ประตูปีกนกรถหรูถูกเปิดออกเขาลงจากรถและเดินหายไป ฉันได้แต่นั่งร้องไห้ฟูมฟายอยู่ในรถคนเดียว ใครเดินผ่านหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปรถเขากันใหญ่ โถ่... หวังว่าหน้าฉันจะไม่ไปแผ่หลาอยู่บนเฟซบุ๊กใครนะ
ด้านเซ็น เขาไม่อยู่นิ่ง รีบ กดโทรศัพท์หาพ่อของณีเวียทันทีที่พ้นสาย
ตาหญิงสาว
(สวัสดีครับ)
“คุณอาครับ พอดีวันนี้ณีเวียกับคุณนัทมีปากเสียงกัน” ปลายสายเงียบไปสักครู่ก่อนจะเดินหลบออกมาคุยส่วนตัว
(ณีเวียเป็นยังไงบ้าง ผมเป็นห่วงเธอ) ปลายสายเสียงเริ่มสั่นเครือ เขาเป็นห่วงลูกสาวดื้อ ๆ ของเขาเหลือเกิน
“ณีเวียเป็นห่วงคุณอามาก คุณนัทเขาขู่ณีเวียว่าจะปอกลอกคุณอา
คุณอาดูแลตัวเองด้วยนะครับ” เสียงสะอื้นของปลายสายดังเล็ดลอดออกมาจาก
มือถือ เขาดีใจ... ที่ลูกสาวยังรักและเป็นห่วงเขาอยู่
(ผมพอจะรู้ แต่ผมจำเป็นต้องอยู่กับคุณนัท เพราะเธอกำลังท้อง ที่ผมต้องดุณีเวีย ผมแค่ไม่อยากให้เธอเป็นเด็กก้าวร้าว แต่เธอกลับคิดว่าผมไม่รักเธอ)
“ณีเวียรู้ไหมครับ? ว่าเธอกำลังจะมีน้อง”
(ไม่รู้) เซ็นได้แต่ส่ายหน้าสงสารหญิงสาวจับใจ เธอจะรับได้หรือไม่ ถ้าเด็กที่ขึ้นชื่อว่าเป็นน้องของเธอเกิดมาจากคนที่เธอเกลียดที่สุด
“คุณอาไม่ต้องห่วงณีเวียครับ ผมจะดูแลน้องเอง เรื่องก้าวร้าวผมจะพยายามสอนเอง คุณอาดูแลตัวเองดี ๆ นะครับ อีกอย่างผมมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณอา แล้วผมจะหาเวลาเข้าไปพบครับ”
(ขอบคุณครับคุณเซ็น ผมสบายดี ผมรู้ทุกอย่าง บอกณีเวียไม่ต้องเป็นห่วงผม ตั้งใจเรียนให้จบก็พอ) เสียงปลายสายสั่นเครืออีกครั้งเมื่อต้องพูดถึงลูกสาว
ของเขา
“ไม่เป็นไรครับ ผมยินดี”
เขากดวางสาย ก่อนจะรีบกลับไปขึ้นรถ รู้สึกเป็นห่วงคนข้างใน
คุณเซ็นเดินกลับมาขึ้นรถ ตาคมหันมามองฉันแว๊บนึง
“คุณหายไป จนฉันขี้เกียจจะร้องไห้แล้ว”
มือใหญ่เอื้อมมายีหัวฉันเบา ๆ ฉันหันไปมองหน้าเขาอีกครั้ง อยากจะมั่นใจว่าคนที่ขึ้นมานี้ ใช่เขาหรือเปล่า ทำไมตอนนี้เขาดูอบอุ่นกว่าที่เคยเป็น
“เดี๋ยวพาไปกินเหล้า ทีกับน้ำหวานรออยู่”
ฉันเผลอยิ้มดีใจออกมา เขาจะพาไปกินของโปรดแถมยังได้เจอ
เพื่อนสนิทด้วยไม่นานเราสองคนก็มาถึงผับ S
หน้าผับมีการ์ดสี่ห้าคนยืนที่ประตู เขาทักทายคุณเซ็นอย่างสนิทสนม
แถมกระซิบกระซาบกันอีก
“แหม ช่วงนี้ไม่เจอเลยนะครับคุณเซ็น หรือว่าลาออกจากวงการไปแล้ว” วงการอะไรของเขานะ ฉันพยายามเอียงหูฟัง เพราะเพลงในผับดังออกมา
ถึงข้างนอก
“ยัง ดูก่อน” คุณเซ็นตอบกลับเรียบ ๆ และจูงมือฉันเดินเข้ามา
ผับจ๋าณีเวียมาแล้ว (ไหนว่าเศร้าอยู่) ฉันเดินลัดเลาะขึ้นไปชั้นบน VIP ก็เจอ น้ำหวาน พี่ที แตงโม และผู้ชายอีกคนที่ฉันไม่เคยเห็นหน้า
“แก มานั่งนี่” น้ำหวานตบโซฟาให้ฉันไปนั่ง แตงโมไม่ทักฉัน แต่ฉันสังเกตได้... ว่าแตงโมหน้าแดงมาก
ตาฉันไม่ฝาดหรอก แตงโมกำลังหน้าแดงอยู่จริง ๆ
“ณีเวียรู้จักทุกคนแล้ว เหลือเพื่อนพี่ครับชื่อเอสเอ้อ เพื่อนไอ้เซ็นด้วย”
พี่ทีแนะนำฉันให้รู้จักพี่เอส เขาเป็นชายหน้าตาดีในระดับนึงเลยล่ะ ขาวสักลาย
เบา ๆ หล่อแบบแบดบอยไม่เหมือนคุณเซ็น หล่อเหมือนเจ้าชาย...
