พายุรักแห่งเม็ดทราย นิยาย บท 3

นาราภัทรกับนาราพรรณ ฝาแฝดแสนสวยทั้งสองต่างก็พากันลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่จนตัวเอียงออกจากผู้โดยสารขาเข้าภายในท่าอากาศยานนานาชาติเจเนอรัล เอ็ดเวิร์ด ลอเรนซ์ โลแกน

น้ำหนาวลากกระเป๋าเดินทางตรงดิ่งไปยังประตูทางออกเพื่อเรียกรถแท็กซี่แต่ก็ถูกมือนุ่มนิ่มของแฝดน้องฉุดดึงไว้เสียก่อน

“น้ำค้างหิวข้าว ไปกินก่อนได้มั้ย เดี๋ยวกลับไปอพาร์ทเม้นท์แล้วไม่มีอะไรกินอีก น้ำค้างเบื่อกินบะหมี่แล้ว”

ด้วยก่อนหน้านี้เมาเครื่องอาเจียนจนหมดไส้หมดพุง พอเท้าแตะพื้นดิน ท้องก็ประท้วงเรียกร้องหาอาหารทันทีและไม่รอช้าไม่รอคำตอบจากแฝดพี่นาราพรรณได้ฉุดรั้งพี่สาวไว้พร้อมกับดึงแขนให้เดินกลับเข้ามาภายในท่าอากาศยานเหมือนเดิม

“ไปกินข้าวก่อนก็ได้ พี่เองก็เบื่อกินบะหมี่เหมือนกัน”

นาราภัทรเห็นด้วยกับข้อเสนอของแฝดน้อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นอาหารที่จำเป็นต้องมีติดอพาร์ทเม้นท์คราวใดที่เหน็ดเหนื่อยจากการเล่าเรียนและการทำงานจนไม่มีแรงทำกับข้าว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเหล่านี้ก็สามารถช่วยชีวิตเธอกับน้องสาวไว้ได้ หญิงสาวยอมเดินตามแรงฉุดดึงของแฝดน้องแสนสวยเข้าไปในร้านอาหารไทยเล็กๆ หนึ่งเดียวที่ยังสามารถยืนหยัดเปิดร้านได้ภายในบริเวณท่าอากาศยานที่มีค่าเช่าแพงหูฉี่ยิ่งกว่าทองคำเสียอีก

น้ำหนาวเป็นคนแรกที่ทิ้งตัวลงนั่งแหมะบนเก้าอี้อย่างหมดแรงตามด้วยน้ำค้างที่มีอากัปกิริยาเหน็ดเหนื่อยไม่ต่างจากพี่สาวที่ต้องพากันนั่งเครื่องบินชั้นประหยัดเป็นเวลานานนับสิบชั่วโมง

“กะเพราะไก่ไข่ดาวกับน้ำเปล่า”

น้ำหนาวสั่งเมนูอาหารที่ใครๆ ก็เรียกว่าเมนูสิ้นคิดแบบว่านั่งร้านอาหารตามสั่งที่ไหนไม่ว่าในเมืองไทยหรือต่างแดนก็มีอันต้องสั่งเมนูนี้เป็นเมนูแรก

“น้ำค้างเอาอะไร” หญิงสาวหันมาถามน้องสาวที่กำลังหยิบเมนูมาเปิดดูรายการอาหารไทยยาวเหยียดเกือบสิบหน้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พายุรักแห่งเม็ดทราย