ฮิ ๆ แก้วตาดวงใจของพ่อ พ่อจะสอยเอาดวงดาวและดวงจันทร์บนท้องฟ้ามาให้ลูกเอง!
อีกทางด้านหนึ่ง หวาต้าไม่กล้าที่จะปิดบังแต่อย่างใดและเริ่มพูดความจริงออกมาด้วยความระมัดระวัง
หากไม่ถามก็ไม่รู้แต่พอได้ถามขึ้นมาจริง ๆ ก็ต้องตกใจอย่างมาก!
หวาต้ากับป้ากู้เป็นคนเก่าแก่ในจวนนี้กันทั้งคู่ พวกเขาสองสามีภรรยามีคนหนึ่งทำงานอยู่ในเรือนหน้า ส่วนอีกคนทำงานอยู่ในเรือนหลัง
หลายปีที่ผ่านมา พวกเขาทำการจัดหางานให้เหล่าพี่สะใภ้ น้องสะใภ้ พี่สาว น้องชาย หลานชาย หลานสาวให้ได้ทำงานในจวนทั้งหมด
นอกจากนี้ลูกชายคนโตของเขาก็ทำงานที่เรือนชิงจู๋ของเฉียวเทียนจิงจริง ๆด้วย
เฉียวจงกั๋วฟังมาถึงตรงนี้ สีหน้าก็อึมครึมลงทันที
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าในอ้อมแขนของเขาอุ้มเฉียวเจียวเจียวเอาไว้ ตามอุปนิสัยที่ฉุนเฉียวหัวร้อนง่ายของเขาแล้ว เฉียวจงกั๋วคงจะทุบโต๊ะไปนานแล้ว
เขาพยายามระงับไฟโกรธในใจ และพูดอย่างเย็นชาว่า “หลายปีมานี้ข้าคงตาบอดเสียแล้ว เกรงว่าจวนเฉียวแห่งนี้จะเป็นของสกุลหวาต้าไปเสียแล้ว!”
หวาต้าได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจจนขาสั่น และคุกเข่าลงกับพื้นทันที
“มิกล้าขอรับ! นายท่าน! พวกเราไม่กล้าทำอีกแล้ว!”
เวลานี้มีผู้ดูแลของเรือนต่าง ๆ ในจวนมายืนมุ่งดูอยู่ พอได้ยินเช่นนี้ก็รู้ทันทีว่าครอบครัวหวาต้าทั้งครอบครัวคงจะอยู่ต่อไม่ได้แล้ว
เห็นได้ชัดว่าวันนี้ที่ทำการลงทัณฑ์อย่างเปิดเผยเช่นนี้ ก็เพื่อจะตักเตือนคนรับใช้เช่นพวกเขา
เฉียวจงกั๋วค่อย ๆ ยืนขึ้นช้า ๆ เขาที่อยู่ในวัยกลางคนแล้วแต่ท่าทางก็ยังคงสง่างามและยังดูหล่อเหลาอยู่ เขาเอ่ยพูดอย่างเย็นชาว่า
“กล้าหลอกลวงเบื้องสูง ยักยอกทรัพย์สิน สั่งสอนลูกสาวในทางที่ไม่ดี อีกทั้งยังเลือกใช้คนมาทำงานก็เลือกแต่คนที่สนิทด้วยเท่านั้น ช่างกล้ายิ่งนัก!”
“ใครก็ได้พาครอบครัวหวาต้าทั้งตระกูลขับไล่ออกจากจวนเฉียวไปให้หมด ห้ามให้เอาเงินติดตัวไปแม้แต่แดงเดียว และแม้แต่กระดาษสักแผ่นเดียวก็ไม่อนุญาตให้เอาออกไป!”
“อีกอย่างไปค้นดูที่ห้องครอบครัวหวาต้าดูสิว่า หลายปีที่ผ่านมานี้ได้ทำอะไรไม่สะอาดเอาไว้หรือไม่ ถ้ามีก็นำกลับมาด้วยทั้งหมด ข้าจะตรวจสอบด้วยตัวของข้าเอง!”
วินาทีต่อมาเสียงกรีดร้องและเสียงร้องไห้ขอความเมตตาก็ดังขึ้นลั่นเรือน แต่คนอื่น ๆ พากันเงียบกริบ กลัวยิ่งกว่าจักจั่นไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตาสักคน
[ว้าววว! นี่เรียกว่าการจัดการอย่างรวดเร็วและเฉียบขาด ด้วยการปิดน้ำไม่ให้รั่วไปไหนได้สักหยดเดียว ใช้ความเมตตาและความเข้มงวดได้อย่างเท่าเทียมกัน! ท่านพ่อรีบมากินตดรุ้งของข้าเร็วเข้า!]
เฉียวจงกั๋ว “...”
ลูกสาวของข้าอึแล้วหรือนี่?
เขาถึงกระทั่งที่โน้มตัวลงไปดมกลิ่นเลยด้วยซ้ำ
ไม่เหม็นสักนิดลูกสาวของข้าหอมจริง ๆ!
หลังจากผ่านเหตุการณ์เมื่อเช้านี้มา สามพ่อลูกตระกูลเฉียวก็ได้ยอมรับและเชื่อในความสามารถในการทำนายอนาคตของเฉียวเจียวเจียวแล้ว
นางเพิ่งเกิดมาได้แค่สองวัน ก็รู้แล้วว่าลูกชายของหวาต้าทำงานอยู่ที่ไหน นี่ต้องเป็นปาฏิหาริย์แน่นอน!
และสิ่งที่นางเปิดเผยในครั้งนี้สำคัญอย่างยิ่งต่อเฉียวเทียนจิง
ในขณะที่เฉียวเทียนจิงกำลังรู้สึกโชคดีในใจ ขณะเดียวกันก็รู้สึกเอ็นดูและซาบซึ้งใจต่อเฉียวเจียวเจียว
“ท่านพ่อ ข้าก็อยากอุ้มน้องสาวบ้าง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาฝ่าลิขิตสวรรค์
รออัพเดทอยู่น๊า...