บุรุษชายชาติอาหรับในชุดสูทสากลสีดำสนิทที่ได้ส่งให้ผู้สวมใส่ดูหล่อเหลาคมเข้มได้เดินเข้ามาในร้านอาหารหรูพร้อมๆ กันถึงสามคน ทำเอาสาวๆ ทั้งสาวแก่แม่หม้ายที่นั่งรับประทานอาหารอยู่ต่างก็มองตามทุกจังหวะก้าวเดินของบุรุษหนุ่มอาหรับโดยไม่กะพริบตา โดยเฉพาะบุรุษผู้ที่ก้าวเดินนำหน้าเปล่งรัศมีแห่งความเป็นผู้นำออกมารอบตัวได้เรียกเสียงครางฮือฮาได้จากบรรดาแขกสาวๆ มากเป็นพิเศษและอีกไม่กี่นาทีต่อมาบรรดาแขกหนุ่มๆ ก็ได้ร้องครางออกมาบ้างเมื่อนางแบบสาวหุ่นสะโอดสะองสวมชุดราตรีสั้นสีน้ำเงินเข้มบางเบาที่เจ้าตัวจงใจเปิดให้เห็นสิ่งสวยงามได้เดินตามเข้ามาในร้านพร้อมกับโผเข้าไปสวมกอดแนบแน่นแล้วกดจุมพิตดูดดื่มกับเจ้าชายองค์รองแห่งแผ่นผืนทะเลทรายโดยไม่แคร์สายตานับสิบๆ คู่ที่กำลังจ้องมองอยู่
เมื่อมีคนดังระดับโลกเข้ามาดินเนอร์ที่ร้านเพราะฉะนั้นผู้ที่เป็นเจ้าของร้านอาหารจึงรีบกระวีกระวาดออกมาต้อนรับเจ้าชายซารีฟร์ อัล ริฟาอีลส์ กับนางแบบสาวด้วยตนเอง
“โอ...เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เจ้าชายซารีฟร์เสด็จมาที่ร้านของกระหม่อม”
เจ้าของร้านวัยค่อนคนเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ดีใจที่แขกกิตติมศักดิ์ชื่อดังอย่างเจ้าชายซารีฟร์ได้เดินทางมาดินเนอร์ที่ร้านของตนเอง ในบอสตันถ้าหากใครไม่รู้จักเจ้าชายซารีฟร์ อัล ริฟาอีลส์ เจ้าชายหนุ่มจากดินแดนทะเลทรายที่ได้เดินทางมาศึกษาที่เมืองแห่งนี้ก็ถือว่าเป็นการตกข่าวมากที่สุด เจ้าชายหนุ่มผู้นี้เพียบพร้อมไปเสียทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเรือนกายที่กำยำหล่อเหลาร่ำรวยติดอันดับโลก
“เมนูพะยะค่ะ” เจ้าของร้านได้ยื่นเมนูอาหารให้กับแขกกิตติมศักดิ์ด้วยกริยานอบโน้มพร้อมกับเอ่ยแนะนำอาหารจานเลิศราคาแพง
“พระองค์จะรับอาหารขึ้นชื่อของทางร้านไหมพะยะค่ะ”
“มีอะไรบ้าง”
ลอเรนนางแบบสาวชื่อดังแห่งวงการแคทวอล์คได้เอ่ยถามเจ้าของร้านด้วยน้ำเสียงห้วนๆ ใบหน้าที่แต่งเต้มมาอย่างโฉบเฉียวเชิดขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง
“มีกุ้งล็อปสเตอร์อบซอส ปลาแซลมอนรมควันราดหน้าด้วยไข่ปลาคาเวียร์ น่องแกะออสเตรีย...”
“พอแล้วไม่ต้องสาธยายมาก”
ลอเรนยกมือห้ามก่อนที่เจ้าของร้านจะเอ่ยจบ หญิงสาวหันไปยิ้มหวานพร้อมกับเอ่ยถามเจ้าชายซารีฟร์ด้วยน้ำเสียงออดอ้อนราวกับเป็นคนละคนที่ตวาดเจ้าของร้านเมื่อสักครู่
“เจ้าชายทานอะไรดีค่ะ”
“อะไรก็ได้”
เจ้าชายซารีฟร์เอ่ยตอบสั้นๆ ไม่ได้สนใจรายการอาหารที่เจ้าของร้านเอ่ยแนะนำเพราะตอนนี้หัวใจแข็งแกร่ง ดวงตาคมกริบกำลังกวาดมองหาหญิงสาวตัวเล็กแต่ทรงอิทธิพลต่อจิตใจของเขายิ่งนัก
“ถ้างั้นลอเรนสั่งอาหารขึ้นชื่อของทางร้านมาทานนะคะ”
ลอเรนฉอเลาะยิ้มหวานพยายามบดเบียนปทุมอวบอิ่มขาวผ่องที่โผล่ให้เห็นเกือบครึ่งเข้าไปแนบชิดกับต้นแขนแข็งแกร่งภายใต้สูทสีดำ ใบหน้างามที่แต่งด้วยเครื่องสำอางค่อนข้างจัดยื่นเข้าไปใกล้จนจมูกโด่งริมฝีปากที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสดสัมผัสหนักหน่วงกับแก้มสากหล่อเข้ม
“แล้วแต่เจ้า อยากกินอะไรก็สั่งไป”
เจ้าชายหนุ่มเอ่ยบอกเสียงราบเรียบไม่ได้ใส่ใจคู่ดินเนอร์สักนิด ไม่สนใจว่าลอเรนจะสั่งอะไรบ้าง ต่อให้อาหารที่ปรุงแต่งเลิศรสมากเพียงใดก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอร่อยหรือเจริญอาหารไปได้ถ้าหากต้องมารับประทานกับคนที่ไม่ได้รักใคร่ ผิดกับอาหารพื้นๆ ปรุงแต่งอย่างเรียบง่ายถ้าหากได้ทานกับหญิงอันเป็นที่รักก็ทำให้อาหารจานนั้นกลายเป็นอาหารทิพย์ขึ้นมาได้ในพริบตา และวัตถุประสงค์ที่พาลอเรนมาดินเนอร์ในร้านหรูแห่งนี้ไม่ใช่เพื่อต้องการมากินอาหารหรูราคาแพง
เจ้าชายซารีฟร์กวักมือเรียกให้เจ้าของร้านมายืนใกล้ๆ จากนั้นได้เอ่ยบอกความประสงค์ของตนเองออกไป
“ให้เด็กเสริฟชาวไทยที่ชื่อนาราภัทรมาบริการเรา”
และนี่ต่างหากคือสิ่งที่เขาต้องการ เขาอยากรู้ว่านาราภัทรจะรู้สึกเช่นไรถ้าหากได้เห็นเขาอยู่กับหญิงสาวอื่นที่เรียกได้ว่าสวยเซ็กซี่ไม่แพ้เธอ
องครักษ์ราชิตกับอาดิลซึ่งนั่งอยู่โต๊ะถัดไปใกล้ๆ กับโต๊ะของเจ้าชายหนุ่มได้หันมามองหน้ากันแล้วต่างก็ถอนหายใจยาวด้วยความหนักใจไม่เข้าใจว่าเจ้าเหนือหัวของพวกตนกำลังเล่นเกมส์อะไรอยู่ ซึ่งแน่ๆ หลังจากเกมส์ในค่ำคืนนี้จบลงแล้วคนที่เจ็บปวดรวดร้าวก็คือตัวเจ้าชายซารีฟร์เอง
“เอ่อ...นาราภัทรต้องดูแลแขกโซนอื่นพะยะค่ะ โซนนี้เป็นหน้าที่ของเด็กเสริฟคนอื่นพะยะค่ะ”
เจ้าของร้านเอ่ยตอบอย่างน้อบน้อมออกจะงุนงงอยู่บ้างกับคำสั่งของเจ้าชายหนุ่มผู้หล่อเหลาทรงอำนาจ
เจ้าชายซารีฟร์ตบโครม! ลงไปบนโต๊ะอาหารด้วยความโกรธจากนั้นก็เอ่ยสั่งเสียงดังทำให้แขกโต๊ะอื่นต้องหันมามองด้วยความตกใจ
“ถ้างั้นคืนนี้เราเหมาร้านอาหารของเจ้า เท่าไหร่ก็ว่ามาแล้วไล่แขกทุกคนออกไปจากร้านให้หมด”
“กระ...กระหม่อมจะไปตามนาราภัทรมาเดี๋ยวนี้พะยะค่ะ”
เจ้าของร้านละล่ำละลักบอกด้วยความหวาดกลัวอย่าว่าแต่เหมาร้านเลยต่อให้ซื้อร้านอาหารของตนและร้านใกล้เคียงอีกสักสิบร้านเจ้าชายซารีฟร์ผู้ร่ำรวยติดอันดับโลกก็สามารถทำได้ และเมื่อรับคำสั่งเรียบร้อยเจ้าของร้านรีบเดินเป็นวิ่งกลับเข้าไปหลังร้านเพื่อทำตามคำสั่งของเจ้าชายหนุ่ม
“ทำไมต้องให้เด็กเสริฟที่เป็นคนไทยมาบริการด้วยคะ”
ลอเรนเอ่ยถามด้วยความสงสัย ขณะเดียวกันนิ้วเรียวยาวที่เคลือบด้วยน้ำยาทาเล็บสีเดียวกันกับริมฝีปากอิ่มได้ลูบไล้ทั่วแผ่นอกกว้างผ่านเสื้อสูทตัวหนาเมื่อพยายามจะแหวกเสื้อเชิ้ตสีดำสนิทเข้าไปสัมผัสเนื้อแท้ของแผงอกกว้างแข็งแกร่งก็ถูกเจ้าชายหนุ่มขึงตามองสั่งห้ามเสียงห้วน
“เอามือออกเดี๋ยวนี้ลอเรน”
“โธ่...เจ้าชายขา...ลอเรนคิดถึงเจ้าชาย นานแล้วนะคะที่เจ้าชายไม่เคยเรียกลอเรนมารับใช้เลย”
สิ่งที่นางแบบสาวเอ่ยตัดพ้อออกมาเป็นเรื่องจริงที่สุด เพราะตั้งแต่พบกับนาราภัทรเจ้าชายองค์รองแห่งแผ่นผืนทะเลทรายก็ไม่เคยสนใจหญิงสาวผู้อื่นอีกและเมื่อลอเรนไม่หยุดการกระทำลูบไล้หน้าอกของตนเจ้าชายซารีฟร์จึงจับมือบางออกห่างแล้วบีบเน้นกัดฟันออกคำสั่งเสียงห้วนดังลั่น
“บอกให้หยุด!...”
“ค่ะ...ค่ะ...หยุดแล้วค่ะ”
ไม่ใช่แค่ลอเรนเท่านั้นที่สะดุ้งเฮือกตกใจกลัว อาดิลกับราชิตที่เฝ้าสังเกตการณ์ตลอดเวลาต่างก็ตกใจกับน้ำเสียงตวาดห้วนของเจ้าชายหนุ่มเช่นเดียวกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พายุรักแห่งเม็ดทราย