ฉันได้ยินไม่ผิดใช่มั้ย เขาขอฉันเป็นแฟนบนอกฉันเนี่ยนะ
“พี่ทีขอหวานเป็นแฟนตอนนี้ จะเชื่อได้ไหมคะ” เขาละหน้าขึ้นมามองฉัน ก่อนจะยิ้มหล่อ ๆ มาให้
“เชื่อได้สิ”
“พี่ทีไม่ได้ชอบหวานหรือรักหวานหรอก พี่ทีกำลังหลงหวานต่างหาก”
เขาหยุดการกระทำทุกอย่างและจ้องฉัน
“พี่ไม่เคยรู้สึกกับใครแบบนี้เลยหวาน...”
“อื้ม หวานก็ไม่ค่ะ แต่ที่เรามีอะไรกันแบบนี้ มันแค่บ่งบอกว่า เซ็กส์ของเราเข้ากันได้เท่านั้นล่ะ แต่นิสัย ความรู้สึกอย่างอื่น เราจะเข้ากันได้ไหมล่ะคะ”
ตาคมจ้องฉัน และเอื้อมมือมาบีบมือฉันแน่น
“หวาน... เราศึกษากันไปนะ พี่มั่นใจว่าชอบหวาน ไม่ใช่แค่หลง” ฉันไม่ปักใจเชื่อผู้ชายตรงหน้าเท่าไหร่ ถามว่าชอบเขาไหม ก็ชอบนะ แต่เรื่องหัวใจฉันไม่อยากให้มันถลำลึกไปมากกว่านี้ ถ้าฉันไม่แน่ใจจริง ๆ
“อื้ม เราศึกษากันได้ค่ะพี่ที หวานไม่แน่ใจว่าหลังจากศึกษากันแล้ว พี่ทียังจะอยากขอหวานเป็นแฟนอยู่รึเปล่า” เขาขมวดคิ้วสงสัย
“ทำไมหวาน... หวานไม่ชอบพี่เหรอ”
“หวานชอบพี่ค่ะ หวานแค่ไม่อยากเสียใจทีหลัง มันเร็วเกินไปค่ะ” ฉันบอกเขาไปตรง ๆ ตามที่ฉันคิด
“ไม่เกี่ยวกันหรอกหวาน ว่าช้าหรือเร็ว”
“แล้วพี่ทีเคลียร์กับแฟนเก่าแล้วใช่มั้ยคะ” เขาพยักหน้า และยื่นมือถือมาให้ฉัน
“หวานโทรถามเขาดูได้ ไม่ถ้าเขาโทรมาหวานก็รับเลย” ฉันไม่ได้หยิบโทรศัพท์จากมือเขา ได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธ
“หวานไม่เช็คมือถือใครค่ะ ถ้าหวานเชื่อใจอยู่ ก็อย่าให้มันพังแล้วกัน
บางทีหวานอาจจะกลายเป็นคนอีกคน ที่พี่ทีรำคาญก็ได้” เขาสงสัยในคำพูดฉัน
แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร ก้มหน้ามาหอมแก้มฉันฟอดนึง
“พี่จะทำให้หวานมั่นใจเอง พี่ชอบหวาน ที่หวานตรง ๆ และ รู้ทันพี่”
เขาก็แปลกคน ทำไมถึงชอบผู้หญิงที่รู้ทันเขา ถ้าหากเขาทำผิดฉันต้องตามจับผิดเขางั้นสิ วนเวียนอยู่แบบนั้นแน่ ๆ
“ศึกษากันไปก่อนนะคะ ไว้พี่ทีชัวร์จริง ๆ ค่อยมาขอหวานเป็นแฟนค่ะ” เขายิ้มและหอมแก้มฉันซ้ายขวา ที่เราทำกันตอนนี้มันก็เหมือนแฟนนั่นล่ะ แต่แค่สถานะเท่านั้นที่ยังไม่ได้ตั้งขึ้นมา เพราะฉันยังไม่ไว้ใจเขา ไว้แค่ตัวก่อนก็พอ
ฉันขอให้พี่ทีมาส่งที่ห้อง เพราะเป็นห่วงแตงโม ฉันคิดไว้ว่า ถึงจะออกไปแรดแค่ไหน ฉันก็ไม่ทิ้งเพื่อนไปนอนกับผู้ชายเด็ดขาด เป็นห่วงมัน ถ้าพาไปนอนด้วยได้ ฉันพาไปแล้วแล้วล่ะ เหอ ๆ
พอเข้ามาในห้องฉันก็เห็นแตงโมก็ร้องไห้ใหญ่?
