"คุณแม่คะ... เมย์ยังไม่อยากผูกมัดกับเขา เมย์กราบขอโทษคุณแม่จริง ๆ ค่ะ " ฉันทบทวนอยู่หลายรอบ กว่าจะตัดบอกแม่พี่ทีตามตรง ฉันไม่รู้เลยว่าตัวเองจะทนพี่ทีได้นานแค่ไหน... แต่ฉันมั่นใจ ว่าฉันจะไปจากเขา ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมด้วย ฉันกับลูกจะได้ไม่ลำบาก
"แม่เข้าใจ แต่หนูเมย์จะทิ้งตาทีไปใช่ไหมลูก" แม่พี่ทีจ้องฉันตาละห้อย ฉันอึดอัด อึดอัดจนพูดไม่ถูกเลยตอนนี้
"คุณแม่คะ... เมย์ไม่แน่ใจเลยค่ะ เมย์รักเขา แต่เมย์ทนเขาไม่ไหวแล้วค่ะคุณแม่ เมย์ทนมาสองปี เมย์ทนที่สุดแล้วจริง ๆ ค่ะ" แม่พี่ทีตบบ่าฉันเบา ๆ แล้วพยักหน้า
"หนูเมย์ แม่อยากให้หนูเมย์อยู่ต่อนะ แม่เข้าใจหนู... แม่จะช่วยเอง เราครึ่งทางกัน... ถ้าหากตาทีไม่หยุด แม่จะไม่ห้ามหนูเมย์เลย" อยู่ๆน้ำตาฉันก็ไหลลงอาบแก้ม... ถ้าแม่ฉันยังอยู่ แม่ฉันจะอบอุ่นแบบนี้ไหม
เห้อ... มันคงจะดีถ้ามีแม่อยู่ข้าง ๆ
"ขอบคุณค่ะคุณแม่ ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ" ฉันรีบปาดน้ำตาตัวเอง
"อย่าร้องไห้สิ อดทนเพื่อลูกชาย ฮ่า ๆ เหมือนที่แม่เคยอดทนเพื่อตาทีไง" ฉันรีบเช็ดน้ำตา ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วส่งยิ้มกว้างให้คุณแม่...
เราเดินยิ้มออกมาจากห้อง ก่อนจะตรงไปที่โต๊ะอาหาร ซึ่งคุณพ่อ และพี่ทียังนั่งอยู่
"คุยอะไรกันครับ..." สายตาคมเริ่มจ้องเค้นคำตอบแม่ตัวเอง
"เรื่องของผู้หญิง" พี่ทีพยักหน้า แล้วก้มลง กินข้าวต่อ
"เมย์ วันนี้พี่ไปผับเอสนะ... ไปกับพี่นะ" เขาสะกิดแขนฉันเบา ๆ ให้ตาย ปกติเวลาจะไปแรดชวนฉันที่ไหน
ฉันมองหน้าคุณแม่ทันที คุณแม่ได้แต่ยิ้มแล้วพยักหน้าเบา ๆ ถ้าตอบได้คงตอบว่า 'ไปเถอะจ้ะหนูเมย์'
"ค่ะ" ฉันตอบพี่ทีแต่ไม่ได้มองหน้าเขา
วันนี้ฉันตั้งใจเอาเสื้อเน่าไปคืนผู้ชายข้างห้อง... โชคดีที่ฉันยังไม่คืนคีย์การ์ดให้พี่ที ไม่งั้นต้องคอยแลกบัตรวุ่นวายอีก
หวังว่า เขาคงจะอยู่ห้อง
ฉันออกมาโดยไม่ได้บอกใคร เพราะตั้งใจไปเข้างานที่ร้านกาแฟต่อ... ช่วงนี้ต้องเก็บตังค์ เพื่อลูก เพื่อลูก
Line: Boss
ฉัน: เอาเสื้อมาคืน!! ออกมายืนรอหน้าห้องด้วย ฉันมีธุระต่อ!
Boss: อื้ม! แปป ปวดหัว ๆ
ฉันไม่สนใจ ใครจะปวดหัว รีบแตะคีย์การ์ดขึ้นลิฟต์ ขึ้นไปชั้นห้องพี่ทีทันที...
‘ปิ๊ง~’ เมื่อลิฟต์เปิด ฉันเดินมาที่ห้องเขา ก็ไม่เห็นอีตาเจ้าของเสื้อออกมารอ อะไรเนี่ย อุตส่าห์บอกล่วงหน้า ฉันยิ่งรีบ ๆ อยู่ด้วย
ฉันยืนรอหน้าห้องสักพัก… กดกริ่งรัว ๆ อยู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนนึงเดินมา แล้วมาหยุดที่หน้าห้องพี่ที...
‘ติ๊ด ๆ’ แตะคีย์การ์ดเข้าไป...!
นี่ฉันต้องเห็นความเลวของเขาทุกวันใช่ไหม... ที่พาฉันกลับไปอยู่บ้านคือจะได้สมสู่กันใช่ไหม... โอ้โห จะด่าเห้ ยังสงสารเห้เลย!