ฉันรีบตบหน้าตัวเองให้หลุดจากความความคิดบ้า ๆ ที่ผุดขึ้นมาในหัว
“ฮ่า ๆ น้องไม่ต้องตบตัวเองก็ได้ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ เหมือนที่ไอ้เซ็นเล่าจริง ๆ ฮ่า ๆ” ฉันหันขวับไปมองหน้าตาหน้าเมื่อยทันที ไปนินทาอะไรฉันไว้อีก!
“หุบปาก” เรียกเสียงหัวเราะของพี่เอสดังขึ้นอีกระรอก อะไรจะอารมณ์ดีขนาดนี้พ่อคุณ
ฉันหันไปหาแตงโมที่หน้าแดงนั่งนิ่งอยู่ ไม่พูดไม่จาสักคำ
“แกเป็นอะไร ไม่สบายเหรอ” แตงโมเงยหน้ามองฉัน ก่อนจะส่ายหน้า
เบา ๆ นางเงียบไม่สมกับเป็นแตงโมจอมแก่นที่ฉันเคยรู้จักเลยสักนิด
น้ำหวานเดินไปนั่งข้างพี่ที บอกว่าอยากให้ฉันอยู่ข้าง ๆ คุณเซ็น แผนของนางล่ะ ที่จริงนางอยากนั่งใกล้ผู้ของนาง ข้าง ๆ ฉันอีกข้างเป็นแตงโมฝั่งขวาของแตงโมก็มีพี่เอสนั่งอารมณ์ดีอยู่
‘ตึ๊ง’ ไม่นานเสียงไลน์ฉันก็ดังขึ้น พอก้มมอง ฉันต้องเงยหน้ามองน้ำหวานทันที อยู่ตรงข้ามกันแค่นี้จะไลน์มาทำไม น้ำหวานพยักหน้า เหมือนอยากให้
ฉันอ่านให้ได้
[Namwan: ก่อนที่แกจะมา แตงโมมันลงไปข้างล่าง มีคนชนแก้วเยอะไปหมด มันบอกฉันว่ามันร้อนมากตอนนั้น เหมือนมันโดนยาปลุกเซ็กส์เลย]
ฉันละจอไปมองหน้าน้ำหวานอีกครั้ง น้ำหวานพยักหน้าและพิมพ์ต่อ
[Namwan: มันร้อนเลยเข้าห้องน้ำ ระหว่างทางเจอกับคุณเอสพอดี จากที่ก่อนหน้านี้มันแอบมองคุณเอสอยู่ มันเลยทนไม่ได้พาคุณเอสเข้าไปในห้องน้ำหญิง]
ฉันตกใจมองหน้าน้ำหวานอีกรอบ คุณเซ็นเริ่มสงสัยมองฉันกับน้ำหวานสลับกันเป็นระยะ
[Namwan: มันผลักคุณเอสเข้าไปในห้องน้ำ แล้วล็อคประตู พยายามจะข่มขืนคุณเอส]
“หะ แล้วเสร็จไหมวะ!” ฉันรีบเอามือปิดปากตัวเอง ที่เผลอหลุดถามน้ำหวานกลางวง หนุ่ม ๆ มองฉันเป็นตาเดียว น้ำหวานกุมขมับตัวเองก่อนจะนวดเบา ๆ Sorry เพื่อน
“เสร็จครับน้องณีเวีย ฮ่า ๆ” พี่ทีตอบติดตลก ยายน้ำหวานหน้าแดงเป็นลูกตำลึง เอามือไปตีแขนพี่ทีเบา ๆ และนางเหลือบตามองฉันก่อนจะก้มลงพิมพ์ต่อ
[Namwan: เสร็จสิ มันบอกว่าเจ็บมาก แต่มันอยากจนอดไม่ได้ แต่มาช็อคกว่าเดิมคือ มันมารู้ทีหลังว่าเป็นเพื่อนพี่ทีกับคุณเซ็นเนี่ยล่ะ!]