“มึง... ฮือ ๆ แม่เวีย เสียแล้ว” ใจฉันหล่นไปที่ตาตุม ทำอะไรไม่ถูก อยู่น้ำตาก็ไหลออกมา
“เรากลับไปอยู่เป็นเพื่อนมันไหม” แตงโมส่ายหน้า เฮ้อใช่สินะวีซ่าทีฉันได้มา เข้าออกอเมริกาได้แค่ครั้งเดียว
“ฮือ ๆ ไม่ได้มึง สงสารมันจัง มันไม่เหลือใครแล้ว” ฉันไม่สนใจ ได้แต่กดโทรหาณีเวียทั้งที่มือสั่น ๆ แบบนั้น
โทรออก | Nivea
(ฮะ ฮัลโหล ฮือ ๆ)
“มึงไหวไหม สู้ ๆ นะเพื่อน”
(อื้ม กูจะพยายาม ฮึก ๆ ฮือ ๆ กูจะพยายาม)
“เดี๋ยวกูกลับไปหานะ”
(มึงทำหน้าที่ตัวเองเถอะ หวาน ฮือ ๆ กูอยู่ได้ อย่ามานะ กูอยู่ได้ฮือ ๆ)
ฉันได้แต่นั่งน้ำตาไหล ฟังเสียงณีเวียสะอื้นไห้
ระหว่างนั้นฉันเฟสไทม์กับณีเวียทั้งคืน ไม่ยอมให้มันวาง เหมือนเราสามคนอยู่ด้วยกัน ถึงมันเอาแต่ร้องไห้ ร้องไห้ก็เถอะ ฉันกับแตงโมก็จะได้ปลอบ
และอย่างน้อยมันจะได้รู้ด้วย ว่ามันยังมีพวกเราอยู่ข้าง ๆ
เช้าวันนี้ฉันมาทำงานในสภาพอิดโรยมาก รวมถึงแตงโมด้วย ในใจก็ห่วงเพื่อนอยู่ไม่รู้เป็นยังไงบ้าง
“หวานกินอะไรรึยัง พี่ซื้อสปาเก็ตตี้ร้านดังมาฝาก ของแตงโมด้วย
อ่าว หวานเป็นอะไร? ไม่สบายเหรอ” พี่ทียื่นกล่องสปาเกตตี้สองกล่องให้ฉันที่เคาน์เตอร์ แล้วต้องตกใจเมื่อเห็นสภาพฉัน... อายอยู่เหมือนกันนะ คนที่กำลังจีบ ๆ กันอยู่ มาเจอฉันสภาพศพแบบนี้
“พี่ทีจำ เพื่อนหวานได้ไหมคะ ที่เอารูปให้ดูที่บาร์”
พี่ทีนึกแป๊บนึงก่อนจะพยักหน้า
“อ่อ... จำได้”
“แม่เขาเสียแล้วค่ะ หวานเป็นห่วง นอกจากพวกหวานแตงโม ณีเวียก็ไม่ค่อยมีใคร วีซ่าหวานก็กลับไทยไม่ได้อีก”
“หวานไหวรึเปล่า ไปพักก่อนไหม แตงโมด้วย เรื่องงานพี่คุยให้” ฉันได้แต่พยักหน้า ไม่อยากทำแล้วงาน ง่วงมาก ดีที่เขาคุยให้ได้ เพราะเรื่องงานฝรั่งซีเรียสมาก ต้องใช้เหตุผลเยอะ ซึ่งฉันก็พูดไม่ถูกหรอก ไม่ได้เก่งขนาดนั้น
ฉันมาถึงห้องพร้อมกล่องสปาเกตตี้ 2 กล่อง และรีบวีโอคอลหาณีเวียเหมือนเดิม ณีเวียก็ยังร้องไห้เหมือนเดิม พวกเรานั่งคุยไปด้วยกินไปด้วย…
“พี่ทีดีอยู่นะ ดูสิจีบแกด้วย นึกถึงเพื่อนแกด้วย” แตงโมพูดไปกินไป
อยู่ ๆ ข้อความไลน์ก็เด้งขึ้นโชว์หน้าจอ
‘ตึ๊ง~’
[T: หวานไม่ต้องห่วงเพื่อน ไอ้เซ็นกลับไทยวันนี้พรุ่งนี้คงถึง มันไปงานศพด้วย เดี๋ยวมันดูให้]
