เฟิ่งชิงหัวตบไหล่ของเขา กล่าวด้วยยิ้มตาหยี : “ดีมาก ข้าเอาใจช่วยเจ้า งั้นข้าไปก่อนล่ะ”
อู่ตู๋จื่อกล่าวอย่างนอบน้อม : “อาจารย์ย่าเดินทางปลอดภัย”
เฟิ่งชิงหัวมองงานอีกสองประโยคก่อนจะกระโดดลอยออกจากกำแพง
ลานบ้านที่อู่ตู๋จื่อเลือกนั้นเปลี่ยว แต่มีข้อดีนั่นคือรอบทิศไม่มีบ้านคน เฟิ่งชิงหัวกระโดดกำแพงออกไปไม่ต้องกังวลจะถูกคนพบ
ทว่าเฟิ่งชิงหัวเพิ่งจะกระโดดออกกำแพง องครักษ์ดวงตาดุจคบเพลิงสิบนายปรากฏพร้อมกับต่อหน้านาง
สิบคนตรงหน้านี้ ฝีมือการต่อสู้ไม่อ่อนด้อย ถ้าเข้ามาพร้อมกัน เฟิ่งชิงหัวก็รู้ตัวว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้
“พวกเจ้าเป็นใคร ?”
“พระยาชา ท่านนายเรียนเชิญ”
เฟิ่งชิงหัวก่อนหน้าที่เข้าไปในลานบ้านจากนั้นก็เช็ดการอำพรางใบหน้า ในขณะนี้ยังรักษาใบหน้าหญิงที่แต่งเป็นชายหนานกงเยว่ลั่ว คนเหล่านี้จำนางได้ นางไม่แปลกใจเลยสักนิด
เฟิ่งชิงหัวหรี่ตามองคนเหล่านี้ก่อนกล่าว : “พวกเจ้าเป็นคนของจ้านเป่ยเซียว ?”
นางออกมาได้ไม่นาน ก็ถูกพบแล้ว จ้านเป่ยเซียวมีผู้ใต้บังคับบัญชาที่เก่งเช่นนี้ได้อย่างไรกัน
“บอกนายท่านของพวกเจ้า ข้ายังมีธุระ ยังมิกลับเร็ว ๆ นี้” เฟิ่งชิงหัวกวาดสายตาเฉียบแหลมมององครักษ์ตรงหน้า
“พระยาชา นายท่านกำชับ จะต้องพาท่านกลับไปให้ได้”
“หากข้าไม่กลับไปเล่า ?”
“นายท่านกล่าวแล้ว หากพระยาชาไม่ให้ความร่วมมือ เช่นนั้นเขาก็ไม่สามารถรักษาคำมั่นสัญญาได้ นอกจากนี้ ทางด้านจวนเฉิงเซี่ยง เขาก็ไม่มีทางที่จะรับรองอะไรได้”
เฟิ่งชิงหัวได้ยินก็เลือดพุ่ง จ้านเป่ยเซียวผู้นี้ นอกจากอำนาจข่มขู่ก็ไม่มีอะไรแล้ว
ทางด้านจวนเฉิงเซี่ยง สองสามคำนี้หมายถึงอะไร หรือเขารู้อะไร ?
เฟิ่งชิงหัวครุ่นคิดครู่หนึ่ง : “ไปก็ไป นำทางสิ”
“เชิญพระยาชาขึ้นรถม้า”
ได้ยินเขาพูดเช่นนี้ เฟิ่งชิงหัวจึงเพิ่งสังเกต หัวมุมตรอกมีรถม้าคันหนึ่งจอดอยู่
รอจนเฟิ่งชิงหัวขึ้นรถ รถม้าก็เดินรถระยะหนึ่ง เฟิ่งชิงหัวมองไปยังข้างนอก จึงเพิ่งสัเกต นี่ไม่ใช่ทางไปจวนอ๋อง
“นี่จะไปที่ไหน ?”
“เมื่อถึงแล้วพระยาชาก็จะรู้เอง”
หลังจากผ่านเวลาไม่ถึงครึ่งถ้วยชา รถม้าก็มาหยุดอยู่ที่ประตูโรงเหล้าแห่งหนึ่ง
เฟิ่งชิงหัวกระโดดลงมาจากรถม้า มองดูป้ายโรงเหล้า “หอไล่ตามเมฆา”
เฟิ่งชิงหัวเคยได้ยินหอไล่ตามเมฆา ผิวเผินเป็นโรงเหล้าที่ใหญ่ที่สุดในนครหลวงจริง ๆ แล้วกลับเป็นจุดติดต่อของหอเงาโลหิต
จ้านเป่ยเซียวอยู่ที่นี่ เป็นเรื่องบังเอิญ หรือมีความหมายลึกซึ้ง เฟิ่งชิงหัวไตร่ตรองในใจ
หอไล่ตามเมฆาพอเห็นชื่อก็ทราบความหมายแฝง หอสูงถึง 12 ชั้น รูปปั้นทองสัมฤทธิ์ของนักษัตรจีนวางอยู่ที่มุมชายคาของแต่ละชั้น สูงขึ้นไปทีละชั้น ดูสง่างามและโดดเด่น
เล่ากันว่าหากยืนอยู่ชั้นสูงสุด ก็จะสามารถกวาดเห็นทิวทัศน์ของกลางพระราชวังได้โดยตรง
แต่ก็เล่ากันว่าเป็นเช่นนั้นเท่านั้น เพราะนับตั้งแต่หลังจากชั้น 7 คนทั่วไปมิสามารถย่างก้าวเข้าไปได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว
จะอัพเรื่องนี้ต่อไปมั้ยค่ะ😭...
เรื่องนี้หายไปนาน...