ฉันหันไปหาแตงโมเพราะแตงโมอ่านแชทน้ำหวานกับฉันด้วย แตงโมพยักหน้าให้ฉันราวกับตอบว่า ใช่แล้ว ถูกต้องทุกอย่าง!
ฉันได้แต่กุมขมับ สงสารแตงโมจับใจ ฉันพยายามให้แตงโมผ่อนคลาย
ให้นางกินน้ำเยอะ ๆ พักแอลกอฮอล์ไว้ก่อน
“ขอตัวแป๊บนะ ขอคุยด้วยหน่อย” อยู่ ๆ พี่เอสก็ลุกขึ้นยืน ดึงแขนแตงโมออกไปด้วย และแน่นอน การนินทาจึงเริ่มต้นขึ้น
“แก หรือจะอีกรอบวะ?” น้ำหวานป้องปากเหมือนกระซิบฉันคนเดียว
ไม่ต้องหรอกน้ำหวาน สองหนุ่มที่เหลือเขาได้ยินแกหมดแล้ว! คุณเซ็นเริ่มหันมามองหน้าฉัน พี่ทีก็หันมองน้ำหวานเหมือนกัน
“ไม่หรอกมั้งแก แตงโมไม่น่าทำแบบนั้นรอบสอง”
“นี่ ก็พี่เอสไง เปลี่ยนกัน อิอิ” เมื่อน้ำหวานเผลอหลุดชื่อพี่เอสออกมา สองหนุ่มเพื่อนสนิทพี่เอสก็มองหน้ากันทันที
“ตัวเอง มีอะไรจะเล่ามั้ย” พี่ทีเริ่มเปิดประเด็นอยากรู้อยากเห็น น้ำหวานจึงตัดสินใจบอกแค่ว่าสองคนนี้มีซัมติงกัน เล่ามากกว่านี้ มีหวังแตงโมได้อาย
ขึ้นไปอีก
น้ำหวานเลย ฮือ…
“อือ” แล้วเขาหันไปยิ้มอย่างภูมิใจ เหลือคนเดียวตอนนี้คือคุณเซ็นที่ยังไม่ตอบคำถาม ต้องสุ่มใครสักคนหมุนครั้งสุดท้ายเพื่อจะได้จบเกมส์ และแล้วก็ได้พี่ที ถามคำถามคุณเซ็น
“มึงจะเอาคำถามบ้านแตก หรือคำถามกลมเกลียว”
พี่ทีเลิกคิ้วกวน ๆ ใส่คุณเซ็น
“บ้านมึงอาจจะแตกก่อนบ้านกู” พี่ทีหัวเราะร่าทันที สองขั้วสองอารมณ์ขนาดนี้ มาเป็นเพื่อนกันได้ยังไงไม่รู้ ฉันละแปลกใจจริง ๆ
“นานสุดกี่นาที” อื้ม! คำถามมันไม่พ้นเรื่อง 18 จริง ๆ คุณเซ็นหันมองฉันแว๊บนึง มองทำไม ตอบไปดิ หึหึ นานสุดกับใครกัน ฉันไม่อยากรู้ ไม่อยากรู้เลย
“สามสิบนาทีมั้ง” เขาตอบนิ่ง ๆ ไม่เขินอายอะไรทั้งนั้น
“โอ้โห เทพเซ็น ฮ่า ๆ” พี่ทีกับน้ำหวานตบมือให้คุณเซ็นอีกรอบ มีแต่ฉันที่นั่งนิ่งคิดวนเวียนอยู่ในหัว
สามสิบนาทีนั้นกับใคร กับใคร กับใคร ลองนึก ๆ คำนวณ กับฉันถึงสามสิบนาทีมั้ย หรือไม่ถึง เอ๊ะ... หรือจะกับคนอื่น! แต่กับใครก็ช่างมัน ไม่เกี่ยว
กับฉัน... แล้วกับใครวะ โอ้ย เลิกอยากรู้เรื่องของเขาได้มั้ย!
ฉันหงุดหงิดเรื่องในสมองตัวเอง ก่อนคว้าเหล้ารินกระดกเพียว ๆ
แก้วใหญ่
“เห้ย แกเบา ๆ เป็นอะไรอยู่ ๆ ยกพรวด เดี๋ยวล้มตึงเหรอด”
น้ำหวานพยายามดันตัวเองปรามฉัน ฉันไม่สนใจ รินมันอีกรอบไม่อยากคิดเรื่องนี้ ไม่อยากรู้โว้ย!
