พายุรักแห่งเม็ดทราย นิยาย บท 26

นาราภัทรถอนหายใจยาวโยนสมุดเลคเชอร์ในมือลงไปบนโต๊ะกระจกหน้าโซฟาอย่างยอมแพ้ ตัวอักษรที่จดร้อยเรียงมาจากคำพูดของอาจารย์แค่เพียงไม่กี่บรรทัดไม่สามารถซึมซับเข้าหัวสมองได้ทั้งๆ ที่เธออ่านวนอยู่บรรทัดเดิมเป็นรอบที่สี่แล้ว หญิงสาวซบหน้าลงกับฝ่ามือของตัวเอง ใบหน้างามเต็มได้ด้วยริ้วรอยแห่งความเศร้าหมองนึกเกลียดตัวเองที่คอยกระหวัดคิดถึงรสสิเสน่หาจากเจ้าชายซารีฟร์ตลอดเวลา เธออยากรู้ยิ่งนักว่าเจ้าชายซารีฟร์ผู้เฉยชา ซาตานในคราบเจ้าชายผู้หล่อเหลาจะมีอาการเหมือนเธอหรือเปล่า และอยากรู้ว่ามีสักนาทีไหมที่เจ้าชายนักรักจะหวนคำนึงคิดถึงหญิงสาวผู้ไร้ค่าคนนี้

ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...

เสียงเคาะประตูห้องเบาๆ อย่างมีมารยาทติดเกรงใจทำให้หญิงสาวเงยหน้าขึ้นจากฝ่ามือของตนเอง คิ้วเข้มหนาโก่งงามดุจคันศรขมวดเข้าหากันด้วยความแปลกใจ วันนี้พวกเธอไม่มีเรียนและไม่ได้ไปทำงานพิเศษน้ำค้างจึงไปพักผ่อนสมองด้วยการไปดูงานศิลปะที่หอศิลป์น้ำค้างบอกว่าจะกลับค่ำหน่อยไม่ต้องรอทานข้าวเย็น ดวงตาคู่สวยก้มลงมองเวลาบนนาฬิกาข้อมือเรือนน่ารักเพิ่ง 4 โมงเย็นเองทำไมน้ำค้างกลับเร็วจังเลยหรือว่าเปลี่ยนใจไม่ไปดูภาพวาดแล้ว

ก๊อก...ก๊อก...

“มาแล้วจ้ะยายตัวแสบ” นาราภัทรตะโกนออกไปเบาๆ พร้อมกับลุกขึ้นเดินตรงไปยังประตูห้องโดยไม่ลืมเอ่ยเจริญพรน้องสาวไปด้วย

“กุญแจห้องก็มีจะเคาะเรียกให้เปิดประตูให้ทำไมน่ะชักจะขี้เกียจใหญ่แล้วน่ะยายน้ำค้าง”

“เจ้าชายซารีฟร์...”

นาราภัทรครางเสียงแผ่วเบารอยยิ้มหวานที่เปิดยิ้มให้กับคนที่คิดว่าเป็นน้องสาวของตนเองมีอันต้องหุบฉับเมื่อเปิดประตูห้องออกกว้างแล้วสายตาได้ปะทะกับใบหน้าหล่อเหลาดวงตาคมกริบที่กำลังทอดมองมาอย่างอบอุ่น

“เดี๋ยวสิน้ำหนาว”

เจ้าชายซารีฟร์ร้องห้ามพร้อมกับจับบานประตูไว้แน่นไม่ให้นาราภัทรปิดประตูกระแทกใส่ตนเอง เรือนกายกำยำล่ำสันรีบผุบเข้ามาในห้องจากนั้นก็ปิดประตูให้อย่างเรียบร้อย

“เอ่อ...เรา...ซื้อดอกไม้มาฝากเจ้า”

คาสโนว่าแห่งแผ่นผืนทะเลทรายแทบสิ้นลายเอ่ยพูดเสียงตะกุกตะกักรอยยิ้มกว้างที่คลี่ยิ้มให้มีอันต้องค้างเติ่ง ใบหน้าคมเข้มถอดสีเผือดเล็กน้อยเมื่อเจอปฏิกิริยาต่อต้านเฉยเมยของดอกไม้งามแห่งอัลนูรีน นาราภัทรไม่ยิ้มไม่พูดจาแต่กอดอกยืนนิ่งขึงตาใส่

“รับไปสิ เราซื้อมาให้เจ้า”

กุหลาบแดงดอกโตจัดช่ออย่างสวยงามช่อใหญ่ถูกยื่นไปตรงหน้าขณะที่เจ้าชายหนุ่มได้เอ่ยบอกแกมออกคำสั่งไปในตัว

“น้ำหนาวไม่ต้องการ เก็บไว้ให้คนอื่นเถอะค่ะ”

นาราภัทรเบือนหน้าหนีกัดเม้มริมฝีปากแน่นไม่ให้เจ้าชายซารีฟร์ได้เห็นความเจ็บปวดที่เผยออกมาจากดวงตาคู่สวยที่เริ่มมีหยาดน้ำตาหล่อเลี้ยงด้วยความอดสู เจ้าชายซารีฟร์กำลังผลักดันให้เธอเข้าสู่วังวนแห่งการเป็นนางในฮาเร็มเริ่มต้นด้วยดอกไม้งามๆ ช่อใหญ่จากนั้นก็ตามด้วยเครื่องประดับราคาแพงรถยนต์หรูๆ และจบลงด้วยการถูกทอดทิ้งเหมือนผู้หญิงทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเจ้าชายซารีฟร์

เจ้าชายซารีฟร์ถึงกับหน้าตึงเมื่อถูกปฏิเสธสิ่งที่ตนเองได้พยายามหยิบยื่นให้ “ทำไมไม่รับดอกไม้ หรือว่าราคาค่างวดน้อยเกินไป”

“จะมากหรือน้อยน้ำหนาวก็ไม่ต้องการ”

โครม!!!...ดอกกุหลาบช่องามแดงสะพรั่งถูกขว้างทิ้งลงพื้นตามแรงอารมณ์ของเจ้าชายหนุ่มที่โยนผ่านใบหน้างามหล่นไปนอนสงบนิ่งอยู่ตรงปลายเท้าเล็กเปล่าเปลือย

นาราภัทรสะดุ้งเฮือกกัดเม้มริมฝีปากแน่นกล้ำกลืนก้อนสะอื้นลงคอขณะก้มลงมองดอกกุหลาบดอกหนึ่งที่หักจากช่อกระเด็นมาตกอยู่บนเท้าเล็ก ต่อไปชีวิตของเธอคงไร้ค่าดุจดังกับดอกกุหลาบเหล่านี้

เจ้าชายซารีฟร์กระแทกเท้าเดินย่ำเหยียบดอกกุหลาบจนแหลกคาเท้า มือใหญ่กระชากร่างบอบบางจนตัวลอยเข้ามาปะทะกับอกแข็งแกร่งดุจหินผา ปลายนิ้วที่จับยึดต้นแขนเนียนไว้บีบแน่นอย่างลืมตัว ใบหน้าคมถมึงทึงดวงตาลุกวาวด้วยดวงไฟพิโรธ

“เราต้องการมาแก้ไขเหตุการณ์ทุกอย่างให้มันถูกต้อง ทำไมเจ้าไม่ยอมรับไม่ให้โอกาส”

“แก้ไข?...แก้ไขยังไงคะ...หรือว่าการมาบังคับให้น้ำหนาวเป็นนางในฮาเร็มจะเรียกว่าเป็นการแก้ไขให้สถานการณ์ดีขึ้น”

“นรก!...”

เจ้าชายนักรักหล่อเหลาสบถลั่น นาราภัทรช่างยั่วกวนให้ตะกอนของความโมโหร้ายลุกโชนขณะเดียวกันก็ร่ายมนต์ปลุกอารมณ์แห่งเพลิงรักให้คุกรุ่นได้พร้อมๆ กัน

“ทำไมเจ้าถึงชอบพูดถึงการเป็นนางบำเรอนางในฮาเร็มยิ่งนัก ทำไมสิ่งที่เราปรารถนายกย่องให้เจ้าเป็นทำไมเจ้าไม่ยอมรับ ถ้าหากเจ้าอยากเป็นนางบำเรอนักเราก็ไม่ขัดศรัทธา”

ริมฝีปากที่กระแทกจุมพิตดุดันลงมาโดยไร้ความปราณีอ่อนโยนทำให้นาราภัทรเจ็บจนน้ำตาเล็ดต้องเผยอปากออกกว้างปล่อยให้ปลายลิ้นนุ่มสอดเข้าไปควานหาดูดชิมความหวานฉ่ำได้ตามอำเภอใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พายุรักแห่งเม็ดทราย