หัวใจของนางสั่นไหวเล็กน้อย เดี๋ยวก่อนนะ นี่ไม่ใช่แต้มบุญหรอกหรือนี่!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เฉียวเจียวเจียวก็รีบเรียกร้านแต้มบุญออกมาทันที
นางจ้องมองอย่างตั้งอกตั้งใจ และมีความสุขขึ้นมาทันที
[อ๊ากกก! แต้มบุญเพิ่มขึ้นเป็น120แล้ว! ท่านแม่ ๆ ท่านช่วยได้มากจริง ๆ!]
[ฮือ ๆ เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด มีเงินมีทองมีประโยชน์กว่าจริง ๆด้วย แค่แป๊บเดียวก็ช่วยผู้คนเอาไว้ได้มากมาย สร้างแต้มบุญได้ถึงหนึ่งในห้าเท่าของชาติที่แล้วของข้าเสียอีก!]
แม้ว่าฮูหยินเฉียวจะไม่เข้าใจแต้มบุญอะไรนั่น แต่เห็นเฉียวเจียวเจียวดีใจขนาดนี้ จึงรู้ว่าที่ตัวเองทำไม่ผิดแน่
“แม่นม จงทำความดีต่อไปอย่าได้หยุด ต่อไปนี้ไม่ต้องให้ข้าสั่ง กำหนดช่วงเวลาสักวันจัดสรรเงินส่งไปให้ทุกเดือน เด็กเหล่านั้นล้วนมีชีวิตที่ยากลำบากกันจริง ๆ”
แม่นมหลิวรีบตอบรับทันใด
เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว ไม่นานแขกก็ทยอยกันมาถึง
ฮูหยินเฉียวเพิ่งออกจากการอยู่ไฟ แต่สีหน้าของนางไม่เพียงจะไม่เสื่อมโทรม แต่กลับยิ่งเปล่งประกายมากขึ้นเรื่อย ๆ
นางยังคงนั่งรับแขกในห้องโถงด้านหลังไม่ไปไหน ใครที่ได้เห็นฮูหยินของเรือนก็อดไม่ได้ที่จะอุทานด้วยความประหลาดใจ
เฉียวเจียวเจียวฮัมเพลงอย่างภาคภูมิใจ และรูปลักษณ์ที่น่ารักของนางก็ดึงดูดความสนใจของเหล่าฮูหยินทั้งหลาย
ไม่ช้าแขกก็มารวมตัวกันอยู่ที่ห้องโถงด้านหลังแล้ว เฉียวเจียวเจียวถูกทุกคนอุ้มต่อ ๆ กันจนทั่วทั้งงาน และที่ข้อมือและคอของนางก็เต็มไปด้วยสร้อยทองกำไรทองคล้องเต็มไปหมด
“ในเวลานี้ ที่ด้านนอกประตูก็มีเสียงบ่าวตะโกนดังขึ้นมา “ฮูหยินตระกูลหันพาคุณหนูตระกูลหันมาแสดงความยินดี!”
ฮูหยินเฉียวได้ยินเช่นนี้ดวงตาก็เปล่งประกายขึ้นมาทันทีดวงตาที่กลมโตของเฉียวเจียวเจียวกับฮูหยินเฉียวมีปฏิกิริยาเหมือนกันทุกประการ สองแม่ลูกมองออกไปทางด้านนอกประตูด้วยสีหน้าตั้งตารอ
ในเวลานี้กลับมีเสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นในห้อง
“ตระกูลหัน ตระกูลของพวกเขาไม่ใช่ว่าไม่เข้าร่วมงานเลี้ยงใด ๆ หรอกหรือ?”
“ชิ ปกติเห็นแกล้งทำตัวสูงส่ง วันนี้กลับกลับคำมาร่วมงานเสียแล้ว?”
ฮูหยินเฉียวได้ยินคำวิจารณ์เหล่านี้ ก็ลุกขึ้นมาขมวดคิ้วทันที
ในเวลานี้มีคนสองคนเดินเข้ามาจากทางด้านนอก
ฮูหยินที่เดินอยู่ทางด้านซ้ายดูเหมือนจะอายุใกล้จะสี่สิบแล้ว แม้ว่าเสื้อผ้าทั้งตัวที่ใส่จะมีสีสันที่สดใสเข้ากับงามฉลองก็ตาม แต่ก็สามารถมองออกว่าเป็นชุดที่เก่าแล้ว
มองไปคิ้วของนางขมวดเล็กน้อย และสีหน้าก็ดูสงบนิ่งเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสายตาที่มองสำรวจมาของทุกคน กลับไม่แสดงออกถึงอารมณ์ใดๆ
ข้าง ๆ นางมีหญิงสาววัยแรกแย้มที่งดงามคนหนึ่งเดินมาด้วย นางสวมชุดกระโปรงยาวสีเหลืองอ่อน รูปร่างผอมเพรียว และเดินอกผายไหล่ผึ่งอย่างสง่างาม
เฉียวเจียวเจียวมองดูใบหน้าของสาวน้อยคนนั้นอย่างละเอียด นางไม่ได้สวยจนต้องตกตะลึงอะไรเช่นนั้น แต่ที่โดดเด่นก็คือความงามที่ดูเรียบร้อยดั่งผ้าพับไว้ และดูไม่หยิ่งผยองนั่นต่างหาก
[อ๊ากกก! ท่านแม่! เป็นพี่สะใภ้ใหญ่! ว่าที่ลูกสะใภ้ในอนาคตของท่าน! ข้าชอบมากเลย! ฮือ ๆ ๆ มองแวบแรกก็ชอบแล้ว!]
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาฝ่าลิขิตสวรรค์
รออัพเดทอยู่น๊า...