“พอ ๆ เดี๋ยวก็เมาหรอก” คุณเซ็นคว้าแก้วจากมือฉันไปวางบนโต๊ะ
“เห้ยเซ็น กูทำให้บ้านมึงแตกเปล่าวะ” พี่ทีหัวเราะคิกคัก มีแต่ฉันวุ่นวายใจอย่างบอกไม่ถูก ฉันวุ่นวายใจทำไม หยุด ๆ ๆ หยุดคิด
“เดี๋ยวหัวมึงจะแตก” คุณเซ็น หันไปด่าพี่ที ที่ยังหัวเราะชอบใจ พอเขาเผลอ ฉันรีบหยิบแก้วเหล้าที่รินไว้ยกมาดื่มพรวดเดียว เมา ๆ มันจะได้ลืม!
ไม่นานน้ำหวานก็บอกว่าแตงโมไลน์มา ขอกลับก่อน นางไม่ไหวจริง ๆ ต่อไปคงจะเข็ดเรื่องชนแก้วไปทั่วอีกนาน พอฉันเมาน้ำหวานเมา เราก็แยกย้ายกันกลับ ฉันอยากจะเมาล้มพับ แต่ครั้งนี้ได้แค่เมาแอ๋ รู้ตัวว่าทำอะไร แต่ชอบห้ามตัวเองไม่ได้
“คุณ... มีเรื่องจะถาม” ฉันตัดสินใจทำลายความเงียบในรถ ตาคมหันมามองฉันแว๊บนึง ก่อนจะหันไปขับรถต่อ
“ค่อยคุยที่ห้อง จะถึงแล้ว” เขาพยายามตั้งสติขับรถ เพราะดื่มมาด้วยนิดหน่อย ไม่นานก็มาถึงตึกของเขา ข้างล่างมียามและพนักงาน ฟร้อนโรงแรมอยู่กันหลายคน ถึงห้างปิดแล้ว แต่โรงแรมยังมีแขกเข้าพักตลอดทั้งวัน พอจอดรถพี่นพก็วิ่งมารับรถไปจอดที่อื่นทันที ทุกคนยกมือไหว้คุณเซ็นรวมถึงฉันด้วย แม้ฉันจะเมาหมดสภาพแต่ก็ไม่ลืมยิ้มสวย ยกมือไหว้ตอบทุกคน
ลิฟต์มาหยุดที่ชั้นบนสุด เพนท์เฮาส์ทั้งชั้นของเขา...
“มีอะไรจะถามเหรอ?” ขณะที่ฉันกำลังจะเดินไปอาบน้ำก็ถูกเสียงนิ่งเค้นคำถามคาใจในรถต่อ
ฉันพยายามเดินเซไปหาเขา โลกมันหมุนติ้วจนเวียนหัวไปหมด
“สามสิบนาทีของคุณ กับใครคะ” ฉันตัดสินใจถาม พลางใช้นิ้วชี้ จี้ไปที่
หน้าอกเขา
“อยากรู้ไปทำไม” เขายังไม่ตอบแต่ถามคำถามฉันกลับ
“ก็ฉันอยากรู้ อยากรู้ ๆ เข้าใจมั้ย”
“อย่าสนใจ ไปอาบน้ำเถอะ” เขาไล่ฉันไปอาบน้ำ เพื่อเลี่ยงที่จะตอบคำถามฉัน หากไม่มีอะไรจะเลี่ยงตอบคำถามทำไม
“คุณคือคนแรกของฉัน ฉันไม่อยากให้คุณมีอะไรกับใครอีก มีฉันคนเดียวได้มั้ย ได้มั้ยคะ” อยู่ ๆ ฉันก็วิ่งไปซบที่อกกำยำของเขา ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำฉันกล้าทำทุกอย่าง แล้วคำที่ฉันไม่ควรพูดมันออกมา อยู่ ๆ ก็หลุดให้เขาได้ยินจนได้ ฉันคิดแบบนี้เหรอ ฉันไม่อยากให้เขามีคนอื่นนอกจากฉันเหรอเนี่ย ทำไมถึงไปพูดแบบนั้นกับเขาได้ ทำไม
“ไม่อยากมีแล้ว พอแล้ว” มือใหญ่ประคองสองแก้มฉันขึ้น ก่อนจะประกบจูบลงมาเบา ๆ ฉันชอบกลิ่นแอลกอฮอล์อ่อน ๆ นี้จัง... มันหวาน หวานจนฉันอารมณ์พุ่งพล่านไปหมด ฉันอยากจะกินเขา อยากกินเขาหมดทั้งตัวเลย...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลาด