากนั้นเขาก็ไม่ใช้อะไรอย่างอื่นอีกเลยแม้แต่ระดับการบ่มเพาะเขาก็ไม่เผยออกมา
และถึงแม้ว่าอุลบาจะพึ่งพาแค่ความแข็งแกร่งของร่างกายของเขาเพียงอย่างเดียว แต่มันก็ทำให้อุลบาชนะติดต่อกันมาแล้วถึง 30 ครั้ง แต่แล้วเมื่อล่าสุดที่เขาเพิ่งเอาชนะมนุษย์เสือดาวผู้หนึ่งไป จู่ ๆ โม่หยุนก็รีบพุ่งตัวเข้ามาหาอุลบาทันที และตะโกนขึ้นว่า “ข้าขอท้าประลองเจ้า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)