ฉันโล่งใจขึ้นมาบ้าง เลยเริ่มกินข้าว วันนี้พี่ทีได้ใจฉันไปเต็ม ๆ
เมื่อฉันกินสักพักอยู่ ๆ วีดีโอคอลณีเวียก็หลุดไป สงสัยแบตหมด
โทรเท่าไหร่ก็ไม่รับ อยากให้ถึงพรุ่งนี้ไว ๆ จะได้รู้ข่าวทางนั้น
เมื่อคืนฉันไม่ได้ไปแรดที่ไหน เพราะง่วงมาก กับพี่ทีก็คุยไลน์แค่แป๊บเดียวเท่านั้น เช้านี้ฉันมาทำงานปกติตามเดิม ก็เจอพี่ทีรออยู่ พร้อมยืนกาแฟสตาร์บัคส์มาให้ฉันและแตงโมคนละแก้ว ทำคะแนนไปอีก แถมทำคะแนนกับเพื่อนฉันด้วย
“ขอบคุณค่ะพี่ที” แตงโมยิ้มขอบคุณไป ส่วนฉันไม่ได้พูดอะไร หยิ่งในศักดิ์ศรี เพราะคนที่รุกตอนนี้ไม่ใช่ฉันแล้ว เป็นพี่ทีต่างหาก ที่ทยอยส่งข้าวส่งน้ำ
ส่งทุกอย่าง งานอะไรคงไม่ดูแล้วมั้ง กลุ่มเพื่อนคนไทยที่มากับเขาก็แซวไม่หยุด
ตกเย็นใกล้จะเลิกงานพี่ทีก็รีบเดินมาหาฉัน
“หวาน... ไอ้เซ็นไปงานศพแล้วนะ” ฉันและแตงโมหันมาสนใจพี่ทีทันที
“เป็นไงบ้างคะ คุณเซ็นเจอณีเวียไหม ได้คุยไหม”
“ไม่ได้คุย เพื่อนหวานไม่คุยกับใคร เห็นมันบอกว่า พ่อน้องเขา น้องเขายังไม่คุยเลย เอาแต่ร้องไห้หลังโลงศพ ไม่ยอมออกมาเจอใคร มันเองก็ไม่ได้เจอเหมือนกัน” สไตล์ณีเวียเลย
เฮ้อ... ฉันได้แต่ถอนหายใจ พยายามโทรหาณีเวียอีกรอบก็ไม่ติด ยังไง ๆ ก็ไม่ติด
พี่ทีเดินมาใกล้ ๆ ฉันก่อนจะจับมือฉันแน่น แตงโมมองฉันและมือที่ถูกจับอยู่สลับกัน
“อย่าเครียด... พี่อยู่ข้าง ๆ หวานนะ” พี่ทียกมืออีกข้างขึ้นมาลูบหัวฉัน
เบา ๆ จนฉันเองทนไม่ไหว เผลอน้ำตาไหล และลงไปซบอกเขา
“ขอบคุณนะคะ ถ้าเพื่อนพี่ทีไปอีก หวานฝากดูเพื่อนด้วยนะ”
“ครับ” ฉันรีบเช็ดน้ำตา ก่อนจะรีบตอกบัตรเก็บชั่วโมง ฉันกับแตงโมไม่อยากกลับห้อง เพราะเบื่อ เราเลยออกมานั่งริมทะเลกัน รวมถึงพี่ทีด้วย ตอนนี้เป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มฉันไปแล้ว
“พี่ทีชอบเพื่อนหนูตรงไหนคะ” แตงโมหันไปถามพี่ที หวังทำลาย
ความเงียบ มันคงคิดว่าพี่ทีจะเกร็งที่มันนั่งอยู่ด้วย แกเข้าใจผิดแล้วแตงโม แกยังไม่ทันเหมือนเดิม
“หวานเป็นคนตรง ๆ น่ารักดี” บางทีคนตรง ๆ กับคนปากหมาก็มีเส้น
บาง ๆ กั้นอยู่เหมือนกัน ฉันคิดว่าตัวเองเป็นแบบนั้น
“แตงง่วงอีกแล้วค่ะ ฝากหวานด้วยนะคะพี่ที ฮ้าว” แตงโมทำง่วงและบิดขี้เกียจวิ่งกลับไป ฉันจะห้ามก็ไม่ทัน