"เธอ..." ฉันสะดุ้ง เมื่ออยู่ ๆ ตาข้างห้องก็เปิดประตูออกมา ยืนทำตาปรือ ๆ หน้าซีด ๆ
"อ่ะ เสื้อนาย" เขารับมันไว้ ก่อนจะเซชนประตู...
"อื้ม..." จะตายไหมเนี่ย?
"จะตายแล้วเหรอ เป็นอะไรอะ" ฉันใช้นิ้วชี้จิ้มไหล่เขาเบา ๆ จนเขาเริ่มส่ายหน้ารัว ๆ
"ปวดหัวชิบ" ฉันถอนหายใจ ก่อนจะใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่หน้าผากเขา
"เธอทำอะไร?" เขายกมือขึ้นโวยวาย แต่ฉันปัดมือเขาดัง เพี๊ยะ!
"วัดไข้" หน้าซีด ๆ หัวเราะเบา ๆ
"วัดไข้บ้านเธอทำแบบนี้เหรอ ตลก!" นั่นไงมีแรงกวนประสาทฉันแล้ว
"นายคือคนแปลกหน้า ฉันก็ทำแบบนี้สิ เนี่ย ๆ ใช้นิ้วชี้วัดไข้" เขาจับมือฉันออก... แล้วหัวเราะ
"เธอก็โอเคนะ ถ้าไม่โง่ไปหน่อย" จะตายแล้วยังกวนฉันอีก
"ไปโรงพยาบาลเถอะ เดี๋ยวได้ตายที่คอนโดเป็นผีสิงที่นี่" เขาพยักหน้า ก่อนจะกวักมือเรียกฉันเข้าไปข้างใน
"อะไร จะทำอะไรฉัน!" ฉันโวยวายทันที แล้วตั้งท่าจะเดินหนีไป
"เหอะ! ใครพิศวาสเธอยัยผี มาจับแขนฉันหน่อย เหมือนจะล้มเลยว่ะ!" แล้วมันธุระอะไรของฉันเนี่ย เห้อ
"ขอบใจนะยัยผี..." ขนาดขอบคุณ ยังเรียกฉันดี ๆ ไม่ได้เลย
"อื้ม นอนเถอะ เดี๋ยวก็ตายซะหรอก..."
"กิฟท์เมื่อกี้ของลูกฉันเอง..." นี่เขามีลูกแล้วเหรอเนี่ย ดูลักษณะ ไม่มีความเป็นพ่อคนเลยสักนิด
"ฉันไม่ได้ตั้งใจถาม มันติดอ่ะ แฟนฉันโคตรเจ้าชู้ เวลาเห็นอะไรของผู้หญิงในรถ ปากมันไปเอง..." เขาปรือตามองฉัน
"เธอ... มีแฟนแล้วหรอยัยผี น่าสงสารแฟนเธอจัง" นี่ฉันคิดถูกใช่ไหม ที่ช่วยพาเขาไปโรงพยาบาล น่าจะปล่อยให้เขาตายเป็นผีเฝ้าคอนโดซะ
"มี ฉันว่าจะเลิกแล้วไม่ไหว เจ้าชู้มาก... เสียดาย ฉันพลาดท้อง" เขาลุกขึ้นมานั่งทันที
"เธอท้องเหรอ?" ฉันพยักหน้า แต่ตายังมองถนน
"เขารับผิดชอบเธอมั้ย..." ฉันเม้มปากแน่น
"รับ แต่เขาไม่หยุดเจ้าชู้ ฉันทนมาตั้งสองปี จึงคิดว่า จะเก็บเงินให้ได้เยอะ ๆ ค่อยพาลูกไปอยู่ที่อื่น" เขาถอนหายใจแรง ๆ จนฉันรู้สึกอุ่น ๆ ที่แขน...
"เธอจะเป็นแม่ม่ายลูกติดเหรอ..." ฉันพยักหน้าตอบ
"อืม"
"เหอะ เหมือนฉันเลย แม่เขาก็หนีไป..." ฉันจอดรถติดไฟแดงและหันไปมองหน้าเขา ไม่รู้พูดจริง หรือพูดเล่น
"นายก็เจ้าชู้สินะ เหอะ ผู้ชายก็เหมือนกันทุกคน" เขาส่ายหัว
"ไม่ ฉันแค่โง่ว่ะ ไม่รู้ว่าลูกฉันไหม แต่ฉันก็รับผิดชอบหมด... พอเขาคลอดเสร็จ เขาก็ทิ้งลูกไป ไม่รอผล DNA เลย พอผลออก ปรากฎว่า ไม่ใช่ลูกฉัน แต่ฉันก็เลี้ยงเขานะ ตอนนี้ก็รักเหมือนลูกไปแล้ว" มันมีแม่แบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย?! ทิ้งลูกไปได้ยังไง
"เขาอาจจะทนมานาน" เขาหัวเราะเบา ๆ
"เห้อ... นี่! อย่าเป็นคนดีจนสุดท้ายกลายเป็นคนโง่แล้วกัน! ฝึกเลวไว้บ้าง อย่างน้อย ก็เอามันมาเป็นภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง" ฉันกรอกตามองบน... แต่ก็แอบเอาคำพูดเขามาคิด...
ภูมิคุ้มกันให้ตัวเองงั้นเหรอ...
น่าสนใจแหะ...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พัง