“มึงล็อคห้องดี ๆ นะแตง ถึงห้องและไลน์มา” ฉันตะโกนตามหลังไป
มันคงคิดว่าเป็นก้างขวางคอล่ะมั้ง ก็เป็นจริง ๆ นั่นล่ะ
พี่ทีเดินไปไหนไม่รู้ ก่อนจะถือเบียร์มาสองขวด และมานั่งลงข้าง ๆ ฉันมีแอลกอฮอล์อีกแล้ว รู้สึกเหมือนจะเสียตัวอีกแล้ว
“ซื้อแอลกอฮอล์มาแบบนี้ อยากเมา..หรืออยากหวานคะ” ฉันถามและยิ้มเบา ๆ ให้เขา พี่ทีปลดกระดุมเสื้ออีกแล้ว กางเกงสแล็คก็ถูกพับขาขึ้น ทำไมเขาทำอะไรดูดีไปหมดเลยนะ เห็นแล้วหิวอีกแล้ว คนอะไรน่ากิน ทั้งหุ่น ทั้งหน้า
“อยากทั้งคู่” นั่นไง
‘ครืน ครืน ครืน~’ ไม่ใช่ของฉัน สงสัยของพี่ที
เขาล้วงมือถือออกมาจากกางเกงก่อนจะมองหน้าฉัน?
“หวาน… เขาโทรมา”
“ใครคะ?”
“พราว”
“แล้วยังไงคะ” ฉันไม่สนใจ ยกเบียร์ขึ้นมาดื่ม
“หวานให้พี่คุยไหม” ฉันหันไปมองหน้าพี่ทีอีกครั้ง ..เขาจะถามฉันทำไม ไหนว่าจัดการแล้ว
“อ่าวพี่ทีเคลียร์ยังไงคะ เขาถึงยังโทรมา?”
“เขาพยายามตื้อพี่ พี่บอกเลิกไปนานแล้ว โทรมาแบบนี้ตลอด” ฉันมองมือถือที่สั่นในมือพี่ที ก่อนจะหยิบมันมากดรับ
‘ติ๊ด’
“โทรมาหาผัวคนอื่น มีอะไร?”
พี่ทีดูตกใจ แต่ก็แอบอมยิ้มเบา ๆ
(เธอเป็นใคร มารับโทรศัพท์ทีได้ไง!)
“เราชื่อน้ำหวาน แล้วเธอโทรหาแฟนคนอื่นทำไม”
(แฟนคนอื่น? นี่! นี่แกใช่มั้ยที่แย่งทีไป)
“อะไรใครแย่ง มีสมองก็เอาไปคิดใหม่ ฉันไม่ใช่พวกลักกินขโมยกิน และก็ไม่ใช่พวกที่มีแฟนอยู่แล้ว และไปเอากับคนอื่น เหมือน เหมือนใครนะ เอ… เหมือน เอ้อ! เหมือนเธอไง ใช่ ๆ เหมือนเธอ”
(นี่! อย่ามายุ่งเรื่องของฉันนะ)
“แล้วเธอมายุ่งอะไรกับแฟนฉันล่ะ”
(ฉันไม่เลิกกับที ฉันจะไม่เลิกกับเขา เข้าใจไหม!)
“หนาจัง”
(อะไรหนา?)
“หน้าเธอ”
(แกอยู่ไหน! ฉันจะฆ่าแก กรี๊ด…)
ฉันรีบดึงโทรศัพท์ออกจากหู ปล่อยให้มันกรี๊ดให้จบ
“กรี๊ดจบแล้วเนอะ... กรี๊ดเสร็จแล้วเป็นไงบ้าง สติยังมีนะ ไม่ได้บ้าใช่มั้ย?”
(แกสิบ้า! ทีอยู่ไหน! ให้ทีมาคุยกับฉัน)
ฉันหันไปมองพี่ที เขากำลังมองฉันอยู่
“เนี่ย เขาอาบน้ำอยู่”
(หน้าด้าน!)
“ขอบคุณ”
(แกทำอะไรกับเขา!)
ฉันเอาโทรศัพท์ออกจากหูอีกครั้ง เพราะแสบหูเหลือเกิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลาด